ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 938

สรุปบท บทที่938 ตลาดนัดกลางคืน: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

สรุปเนื้อหา บทที่938 ตลาดนัดกลางคืน – ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight

บท บทที่938 ตลาดนัดกลางคืน ของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่938 ตลาดนัดกลางคืน

หลังจากที่พวกเขาสี่คนมาถึงตลาดกลางคืน พวกเขาก็หาแผงขายของและนั่งลงโดยตรง

“ว้าว ไม่คิดว่าในเมืองจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย มันทำให้ฉันรู้สึกตกตะลึงมากจริง ๆ !”

ทันทีที่นั่งลง เล๋ยเล่ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นมา

ก่อนหน้านี้เล๋ยเล่ไม่เคยมาสถานที่เช่นนี้มาก่อน และก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย

“เล๋ยเล่ คุณยังเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่อยู่เลย แม้แต่สถานที่แห่งนี้ก็ไม่รู้จัก ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยของคุณที่ผ่านมานี่มันเปล่าประโยชน์เลยจริง ๆ !”

เฉินเกอเองก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อและพูดติดตลกกับเล๋ยเล่

“ฮาๆๆๆ !”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเกอ เล๋ยเล่เองก็หัวเราะออกมาอย่างดัง พร้อมกับยื่นมือออกมาแล้วจับไปที่หลังศีรษะของตัวเอง

“ฮาฮา พี่เฉิน นั้นก็หมายความว่าฉันไม่ใช่คนที่ขี้เล่นคนหนึ่งไงครับ ฉันเป็นคนที่ซื่อสัตย์และสงบมากนะ”

เล๋ยเล่กล่าวให้คำประเมินแก่ตัวเองสูงมาก

แต่ว่าคำพูดเหล่านี้ของเขา ก็ทำให้เฉินเกอพวกเขาสามคนแสดงท่าทางมองบนขึ้นมาทันที

พวกเขาสามคนรู้สึกว่าถ้าเล๋ยเล่ได้หลงตัวเองขึ้นมาละก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเทียบได้เลย

และในเวลานี้เอง เถ้าแก่เนี้ยของร้านอาหารก็เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับเมนูอาหารในมือ

“มาค่ะ หนุ่มหล่อทั้งสอง และสาวสวยทั้งสอง ดูสิว่าพวกคุณจะทานอะไร วันนี้เรามีโปรโมชั่นส่วนลดด้วยนะ!”

เถ้าแก่เนี้ยมองไปที่พวกเขาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“จริงเหรอ?ถ้างั้นดีเลย พี่เฉิน ถ้างั้นฉันไม่เกรงใจละนะ เพราะอย่างไรพี่ก็เป็นคนจ่าย!”

เมื่อเล๋ยเล่ได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกตะลึงและตื่นเต้น แล้วรีบหยิบเมนูขึ้นมาทันที และมองไปที่เฉินเกอแล้วกล่าว

เฉินเกอเองก็ไม่ได้พูดอะไร และปล่อยให้เล๋ยเล่สั่งอาหารตามที่เขาต้องการ

เพราะอย่างไรก็ตามเฉินเกอนั้นไม่ใช่คนที่ขาดแคลนเงินอยู่แล้ว เลี้ยงก็เลี้ยงสิ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย

ไม่นาน เล๋ยเล่ก็สั่งของกินมามากมาย

“มายก็อต เล๋ยเล่ คุณสั่งมาเยอะขนาดนี้ พวกเราสี่คนจะกินหมดเหรอ?”

เมื่อเห็นเมนูที่เล๋ยเล่สั่งไป เจินจีก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

“วางใจเถอะ คุณหนูใหญ่เจิน คุณประเมินความอยากอาหารของฉันต่ำไป เชื่อฉัน กินหมดแน่นอน!”

เล๋ยเล่ตบไปที่ท้องของตัวเองแล้วพยักหน้าตอบกลับเจินจีอย่างแน่วแน่

เจินจีเองก็ทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงตามใจเล๋ยเล่ และหวังว่าจะเป็นไปตามแบบที่เล๋ยเล่พูด ว่าสามารถกินหมดแน่นอน

หลังจากผ่านไป10กว่านาที อาหารทุกอย่างก็มาจนครบหมด

หลังจากอาหารมาครบหมดแล้ว พวกเขาทั้งสี่คนก็เริ่มกินอย่างตะกละตะกลามทันที

และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเล๋ยเล่ เขากินอาหารอย่างบ้าคลั่งมาก

“นี่นี่นี่ เล๋ยเล่ คุณช่วยกินให้มันดูดีหน่อยได้ไหม กินอาหารนิดหน่อยราวกับว่าไม่ได้กินข้าวมาก100กว่าปีอย่างนั้นแหละ อย่างกับผีที่หิวโหยเลย!”

