ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 912

สรุปบท บทที่912 วางแผนร้าย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ตอน บทที่912 วางแผนร้าย จาก ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่912 วางแผนร้าย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่912 วางแผนร้าย

“เถ้าแก่ เข้าพักสี่คน เปิดสองห้องครับ!”

หลังจากที่เฉินเกอเดินเข้าไปด้านในแล้วก็เอ่ยพูดขึ้นกับเถ้าแก่

เถ้าแก่มองพวกเฉินเกอแล้ว ก็เอ่ยถาม : “พวกคุณมาจากที่ไหนกัน?”

ได้ยินคำถามของเถ้าแก่แล้วนั้น พวกเฉินเกอก็อึ้งไปพักหนึ่ง

“เอ่อ พวกเรามาเที่ยวที่นี่น่ะครับ มาจากเมืองชีเสีย!”

เฉินเกอตอบกลับไป

หลังจากที่เถ้าแก่ได้ยินแล้ว ก็พยักหน้าลง แล้วไม่ได้ถามอะไรขึ้นมาอีก

“นี่ กุญแจห้องของพวกคุณ ห้องอยู่ชั้นสอง เดินไปสุดระเบียงสองห้องนั้น!”

เถ้าแก่เอ่ยบอกกับเฉินเกอ

“ครับ ขอบคุณมากเถ้าแก่!”

เฉินเกอรับกุญแจมา หลังจากนั้นก็เอ่ยขอบคุณกับเถ้าแก่ไป

ทั้งสี่คนรีบเดินขึ้นไปในทันที

มาถึงชั้นบนแล้ว ก็เดินมาถึงสองห้องที่อยู่สุดทาง ห้องหนึ่งเป็นของเจินจีกับหยูซิน และอีกห้องหนึ่งแน่นอนว่าก็ต้องเป็นของเฉินเกอกับเล๋ยเล่อยู่แล้ว

ผู้หญิงผู้ชายก็ต้องแยกกันอยู่

หลังจากที่เข้าห้องแล้วนั้น เฉินเกอก็ปิดประตูลง

“พี่เฉิน นายเห็นหรือเปล่าว่าคนที่เมืองนี้มีการแสดงออกกับคนข้างนอกแปลกๆ เมื่อกี้เถ้าแก่คนนั้นสายตาที่มองพวกเราดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนัก”

เล๋ยเล่รีบอธิบายกับเฉินเกอขึ้นทันที

“อืม ฉันเองก็เห็นเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเถ้าแก่คนนี้จะไม่ใช่คนดีอะไร พวกเราคงจะต้องระวังกันให้มากหน่อย ตอนกลางคืนนายนอนไปก่อน เดี๋ยวฉันจะอยู่เฝ้าเอง หลังจากนั้นตอนดึกๆ นายค่อยมาเปลี่ยนกับฉัน”

แน่นอนว่าเฉินเกอพบเจอกับปัญหาที่เล๋ยเล่พูดออกมาทั้งหมดนี้อยู่แล้ว จึงรีบอธิบายการรับมือนี้ออกมา

“อืม ได้สิ!”

เล๋ยเล่ไม่มีความคิดเห็นใดๆ อยู่แล้ว เพราะนี่ล้วนแต่เป็นการไตร่ตรองเพื่อชีวิตของตัวเองทั้งนั้น

“ตึงตึงตึง!”

เวลานี้เองที่ประตูห้องของเฉินเกอมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ใคร?”

เฉินเกอเอ่ยถามอย่างระวังตัวขึ้นมาในทันที

“ฉันเอง เถ้าแก่ มาส่งน้ำต้มให้พวกคุณ!”

ได้ยินเพียงแค่เสียงของเถ้าแก่ที่ดังขึ้นจากทางด้านนอก

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เฉินเกอกับเล๋ยเล่ก็มองสบตากันขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

หลังจากนั้น เฉินเกอถึงได้ส่งสายตาเป็นสัญญาณบอกกับเล๋ยเล่ และเล๋ยเล่ก็เข้าใจขึ้นมาทันที เดินมาเปิดประตู

พอประตูเปิดออก เห็นเพียงแต่เถ้าแก่ที่ถือกาน้ำร้อนเดินเข้ามา แล้ววางเอาไว้บนโต๊ะ

หลังจากที่เถ้าแก่เข้ามาแล้วนั้น ก็หันมายิ้มให้กับพวกเฉินเกอเล็กน้อย

“เถ้าแก่นี่ช่างเอาใจใส่จริงๆ เลยนะ เอาน้ำร้อนมาให้พวกเราด้วย!”

เฉินเกอแสร้งยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยขอบคุณเขา

“เหอๆ ไม่เป็นไร เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำอยู่แล้ว ใช่แล้ว ตอนกลางคืนทางที่ดีที่สุดพวกคุณอย่าออกไปข้างนอกเลยนะ ตอนกลางคืนข้างนอกไม่ปลอดภัยหรอก อยู่ในห้องนี่แหล่ะ!”

