บทที่963 วางแผนใหม่
“กลับไปแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
เฉินเกอเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร จึงได้เพียงแค่พูดกับเล๋ยเล่ไปแบบนั้น
พวกเขาเลือกที่จะกลับบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกัน
เรื่องนี้ต้องวางแผนกันให้ดี
พูดจบแล้ว ทั้งสองจึงรีบออกเดินทางในทันที
ผ่านการเดินทางหนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดทั้งสองคนก็ถึงบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบเจินจีและหยูซินที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา
“เฉินเกอ เล๋ยเล่ พวกนายกลับมาแล้ว!”
เมื่อทั้งสองคนกลับมา เจินจีรีบส่งเสียงทักออกไปและลุกขึ้นมองดูเฉินเกอและเพื่อน
“อือ!”
เล๋ยเล่ส่งเสียงดังรับ จากนั้นก็ตรงไปที่โซฟาและล้มตัวลงนอน
“พระเจ้า กลับบ้านแล้วจริง ๆ สบายชะมัด!”
เล๋ยเล่แหงนหน้ามองเพดานแล้วถอนหายใจยาว
ก็พอจะดูออกอยู่ว่าการจากบ้านไปนานทำให้เล๋ยเล่ต้องทุกข์ใจเพียงใด
เมื่อเห็นเล๋ยเล่เป็นเช่นนั้น ยิ่งทำให้เจินจีเป็นกังวลแล้วหันไปมองเฉินเกอ
“เฉินเกอ พวกนายไม่เป็นไรใช่ไหม? ”
เฉินเกอส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วตอบ “ไม่เป็นไร แค่เหนื่อยนิดหน่อย!”
เมื่อพูดจบ ครั้งนี้เฉินเกอก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาบ้างแล้ว
ตอนนี้เขาอยากจะนอนหลับให้สนิทสักตื่นแล้วค่อยคุย ในช่วงนี้ต้องเจอเรื่องราวมากมาย ควรจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอเสียบ้าง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องอีกเยอะรอให้พวกเขาเข้าไปแก้ไขนะ
ตอนนี้หลินเทียนหยวนเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดแล้ว หลินเทียนหยวนเองก็คงไม่ปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ ยิ่งกว่านั้นคงจะหวนกลับมาอีกแน่ ไม่มีใครมีทางรู้ได้เลยว่าหลินเทียนหยวนจะก่อเรื่องน่ากลัวอะไรได้อีก
หลังจากพูดคุยกับเจินจีคร่าว ๆ แล้ว เฉินเกอและเพื่อนก็กลับไปพักผ่อนและนอนที่ห้องพักของตนเอง
ดูเฉินเกอแบบนี้แล้ว เจินจีปวดใจอยู่ไม่น้อย เธอรู้ว่าเฉินเกอจะต้องเหน็ดเหนื่อยและพบเจอเรื่องราวมากมาย
ดังนั้น เย็นนั้นเจินจีจึงได้พาหยูซินออกไปซื้ออาหารและอาหารเสริมมากมาย และทำอาหารมากมายให้เฉินเกอกับเล๋ยเล่ทั้งสองคนได้บำรุง
เฉินเกอและเล๋ยเล่นอนและตื่นขึ้นมาอีกทีตอนสองทุ่ม
ครั้งนี้เป็นการนอนหลับที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกว่าได้หลับอย่างสบาย
หลังทั้งสองตื่นมาก็เห็นอาหารวางเต็มโต๊ะ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกทั้งอบอุ่นใจและตื่นเต้นเป็นที่สุด
มันเหมือนกับการที่ผู้ชายที่แต่งงานแล้วตรากตรำทำงานหนักมาทั้งวันแล้วกลับบ้านเจออาหารวางเต็มโต๊ะแบบนั้น มันช่างวิเศษจริง ๆ
เพียงแต่ว่าไม่อาจมีใครล่วงรู้ว่าวันเวลาที่แสนวิเศษแบบนี้จะดำเนินต่อไปอีกได้นานแค่ไหนกัน
“โอ้โห มีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลย แม่เจ้า!”
เล๋ยเล่นั่งลงด้วยดวงตาสุกสกาวและพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“หยูซินกับฉันเตรียมอาหารพวกนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เพื่อเป็นรางวัลให้พวกนายไง รู้ว่าช่วงนี้พวกนายคงต้องเหนื่อยและลำบากมามาก ดังนั้นพวกนายต้องกินอาหารดี ๆ สักมื้อ”
เจินจียิ้มและพูดกับเฉินเกอกับเล๋บเล่
“ขอบคุณครับคุณหนูใหญ่เจิน คุณหนูใหญ่เจินใจดีเกินไปแล้ว!”
