ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 913

บทที่913 ช่วงดึก

และวินาทีต่อมา

เงาของคนคนหนึ่งก็ปรากฏอยู่ตรงตาแมว

ทันใดนั้นเองเฉินเกอก็เบิกตากว้างขึ้นมา

ไม่ผิดแน่ เงาของคนที่อยู่ตรงตาแมวนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเถ้าแก่ของโรงแรมแห่งนี้นั่นเอง

เถ้าแก่ของโรงแรมเวลานี้ยืนอยู่ตรงประตูหน้าห้องเดิมของเจินจีกับหยูซินพักห้องนั้น

เฉินเกอมองเห็นผ่านตาแมวตรงประตูอย่างชัดเจน

เห็นเพียงแค่เถ้าแก่ของโรงแรมหยิบเอาสิ่งของบางอย่างคล้ายๆ กับธูปออกมาก้านหนึ่งในเสื้อของตัวเองออกมา หลังจากนั้นก็จุดมันขึ้นมา แล้ววางอยู่ตรงตำแหน่งด้านหน้าประตู ให้ควันของธูปนั้นเข้าไปยังด้านในห้อง

หลังจากที่ทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้วนั้น เถ้าแก่ของโรงแรมก็หันกลับเดินมายังประตูหน้าห้องของเฉินเกอ

เฉินเกอเห็นสถานการณ์แล้ว จึงถอยกลับมาทันที

“อะไรหรือ?”

พวกเจินจีอีกสามคนนั้นยังไม่ได้นอน เห็นปฏิกิริยาของเฉินเกอแล้วทำให้พวกเขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก แล้วเอ่ยถามเฉินเกอด้วยเสียงเบาๆ

เฉินเกอยื่นมือมาวางตรงปากของตัวเองเป็นการให้สัญญาณ

แล้วหลังจากนั้น เฉินเกอก็หยิบเอาผ้าขนหนูผืนหนึ่งขึ้นมาแล้วปิดปากปิดจมูกตัวเองเอาไว้

เห็นการกระทำของเฉินเกอแล้ว ทันใดนั้นเองทั้งสามคนก็เข้าใจขึ้นมาทันที ต่างก็พากันหยิบเอาของตัวเองออกมาแล้วปิดปากปิดจูมกเอาไว้

และเฉินเกอก็ยังไม่ลืมที่จะเปิดหน้าต่างออก

เห็นเพียงแค่เวลานี้ ใต้ประตูห้องมีควันขาวๆ ลอยเข้ามา แล้วควันขาวก็ตลบอบอวลเต็มไปทั้งห้อง

ทุกอย่างเป็นไปตามที่พวกเฉินเกอคาดการณ์เอาไว้จริงๆ เถ้าแก่โรงแรมนี้มีปัญหาจริงๆ

มาทำเรื่องแบบนี้กลางดึก จะต้องมีจุดประสงค์อื่นอย่างแน่นอน

ดีที่พวกเฉินเกอทั้งสี่คนรู้ตัวเร็ว ดังนั้นจึงสามารถรับมือกับมีปฏิกิริยาตอบกลับไปได้

ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าคงจะสลบไม่ได้สติไปตั้งแต่แรกแล้ว

เฉินเกอเดินมาตรงหน้าประตู แล้วมองสถานการณ์ทางด้านนอกผ่านทางตาแมวตรงประตูอีกครั้ง พบว่าเถ้าแก่โรงแรมได้ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทำให้เฉินเกอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก ทำไมเถ้าแก่คนนี้ถึงทำแค่เรื่องนี้แล้วเดินจากไปกัน?

ทันใดนั้นเอง เฉินเกอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วรีบเดินมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนลง

หลังจากนอนลงแล้วนั้น เฉินเกอก็ให้วิญญาณออกจากร่างในทันที

เห็นเฉินเกอนอนอยู่บนเตียงแล้วไม่ได้สติไปพักหนึ่ง เล๋ยเล่เองก็เบิกตากว้างขึ้นมา

เล๋ยเล่ที่คิดอยากจะลุกขึ้นไปดูสถานการณ์ของเฉินเกอนั้น ก็ถูกเจินจีขวางเอาไว้เสียก่อน

เจินจียื่นมือออกมาเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้เขาอย่าขยับไปทั่ว

หลังจากเห็นสัญญาณมือจากเจินจีแล้วนั้น เล๋ยเล่ถึงได้นิ่งเงียบลง แล้วนั่งลงตรงตำแหน่งของตัวเองเช่นเดิมต่อ

เวลานี้ วิญญาณของเฉินเกอออกจากร่าง เปลี่ยนเป็นวิญญาณเดินทะลุห้องออกไป เขาอยากจะดูว่าเถ้าแก่โรงแรมคนนี้ต้องการจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรกันแน่

หลังจากที่เฉินเกอออกจากห้องแล้วนั้น ก็ล่องลอยไปทั่วทุกที่ภายในโรงแรมเพื่อตรวจสอบดู

เห็นเพียงแค่เวลานี้ เถ้าแก่โรงแรมพาผู้ชายสองคนเดินขึ้นมา เดินมายังตรงด้านหน้าประตูห้องของเจินจี

เฉินเกอตามพวกเขาทั้งสามคนอยู่ทางด้านหลัง พวกเขามองไม่เห็นและก็ไม่ได้รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเฉินเกออีกด้วย มีแต่เฉินเกอจะปรากฏตัวออกมาเท่านั้นพวกเขาถึงจะรู้ได้

“ท่านเป้า ผู้หญิงสองคนนั้นอยู่ในห้องนี้ ผมใช้ธูปที่ทำให้มึนนี้ทำให้พวกเธอไม่สามารถจะตื่นขึ้นมาได้แล้ว!”

เถ้าแก่โรงแรมมองไปยังชายร่างใหญ่ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆ พลางเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ

“อืม ไม่เลว ไม่เลว ทำได้ไม่เลวเลย!”

ผู้ชายคนที่ชื่อว่าท่านเป้าพยักหน้าลงด้วยความพอใจ

พูดจบแล้วนั้น ก็เห็นเถ้าแก่โรงแรมหยิบกุญแจออกมา หลังจากนั้นก็เปิดประตูห้องของเจินจีออก

พอเปิดประตูแล้วนั้น ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปด้านใน

แต่หลังจากที่เดินเข้าไปแล้ว ทั้งสามคนก็รู้สึกอึ้งในทันที

เนื่องจากว่าทั้งห้องนั้นอยู่ในสภาพที่เป็นห้องว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่เงาของผีก็ไม่เห็นเลยเสียด้วยซ้ำ

“คนล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!