เฉินเกอมองไปที่เล๋ยเล่ด้วยท่าทีที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดีและกล่าวตักเตือนเขา

เล๋ยเล่เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่เฉินเกอ ภายในปากของเขานั้นเต็มไปด้วยอาหาร ทำให้แก้มทั้งสองข้างของเขานูนขึ้นมา

“พี่เฉิน ก็ฉันหิวเกินไปนี่นา พี่เองก็รู้ว่าเราสองคนไม่ได้กินข้าวมาทั้งวันแล้ว!”

เล๋ยเล่ตอบกลับเฉินเกอในขณะที่เคี้ยวอาหารที่เต็มปากของเขาไปด้วย

“เฮ้อ。。ไอนี่นิ ไม่สนใจภาพพจน์ของตัวเองเอาซะเลยจริง ๆ !”

เฉินเกอส่ายหัวและถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้

แต่ว่าเฉินเกอเองก็ไม่ได้ไปตำหนิติเตียนเล๋ยเล่ ในทางกลับกันเขารู้สึกว่าเล๋ยเล่เป็นคนที่จริงจังและจริงใจ ไม่ดูเสแสร้งเกินไป และคนแบบนี้จะเข้ากันได้ง่ายมาก

“ใช่แล้ว เฉินเกอ แผนการต่อไปของเราคืออะไร?”

เสียงนั้นดึงดูดความสนใจของพวกเขาทั้งสี่คนในทันที

พวกเขาทั้งสี่คนต่างก็มองไปยังทิศทางที่ส่งเสียงทุบตีพร้อมกัน

ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งถือไม้ไว้ในมือและเดินเข้ามาอย่างน่ากลัว และในขณะที่พวกเขาเดินมานั้นก็ได้ทุบแผงขายของที่อยู่รอบ ๆ อยู่ตลอดเวลา ดูๆ แล้วเหมือนว่าจะดุร้ายมาก

และเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เฉินเกอพวกเขาทั้งสี่คนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

พวกเขาทั้งสี่คนไม่คาดคิดว่าแค่ออกมาทานอาหารค่ำจะต้องพบเจอกับปัญหาที่มันยุ่งยากขนาดนี้

และในขณะนี้เอง เถ้าแก่เนี้ยของแผงก็เริ่มกังวลและกระวนกระวาย และรีบเก็บข้าวของของเธออย่างรวดเร็ว

“เถ้าแก่เนี้ย คุณทำไมรีบเก็บข้าวของไวขนาดนี้ พวกเรายังกินกันไม่หมดเลย?”

เล๋ยเล่มองไปที่เถ้าแก่เนี้ยด้วยความประหลาดใจแล้วถามขึ้น

เถ้าแก่เนี้ยมองไปที่เล๋ยเล่ จากนั้นก็รีบเอ่ยปากอธิบายขึ้นมาว่า: “ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องแล้ว วันนี้ถือว่าฉันเลี้ยงพวกคุณแล้วกันนะ”

พูดจบ เถ้าแก่เนี้ยก็เก็บข้าวของอาหารบางอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เตรียมตัวเข็นรถเข็นของตัวเองจากไป

“เถ้าแก่เนี้ย คนพวกนั้นคือใครเหรอ?ทำไมพวกคุณถึงได้หวาดกลัวคนพวกนั้นขนาดนี้?”

เฉินเกอเองก็ถามเถ้าแก่เนี้ยขึ้นด้วยความสงสัย

ที่เถ้าแก่เนี้ยลุกลี้ลุกลนมากขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะการมาของคนพวกนั้นแน่นอน ดังนั้นจึงทำให้เฉินเกอรู้สึกสงสัยมาก ว่าคนพวกนี้คือใครกันแน่

“เฮ้อ พวกเขาเป็นคนของสำนักหงซิน และพวกเขาก็เก็บค่าคุ้มครองที่นี่โดยเฉพาะ ไม่พูดละ พวกเราไปก่อนนะ!”

เถ้าแก่เนี้ยพูดอธิบายให้เฉินเกอเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเข็นรถเข็นแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

“หยุดเธอไว้เดี๋ยวนี้!”

และในเวลานี้เอง เสียงคำรามโกรธก็ดังขึ้น

หลังจากไม่กี่วินาที คนที่ถือไม้อยู่ในมือสองถึงสามคนก็พุ่งเข้ามาหยุดรถเข็นของเถ้าแก่เนี้ยไว้ จากนั้นก็ล้อมรอบเถ้าแก่เนี้ยและลูกสาวของเธอไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!