บทที่935 ออกเดินทางทันที
หลังจากที่ดูข้อมูลแล้ว เฉินเกอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พระพรหม?มันคืออะไร?”
เฉินเกอเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปที่หลี่เย่วเหออย่างสงสัยแล้วถามขึ้น
“ออ พระพรหมเป็นชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่เพิ่งปรากฏตัวใหม่ในช่วงนี้ เขาสามารถมองเห็นอดีตกับปัจจุบัน และคำนวณชีวิตได้ ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็เชื่อในความสามารถของเขา คุณเฉินเกอคุณไม่เคยได้ยินมาก่อนเหรอ?”
หลี่เย่วเหอรีบอธิบายให้เฉินเกอฟัง จากนั้นก็ถามกลับเฉินเกออีกครั้ง
อันนี้เฉินเกอไม่รู้จริง ๆ เขาไม่เคยได้ยินพระพรหมอะไรนี่มาก่อน
“พี่เฉิน พระพรหมอันนี้ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ ฉันเคยดูวีดีโอและข้อมูลของเขามาเยอะมาก ฉันมีความรู้สึกว่าเขากู่เรื่องสร้างภาพหลอกลวง!”
ในเวลานี้เองเล๋ยเล่ก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ข้างหูของเฉินเกอแล้วพึมพำเสียงเบาและพูดให้เขาฟัง
“เป็นผีหรือเป็นคน ไปแล้วก็รู้เอง!”
เฉินเกอเองก็ตอบกลับไปเบาๆ
ตอนนี้ลำพังดูแค่ข้อมูลพวกนี้ไม่สามารถเห็นอะไรมากมายได้ ต้องหลังจากไปที่ดูสถานการณ์ที่เกิดเหตุเท่านั้นถึงจะรับรู้ได้
“ท่านหลี่ ให้พวกเราไปดูสถานที่เกิดเหตุหน่อยได้หรือเปล่า?”
หลังจากเงียบไปสักพัก เฉินเกอก็ปิดข้อมูล จากนั้นกล่าวเสนอแนะให้กับหลี่เย่วเหอ
“ได้แน่นอน!”
หลี่เย่วเหอตอบตกลงโดยไม่ลังเล
หลังจากพูดจบ หลี่เย่วเหอก็พาลูกน้องและเฉินเกอพวกเขาสองคนไปยังสถานที่เกิดเหตุโดยตรงด้วยตัวเขาเอง
สถานที่เกิดเหตุอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งของชุมชนฮัวเหอที่เมืองเจียงหลิน
ภายในของอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้มีสาวอายุประมาณ27-8คนหนึ่งพักอาศัยอยู่ ชื่อว่าอู๋ฟาง
และในคืนก่อน หลังจากที่อู๋ฟางนอนหลับไปเธอก็ไม่เคยตื่นขึ้นมาอีกเลย และมีรอยฝ่ามือสีดำคู่หนึ่งปรากฏอยู่บนเพดานเหนือศีรษะของเธอ
เมื่อพิจารณาจากกล้องวงจรปิดแล้ว ในคืนวันนั้นนอกจากอู๋ฟางคนเดียวที่เข้าออกในอพาร์ทเม้นท์แล้ว ก็ไม่มีใครเข้าออกอีกเลย และแม้แต่ถนนที่อยู่ตรงข้ามของหน้าต่างอพาร์ทเม้นท์ของอู๋ฟางเองก็มีกล้องวงจรปิด แต่ก็ไม่เห็นมีใครเดินเข้าออกในอพาร์ทเม้นท์นี้เหมือนกัน
ดังนั้นจึงสร้างความสงสัยและแปลกประหลาดอย่างมาก
หลี่เย่วเหอสั่งให้คนชันสูตรศพของอู๋ฟางอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ เธอไม่ใช่ถูกวางยาจนเสียชีวิต และบนร่างกายของเธอก็ไม่มีร่องรอยของการถูกทุบตีเลย ซึ่งบอกได้เพียงแค่ว่าอู๋ฟางนั้นเสียชีวิตอย่างน่าแปลกประหลาด
และช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย ด้วยความสิ้นหวังดังนั้นหลี่เย่วเหอจึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเฉินเกอ
เขารู้ว่าเฉินเกอมีความสำเร็จและชื่อเสียงที่โด่งดังทางด้านเรื่องผีที่เหนือธรรมชาติ ดังนั้นหลี่เย่วเหอจึงรู้สึกว่าเฉินเกอสามารถช่วยพวกเขาคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างแน่นอน
ในไม่ช้า พวกเขาทุกคนก็มากันถึงที่ชุมชนฮัวเหอ
ภายใต้การนำพาของหลี่เย่วเหอ เฉินเกอพวกเขาสองคนก็มาถึงอพาร์ทเม้นท์ที่อู๋ฟางอาศัยอยู่
เฉินเกอเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ การแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นแน่นหนาจริงจังและหนักแน่นทันที เขารู้สึกถึงอินชี่ที่หนาแน่นมาก และหากอินชี่หนาแน่นมากเกินไปจะทำให้ร่างกายของคนเกิดปฏิกิริยาปฏิเสธอย่างมาก เพราะว่าร่างกายของคนนั้นเป็นพลังหยางแต่โดยกำเนิด
“คุณเฉินเกอ คุณค้นพบอะไรบางอย่างใช่หรือเปล่า?”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเฉินเกอเปลี่ยนไป หลี่เย่วเหอก็รีบถามเฉินเกอขึ้นทันที
เฉินเกอส่ายหัวเล็กน้อย
“ตอนนี้ยังไม่มี แต่แค่รู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้อินชี่นั้นหนาแน่นมากเกินไป”
เฉินเกอตอบกลับหลี่เย่วเหอเบาๆ
พูดจบ เฉินเกอก็เดินไปข้างเตียงนอนที่อู๋ฟางนอน จากนั้นนอนลงไปบนเตียงนอนโดยตรง และเงยมองไปที่รอยฝ่ามือที่ปรากฏอยู่บนเพดาน
ทันทีที่เห็นการกระทำของเฉินเกอ หลี่เย่วเหอพวกเขาต่างก็ตกตะลึงกันหมด
และในเวลานี้เอง เฉินเกอก็หลับตาลงชั่วขณะแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ข้างๆ ของเฉินเกอ
และผู้หญิงคนนี้ก็คืออู๋ฟางนั้นเอง
อู๋ฟางนอนอยู่บนเตียงนอนเหมือนกับเฉินเกอ
“ค้นพบอะไรแล้วเหรอ?”
อู๋ฟางมองไปที่เฉินเกออย่างสงสัยแล้วถามขึ้น
เฉินเกอหันศีรษะ แล้วมองไปที่อู๋ฟาง
“คุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่ทำไมต้องเชื่อเรื่องพระพรหมด้วยล่ะ?”
เฉินเกอถามอู๋ฟางขึ้นด้วยความสงสัย
“เหอะๆ !”
อู๋ฟางนั้นหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็เหลือบสายตาของตัวเองมองไปยังรอยฝ่ามือสีดำที่อยู่บนเพดาน
เฉินเกอเองก็มองตามสายตาของเธอ
“พี่เฉิน พี่เฉิน!”
ในเวลานี้เอง เสียงตะโกนเรียกดึงเฉินเกอกลับมาจากจิตใต้สำนึกของเขา
หลังจากที่เฉินเกอดึงจิตของตัวเองกลับมาเขาก็ลืมตา และเห็นเล๋ยเล่นั่งเรียกชื่อของเขาอยู่ที่ข้างเตียงนอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!