หลังจากเล๋ยเล่ได้ฟัง ก็รีบกล่าวขอบคุณเจินจีทันที
“หึ เล๋ยเล่ นายไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ในนั้นก็มีส่วนของฉันด้วยย่ะ!”
เมื่อเห็นเพียงเล๋ยเล่ที่กล่าวขอบคุณเจินจีเท่านั้น หยูซินที่อยู่ข้างๆก็เริ่มไม่พอใจและมุ่ยปากบ่นกับเล๋ยเล่ทันที
เมื่อเล๋ยเล่ได้ฟังก็กระอักกระอ่วนพักหนึ่ง จากนั้นก็รีบยิ้มและขอบคุณหยูซิน: “หึ ๆ ขอบคุณหยูซินด้วย นี่ผมลืมไปได้ยังไงนะ”
“หึ นายรู้ก็ดีแล้วย่ะ!”
เห็นเพียงเงาดำที่ลอยลงมาจากท้องฟ้ามืดมิดตรงเข้ามาในตึกบริษัทลี่ยุ่น
ถูกแล้ว หมอกดำนั่นไม่ใช่ใคร มันคือหลินเทียนหยวนที่กลายพันธุ์
หลังจากหลินเทียนหยวนจากไป ก็ตรงกลับเข้าไปในเมือง พอตกดึกจึงกล้าโผล่มาที่บริษัทของตนเอง
ในช่วงเวลากลางวันนั้น หลินเทียนหยวนไม่กล้าออกมาเพราะกลัวคนจะเห็น
เมื่อกลับเข้าไปในห้องทำงานของตนได้ หลินเทียนหยวนหยิบเหล้าออกมาจากตู้แล้วดื่มมันทันที
“ใคร? ”
ใครอยู่ในนั้น? ”
ในเวลานั้น หลินเทียนหยวนยังไม่ทันดื่มได้กี่อึก ก็ได้ยินเสียงคนดังมาจากนอกประตู
เมื่อสิ้นเสียง ผู้ชายสวมชุดรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาและยืนอยู่ด้านหลังหลินเทียนหยวน แล้วใช้ไฟฉายส่องเข้าที่ด้านหลังของหลินเทียนหยวน
“คุณเป็นใคร? นี่เป็นห้องทำงานของท่านประธานของเรา ใครอนุญาตให้คุณเข้ามา? ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยนั้นไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าก็คือหลินเทียนหยวน เขาตะคอกถามหลินเทียนหยวนด้วยความโกรธ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเทียนหยวนจึงได้ค่อย ๆ หันตัวกลับมาและเปิดเผยใบหน้าของตนกับพนักงานรักษาความปลอดภัย
พอพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นก็ตกใจและเบิกตาโพลง
วินาทีต่อมายังไม่ทันที่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นจะร้องออกมา หลินเทียนหยวนก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าและคว้าคอของพนักงานรักษาความปลอดภัยไว้
หน้าของพนักงานรักษาความปลอดภัยแดงก่ำ ไฟฉายในมือตกลงพื้น ตาเหลือกขาว หายใจไม่ออกและทุรนทุราย
ในพริบตาใบหน้าของพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เหมือนซีดเทา ดวงตาขึ้นขาวเหมือนตาปลาและเสียชีวิตในทันที ดวงวิญญาณและ พลังจิง ถูกหลินเทียนหยวนดูดเข้าไปทันที
หลังจากดูดดวงวิญญาณและ พลังจิง ของพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าไป ก็ทำให้หลินเทียนหยวนรู้สึกสบายเป็นที่สุด
จากนั้น หลินเทียนหยวนหันไปมองไฟฉายที่ตกอยู่บนพื้นแล้วเหยียบมันแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ อยู่บนพื้น
บาดแผลที่ถูกกระบี่ซิงหยวนของเฉินเกอเล่นงานก่อนหน้านี้ ทำให้หลินเทียนหยวนเป็นแผลใหญ่ดังนั้นเขาจึงจำต้องรักษาแผลของตนเอง
และวิธีการรักษาบาดแผลก็คือการดูดกลืนวิญญาณและพลังจิงของมนุษย์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!
พระเอกแม่งโครต looser จัดสภาพ...