ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 902

สรุปบท บทที่ 902 ลงมือเฉียบขาด: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ตอน บทที่ 902 ลงมือเฉียบขาด จาก ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 902 ลงมือเฉียบขาด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 902 ลงมือเฉียบขาด

“แกเป็นผีอะไรกันแน่ ทำไมถึงเก่งกล้าขนาดนี้ พวกเราไม่ได้เป็นศัตรูกับแก ทำไมต้องลงมือฆ่าพวกเราด้วย!”

เวลานี้หนึ่งในนักล่าชี้ไปที่เฉินเกอแล้วถามเขาออกมา

ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย จู่ๆ ก็ถูกเฉินเกอแอบโจมตี ทำให้พวกเขารู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก

“เหอๆ ไม่ทำไม ฆ่าพวกนายไม่จะเป็นต้องมีเหตุผล!”

เฉินเกอตอบเย็นชาออกมา

ล้อเล่นหรือเปล่า เป็นไปได้ยังไงที่เฉินเกอจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และเหตุผลของตัวเอง และสำหรับตัวตนที่แท้จริงของเขานั้น เป็นไปไม่ได้ที่เฉินเกอจะเปิดเผยมันออกมา

พูดจบ เฉินเกอลงมือทันที

แค่ในชั่วพริบตา เฉินเกอก็กำจัดนักล่าที่เหลือทั้งสามคนได้อย่างง่ายดาย ก่อนตายก็ไม่สามารถรู้ตัวตนของเฉินเกอได้ว่าเขาคือใคร

หลังจากที่กำจัดนักล่าทั้งสี่คนนี้แล้ว เฉินเกอลงมือทำการค้นตัวพวกเขาทันที

เฉินเกอค้นพบเจอป้ายขององค์กรนักล่า

นี่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันตัวตนของนักล่า

คนที่เป็นนักล่าขององค์กร ทุกคนต้องมีป้ายอันนี้ติดตัวเพื่อแสดงตัวตน

เฉินเกอเก็บป้ายทั้งสี่อันนี้ไว้ จากนี้บินออกไปจากที่นี่ทันที

คิดว่าพรุ่งนี้คงจะมีคนพบศพของทั้งสี่คนนี้แน่นอน

แต่ไม่มีใครรู้ได้ว่าเป็นฝีมือของเฉินเกอ เพราะเฉินเกอไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ เพราะเฉินเกอลงมือหลังจากที่แปลงร่างเป็นเจินเสินแล้ว

อีกอย่างเมื่อมีป้ายทั้งสี่นี้แล้ว ทำให้เฉินเกอและพวกทั้งสามคนไปเขตภูเขาหินฟอสเฟตได้อย่างราบรื่นมาก อย่างน้อยก็จะไม่กลายเป็นเป้าหมายขององค์กรนักล่าได้ง่าย

กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลนี้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีนี้เอง

เมื่อกลับไปถึงโรงแรม เฉินเกอได้กลับคืนร่างของตัวเอง จากนั้นหลับตาแล้วนอนหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินเกอตื่นขึ้นมาแต่เช้า

หลังจากที่ทั้งสามคนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแล้ว ได้เข้าไปนั่งในรถ

“ให้!”

เมื่อนั่งในรถแล้ว เฉินเกอยื่นป้ายของนักล่าที่ได้มาเมื่อวันให้กับเล๋ยเล่และเจินจีทั้งสองคน

“นี่คืออะไรเหรอ?”

เล๋ยเล่ถามออกมาด้วยความสงสัย

“ป้ายของนักล่า!คุณมีอันนี้ได้ยังไง?”

เจินจีมองไปที่เฉินเกอด้วยท่าทีประหลาดใจแล้วถามเขาออกมา และเหมือนจู่ๆ จะทายอะไรออกมาได้

“ป้ายอันนี้เมื่อคืนฉันยึดมาจากมือของนักล่าสี่คนนั้น สะดวกพวกเราตอนที่เดินทางไปเขตภูเขาหินฟอสเฟต จะได้ไม่กลายเป็นเป้าหมายขององค์กรนักล่าได้ง่าย และยังสามารถซ่อนเร้นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราได้”

เฉินเกอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมา

หลังจากฟังที่เฉินเกอเล่าแล้ว เจินจีและเล๋ยเล่ถึงเข้าใจความเป็นมา ที่แท้เมื่อวันเฉินเกอออกไปจัดการกำจัดนักล่าทั้งสี่คนนั้นมาแล้ว ทำได้แบบแนบเนียนจริงๆ

“ความหมายของพี่ก็คือ เมื่อมีป้ายนี้แล้ว ตัวตนของพวกเราก็จะกลายเป็นนักล่าใช่ไหม?”

