บทที่ 928 เวลาเข้าเมือง
หลังจากออกมา เขาก็เห็นเล๋ยเล่ที่กำลังนอนอยู่บนกำแพง
เฉินเกอก้มลงและตบหน้าเล๋ยเล่
“เล๋ยเล่ ตื่น นายนอนหลับไปได้ยังไง"?”
เฉินเกอเรียกเล๋ยเล่
เล๋ยเล่ตื่นขึ้นทันที จากนั้นจึงมองเฉินเกอด้วยความตะลึง
“พี่เฉิน ในที่สุดนายก็ออกมา ฉันรอนายที่นี่มาตั้งนานแล้ว”
เล๋ยเล่มองเฉินเกอและเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“นานแล้ว? แต่ฉันเพิ่งจะเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ!”
เฉินเกอตอบเล๋ยเล่ด้วยความประหลาดใจ
“จริงๆ นะ ฉันไม่ได้โกงนาย พี่เฉินนายมาเข้าไปตั้งนานแล้ว”
เล๋ยเล่จริงจังอย่างมาก ไม่มีท่าทางล้อเล่นเลยแม้แต่น้อยขณะพูดกับเฉินเกอ
เฉินเกอยังทำหน้างงงวย แต่ทันในนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของเฉินเกอ
หรือว่า.. เวลาในหอคอยแตกต่างกับเวลาข้างนอกโดยสิ้นเชิง เหมือนกันประโยคที่ว่า เวลาบนสวรรค์หนึ่งวันคือหนึ่งปีในโลก
แต่นี่มันน่าทึ่งมากจริงๆ
“ช่างเถอะ ได้ใบอนุญาตมาแล้ว พวกเราออกเดินทางเถอะ!”
เฉินเกอเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ในเมื่อตอนนี้พวกเขามีใบอนุญาตแล้ว พวกเขาก็ควรรีบเข้าสู่แดนจี๋หยิงของเมืองกุ่ยเสียก่อน
พูดจบ ทั้งสองก็มาที่เมืองอีกครั้ง
หลังจากกลับมาอีกครั้ง เฉินเกอก็ได้หยิบใบอนุญาตส่งไปให้ทหารยมบาล
หลังจากเห็นใบอนุญาตของเฉินเกอ ทหารยมบาลก็ให้พวกเฉินเกอเข้าสู่เมืองกุ่ย
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าสู่เมืองกุ่ยอย่างราบรื่น
“พี่เฉิน เมื่อครู่นี้ในหอคอยพี่เจออะไรมากันแน่?”
ในตอนนี้ เล๋ยเล่กำลังมองเฉินเกอและถามอย่างสงสัย
เฉินเกอเหลือบมองเล๋ยเล่
“ผ่านบททดสอบของชีวิตมาสักหน่อย! ”
เฉินเกอตอบกลับเล๋ยเล่อย่างง่ายๆ
แม้ว่ามันจะฟังดูเป็นประโยคที่ตอบอย่างขอไปที แต่อันที่จริงสิ่งที่เฉินเกอพูดนั้นคือความจริง เขาผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับทุกอย่างในชีวิตที่นั่น อีกทั้งยังเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับชีวิต
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้รับกุญแจที่จะเปิดประตูเข้าสู่เผ่าเส่ส้า
“หา?”
เล๋ยเล่หลังจากได้ฟังก็มีสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจความหมายของเฉินเกอเลยสักนิด
“จะบอกข่าวดีให้นายรู้เรื่องหนึ่ง ฉันได้กุญแจที่จะเปิดประตูเข้าสู่เผ่าเส่ส้ามาแล้ว! "
จากนั้นเฉินเกอก็กระซิบที่หูของเล๋ยเล่และเอ่ยเสียงเบา
แน่นอนว่ามีข่าวดีย่อมต้องแบ่งปัน
เมื่อได้ยินข่าวดี เล๋ยเล่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
“จริงๆ หรือ"?”
เล๋ยเล่อุทาน
“ชู่ว! ”
เฉินเกอทำท่าทางให้เล๋ยเล่เบาเสียงลงอย่างรวดเร็ว
“นายช่วยเบาลงหน่อย กลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้หรือยังไง?”
เฉินเกอเหลือบมองเล๋ยเล่ขณะพูด
เล๋ยเล่เองก็สงบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเอามือปิดปากตนไว้
ระหว่างการสนทนา ทั้งสองก็ได้มาถึงเมืองกุ่ยแล้ว
ทั้งเมืองเต็มไปด้วยวิญญาณผีเร่ร่อนพเนจร
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะไม่ได้แตกต่างจากเมืองข้างนอกอื่นๆ วิญญาณผีเหล่านี้ล้วนมีวิถีชีวิตของตัวเองก็แค่มันแตกต่างจากคนเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง ทหารผีหลายนายบนม้าผีก็เข้ามาหาพวกเฉินเกอ
ทหารผีล้อมเฉินเกอเอาไว้
“พวกนาย จงมากับเรา! "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!