บทที่936 ดำเนินการตรวจสอบ
หลี่เย่วเหอไม่มีความคิดเห็นใด ๆ และรีบวางสายโทรศัพท์ จากนั้นก็เหยียบไปที่คันเร่งรถ แล้วรถทั้งคันก็ควบม้าแล่นออกไป และเคลื่อนตัวไปยังทิศทางที่อยู่ของพระพรหมอย่างรวดเร็ว
และแล้วเรื่องที่เฉินเกอกังวลที่สุดก็เกิดขึ้น
ที่เฉินเกอบอกว่าการตายของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพรหมนั้น ไม่ได้หมายความว่าอู๋ฟางนั้นจะถูกฆ่าโดยพระพรหม แต่เป็นเพราะว่าเธอกับพระพรหมนั้นไปยั่วยุให้ขุ่นเคืองจากบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวด้วยกัน ดังนั้นจึงถูกฆ่าสังหารทีละคน
เพียงแต่ว่า。。เฉินเกอพวกเขามาช้าไปก้าวหนึ่ง และปล่อยให้สิ่งนั้นสังหารพระพรหมไปก่อนที่พวกเขาจะมากันถึง
ไม่ช้า เฉินเกอพวกเขาสามคนก็มากันจนถึงชมรมหลินเทียนที่พระพรหมอาศัยอยู่
ชมรมหลินเทียนนั้นก่อตั้งขึ้นโดยพระพรหม แต่ว่าตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากที่ยืนมองดูอยู่ด้านนอก และสีหน้าของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก
และในเวลานี้เอง ศพของผู้ชายคนหนึ่งถูกแขวนอยู่บนคานภายในบ้าน
ซึ่งชายคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพระพรหมนั้นเอง
หลังจากเขาเรียนจบมาเขาก็มุ่งเน้นหาความรู้ทางด้านจิตวิทยา และมีอยู่ครั้งหนึ่งเขาก็ได้ประสบความสำเร็จและได้รับชื่อเสียงของเขาภายใต้โอกาสโดยบังเอิญ
และคราวนี้ก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เครือข่ายของเขาทั้งหมดกลายเป็นที่นิยมในบนโลกออนไลน์ทันที
ผู้คนจำนวนมากมายต่างก็มาหาพระพรหมเพื่อปรึกษาและทดสอบปัญหาทางจิตใจ
เพียงแต่ว่า ใครก็คาดไม่ถึงเลยว่าพระพรหมนั้นจะตายอยู่ในชมรมของตัวเองอย่างน่าประหลาดใจ
ทันใดนั้นเอง ลูกน้องคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน และเดินตรงมาที่ตรงหน้าของหลี่เย่วเหอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หลี่เย่วเหอขมวดคิ้ว และมองไปที่ลูกน้องของเขาแล้วถามขึ้นอย่างสงสัย ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมมาก
“เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ ท่านหลี่ ตามที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกคือ โดยเดิมทีวันนี้พระพรหมกำลังให้คำปรึกษาอยู่ แต่จู่ ๆ ตัวของพระพรหมนั้นก็ถูกยกขึ้นมากลางอากาศ และมือของเขาทั้งสองข้างก็บีบไปที่ลำคอของตัวเขาเองอย่างแน่น จนในท้ายที่สุดเขาก็บีบคอของตัวเองจนเสียชีวิต!”
ลูกน้องคนนี้ของหลี่เย่วเหอเอาข้อมูลที่เขาได้มาบอกและอธิบายให้หลี่เย่วเหอฟัง
หลังจากที่หลี่เย่วเหอฟังแล้ว ก็รู้สึกตกตะลึงมากเช่นกัน เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องที่น่ากลัวเช่นนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย
และในเวลานี้เองเฉินเกอก็เดินเข้าไปด้านในโดยตรง
และเดินไปที่ด้านใต้ศพของพระพรหม แล้วเฉินเกอก็สังเกตและมองไปรอบ ๆ
แต่ก็ไม่ได้ทำให้เฉินเกอพบเบาะแสที่ผิดปกติใด ๆ เลย
“พี่เฉิน พี่คิดว่าไงบ้าง?”
เล๋ยเล่เดินไปที่ด้านข้างของเฉินเกอ แล้วถามเฉินเกอขึ้นอย่างสงสัย
“ตรงนี้มีอินชี่เหมือนกับที่พักอาศัยของอู๋ฟาง ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่าพระพรหมและอู๋ฟางนั้นเสียชีวิตด้วยน้ำมือของคนเดียวกัน”
เฉินเกอพูดการวิเคราะห์ของตัวเองออกมาโดยตรง
“แต่ว่า。。พี่เฉิน พี่ไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เหรอ?เขาบีบคอของตัวเองตายด้วยตัวของเขาเอง ใครจะสามารถทำแบบนั้นได้!”
เล๋ยเล่เองก็มองไปที่เฉินเกอและถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ
เฉินเกอมองไปที่เล๋ยเล่ จากนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย
“แน่นอนว่าตัวของเขาเองน่ะไม่สามารถทำได้ แต่ว่าผีน่ะสามารถทำได้!ผีสามารถบังคับจิตและสติสัมปชัญญะของมนุษย์ และให้พระพรหมบีบคอของตัวเองจนเสียชีวิต!ดูแล้วผีตัวนี้ไม่ใช่ผีธรรมดาแน่นอน”
เฉินเกอหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเกอ เล๋ยเล่ก็รู้สึกตกตะลึงภายในใจของเขา และอาการขนลุกก็ปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขา
“พี่เฉิน。。ถ้าอย่างนั้นพี่ก็หมายความว่าผีตัวนั้น。。เป็นไปได้ว่าตอนนี้จะอยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเรา และกำลังจ้องมองเราอยู่เหรอ?”
เล๋ยเล่หดคอของตัวเองลงโดยไม่รู้ตัว แต่ถามเฉินเกอขึ้นด้วยความหวาดกลัว
“จะพูดเช่นนี้ก็ได้ แต่ว่าผีตัวนั้นน่าจะจากไปแล้ว มิฉะนั้นแล้วฉันต้องรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของมันแน่ ๆ !”
เฉินเกอเองก็รีบพูดปลอบใจเล๋ยเล่อย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคำอธิบายเช่นนี้ของเฉินเกอ เล๋ยเล่ก็รู้สึกโล่งอก
ถ้าหากว่ามีผีตัวหนึ่งกำลังจ้องมองตัวเองอยู่รอบ ๆ ในมุมมืดนี่สิ ที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวและน่าขนลุกจริง ๆ
“คุณเฉินเกอ คุณค้นพบเหตุการณ์หรือเบาะแสอะไรที่พิเศษหรือเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!