เล๋ยเล่ไหวพริบดีมาก อธิบายถึงความลับที่แฝงอยู่ในนี้ออกมาได้ทันที

“ฉลาดมาก นี่ก็คือกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล!”

เฉินเกอพูดชื่นชมเล๋ยเล่ออกมา

พูดจบ เฉินเกอสตาร์ทรถ และเหยียบคันเร่ง ขับรถออกไป ทั้งสามคนได้ขับรถออกเดินทางไปที่เขตภูเขาหินฟอสเฟต

เขตภูเขาหินฟอสเฟต เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านโล่เสีย

ที่นี่มีหินฟอสเฟตมากมาย หินฟอสเฟตนี้สามารถนำมาผลิตวัสดุเคมีได้มากมาย และยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้ คนในท้องถิ่นเลือกที่จะใช้ประโยชน์ของหินฟอสเฟตสร้างความร่ำรวยให้กับพวกเขา

ระยะทางจากหมู่บ้านโล่เสียถึงเขตภูเขาหินฟอสเฟตต้องใช้เวลาสองชั่วโมง

ดังนั้นเมื่อเฉินเกอและพวกทั้งสามคนมาถึงก็เป็นเวลาเที่ยงสิบสองนาฬิกาแล้ว ได้เวลากินข้าวเที่ยงพอดี

เล๋ยเล่ถามเฉินเกอออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบา

เฉินเกอตอบและพยักหน้าออกมาอย่างไม่ลังเล : “ถูกต้อง พวกเขาเป็นนักล่าขององค์กรนักล่า มองรูปภาพบนแขนของพวกเขาก็รู้แล้ว”

คิดไม่ถึงว่าอยู่ที่นี่ก็สามารถเจอนักล่าขององค์กรนักล่าได้ ทำให้เฉินเกอทั้งสามคนรู้สึกโชคไม่ดีเลย

“พวกเราต้องทำตัวนิ่งๆ หน่อย อย่าให้ใครดูอะไรออกได้เป็นอันขาด!”

เฉินเกอไม่ลืมที่จะเตือนเล๋ยเล่และเจินจีออกมาเสียงเบา

เล๋ยเล่และเจินจีพยักหน้าออกมาพร้อมกัน ส่วนเล๋ยเล่นั้นก้มหน้าลงมาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นดูเลย เพราะกลัวว่าจะมีคนสังเกตเห็นความผิดปรกติออกมา

ผ่านไปไม่นาน กับข้าวของเฉินเกอทั้งสามคนก็ถูกเสิร์ฟออกมา

ทั้งสามคนรีบกินอาหารอย่างรวดเร็ว

แต่กินได้ไม่นาน ก็เห็นโต๊ะของนักล่าพวกนั้นหันมามองที่เฉินเกอทั้งสาม และเหมือนกำลังสนทนาอะไรกันอยู่

หลังจากที่เห็นสายตาของนักล่าพวกนี้แล้ว เล๋ยเล่ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

“พวกเขาจ้องมองพวกเราตลอด พวกเราควรทำยังไงดี?คงไม่สงสัยอะไรหรอกมั้ง?”

เล๋ยเล่ถามเฉินเกอออกมาด้วยความตื่นเต้นและกังวลเล็กน้อย

“อย่าตกใจ ใจเย็นไว้!”

เฉินเกอจ้องมองไปที่เล๋ยเล่ด้วยสายตาที่ห้ามปราม

ยิ่งเวลาแบบนี้ยิ่งต้องใจเย็น ห้ามให้นักล่าพวกนี้เห็นอะไรเด็ดขาด

หลังจากนั้น หนึ่งในนักล่าได้ลุกยืนขึ้นมา แล้วเดินหาเฉินเกอทั้งสามคน

นักล่าคนนี้ได้เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะอาหารของเฉินเกอทั้งสามคน

“โย้ว คนสวย พวกคุณมาทำอะไรที่นี่เหรอ?”

นักล่าคนนี้มองข้ามเฉินเกอและเล๋ยเล่ แต่กลับโน้มตัวมองไปที่เจินจีแล้วถามเธอออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!