แล้วเถ้าแก่ก็เอ่ยเตือนพวกเฉินเกอขึ้นอีกครั้ง

พอได้ยินแล้วเฉินเกอกับเล๋ยเล่ก็สบตากันขึ้นมาในทันใด และในขณะเดียวกันก็มีอาการที่แสดงออกถึงความสงสัยปรากฏออกมาด้วย ไม่เข้าใจว่าคำพูดของเถ้าแก่นี้หมายความว่าอะไรกันแน่

“เถ้า....”

“ครับ เถ้าแก่ พวกเรารู้แล้ว ขอบคุณที่เถ้าแก่เตือนนะครับ!”

เล๋ยเล่ที่อยากจะเอ่ยถามถึงสาเหตุ ก็ถูกเฉินเกอแย่งพูดไปเสียก่อน

“อืม ไม่เป็นไร พวกคุณต้องการอะไรก็เรียกฉันได้เลย!”

เถ้าแก่เองก็พยักหน้าตอบรับ หลังจากนั้นก็เดินออกไปจากห้องของพวกเฉินเกอ

เฉินเกอมองเถ้าแก่ที่เดินลงไปแล้ว ถึงได้ปิดประตูลงอย่างวางใจ

“พี่เฉิน เมื่อกี้นาย...”

พอประตูปิดลงแล้ว เล๋ยเล่ก็มองไปยังเฉินเกอพลางเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“เล๋ยเล่ ครั้งต่อไปนายอย่าโผงผางแบบนี้ เรื่องบางเรื่องก็ไม่น่าจะต้องถามออกไป”

เฉินเกอเอ่ยเตือนกับเล๋ยเล่

เล๋ยเล่เองก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ : “โอเค พี่เฉิน ฉันเข้าใจแล้ว”

เจินจีรู้ว่าเฉินเกอมาหาแบบนี้จะต้องมีเรื่องที่จะพูดกับเธออย่างแน่นอน ดังนั้นจึงรีบเอ่ยถามขึ้น

“ฉันกับเล๋ยเล่เห็นตรงกันว่าเถ้าแก่จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเดี๋ยวพวกเธอเก็บของแล้วไปนอนห้องพวกฉัน แล้วปล่อยให้ห้องนี้ว่างไว้”

เฉินเกอมองเจินจีแล้วเสนอออกมา

“นายหมายถึงว่าจะให้ห้องนี้เป็นเหยื่อล่อ หยั่งเชิงเล่ห์เหลี่ยมของเถ้าแก่คนนี้ใช่ไหม!”

เจินจีเองก็ฉลาดมาเช่นกัน เข้าใจความคิดของเฉินเกอในทันที

“ใช่!”

เฉินเกอพยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว

“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ตามนายแล้วกัน พวกเราจัดการล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้วจะไปหาพวกนาย!”

เจินจีตอบรับอย่างไม่มีความเห็นใดๆ

หลังจากที่กำชับเรียบร้อยแล้วนั้น เฉินเกอถึงได้พาเล๋ยเล่กลับไปยังห้องของพวกเขาเอง

และหลังจากนั้นประมาณสิบนาที เจินจีกับหยูซินก็มาในห้องของเฉินเกอ

ทั้งสี่คนนอนในห้องเดียวกัน แบบนี้ปลอดภัยขึ้นมาหน่อย

ถึงอย่างไรพวกเธอทั้งสองคนก็เป็นผู้หญิงแล้วอยู่ในห้องเดียวกัน จะต้องมีอันตรายอย่างแน่นอน ถ้าหากเถ้าแก่คนนี้เป็นคนไม่ดี แล้วคิดจะทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นก็คงจะไม่ดีแล้วจริงๆ

ถึงแม้ว่าเจินจีจะเป็นผู้ฝึกตน มีความสามารถอยู่ แต่ไม่แน่ว่าเถ้าแก่คนนี้จะใช้วิธีอะไรที่พิเศษๆ มาจัดการพวกเธอก็ได้

“เอาล่ะ บนเตียงให้พวกเธอสองคนที่เป็นผู้หญิงนอนแล้วกันนะ ฉันกับเล๋ยเล่นั่งหลับตรงโต๊ะนี่ ตอนกลางคืนฉันกับเล๋ยเล่จะสลับกันเฝ้า ถ้ามีเคลื่อนไหวจะรีบแจ้งพวกเธอนะ!”

เฉินเกอมองพวกเจินจีพลางเอ่ยบอก

พูดจบแล้วนั้น เฉินเกอกับเล๋ยเล่ทั้งสองคนก็นั่งลงตรงด้านหน้าโต๊ะ

เจินจีกับหยูซินก็นอนลงบนเตียง

คืนนี้ได้ถูกกำหนดแล้วว่าจะเป็นคืนที่นอนไม่หลับไปเสียแล้ว

จนกระทั่งกลางดึกช่วงเวลาที่เงียบสงัด ทางด้านนอกนั้นเงียบลงหมดแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรแม้แต่นิดเดียว แม้แต่เสียงนกก็ไม่มีเลยเสียด้วยซ้ำ ให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

“ตึก ตึก ตึก”

เวลานี้เอง ได้ยินเพียงแค่เสียงของฝีเท้าที่เดินอยู่จากทางด้านนอกประตูดังขึ้นมา

หลังจากที่ได้ยินเสียงฝีเท้าแล้วนั้น เฉินเกอกับเล๋ยเล่ก็ระวังตัวขึ้นมาในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!