“เธอชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหรอ” ลูแปงเอ่ยถามคนตัวเล็กหลังจากทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย และกำลังเดินออกมาด้านนอกร้าน
“อือ”
“ถึงว่าวันนี้เธอกินเยอะ”
“ฉันก็กินปกติ” ทิชาแย้งกลับไปเมื่ออีกฝ่ายแสดงสีหน้าประหลาดใจตั้งแต่อยู่ในร้านจนออกมาข้างนอก ที่จริงแล้วเธออาจจะกินมากกว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากเอฟเฟกต์จากการเป็นประจำเดือนที่ผู้หญิงส่วนมากจะพบเจอ
“อ่าฮะ เธออยากชอปปิงต่อไหมหรือยังจะกลับแล้ว”
“ไม่แล้วล่ะ กลับเลยก็ได้” หญิงสาวตอบอย่างไม่เรื่องมาก เนื่องจากทิชาไม่ใช่สายชอปปิงมากเท่าไร เพราะปกติเธอจะสั่งซื้อจากพนักงานที่รู้จักกันผ่านไลน์มากกว่า
ลูแปงรวมถุงกระดาษมาถือไว้ในมือข้างเดียว ก่อนที่เขาจะคว้ามือเล็กมาจับประสานเดินมาที่รถยนต์ราคาแพงของตัวเองทันที แต่ทว่าระหว่างทางกลับเจอสิ่งที่ทำให้ทิชาถึงกับหน้าถอดสี
“ยัยทิชา!” เพียงก้าวเดียวทิชาก็จะเดินพ้นประตูห้าง แต่เสียงที่คุ้นเคยของเพื่อนสนิทที่สุดอย่างบีน่าก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ร่างเล็กทำท่าจะไม่หยุดเดินราวกับไม่รู้จักเจ้าของเสีบงเรียกชื่อเมื่อสักครู่นี้ “หยุดเดินเลยนะ!”
“นายไปที่รถก่อน เดี๋ยวฉันตามไป” ดวงตากลมโตเหลือบมองคนข้างกายเล็กน้อย แล้วสะบัดมือหนาออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเอ่ยสั่งเขาลอดไรฟันให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน แต่ลูแปงกลับร้ายกว่านั้นเขาหันหน้าไปมองข้างหลังเพื่อให้บีน่ามองเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
“ไม่พาฉันไปทักทายเพื่อนหน่อยเหรอ”
“ขอร้องล่ะ ไปที่รถก่อนเถอะ” ลูแปงพยักหน้ารับผ่านรอยยิ้มมุมปาก แล้วจึงยอมเดินไปที่รถง่ายๆ โดยไม่ได้อิดออดตั้งแต่แรก “รีบมาล่ะ”
“นี่แกมากับลูแปงได้ยังไงยัยทิชาาาาา!”
“ไม่ใช่”
“ไม่ใช่อะไรของแก ผมทรงนั้นหน้าแบบนั้นมีคนเดียวในโลกเท่านั้นแหละย่ะ บอกฉันมาซะดีๆ นะ” บีน่าย้อนกลับไปเสียงแหลมทันทีที่เพื่อนปฏิเสธ ทั้งที่เห็นอยู่ทนโท่ว่าคือลูแปงแห่งคณะนิเทศชัดๆ “เขามาจีบแกเหรอ”
“เปล่า”
“ยัยทิชาแกตอบมาเดี๋ยวนี้เลยนะ หรืออยากจะให้ฉันโทรหายัยมุกกับยัยจอยมาคาดคั้นแกด้วย”
“อือ เขามาจีบฉัน” ทิชาถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่แล้วยอมบอกความจริงกับเพื่อนไป เพราะหากว่ามีไข่มุกกับเอนจอยมาด้วยมันก็คงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป แถมทำให้เธอต้องโดนเพื่อนทั้งสามคนซักไซ้พร้อมกันอีกต่างหาก
“กรี๊ดดดด~ จริงเหรอ!”
“…” หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอบเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะต้องบอกเรื่องราวระหว่างเธอกับลูแปงมากก็ตาม
“โอ๊ย~ ฉันอิจฉาแกจังเลย เขาจีบแกจริงๆ ไม่ได้คิดจะเล่นๆ ใช่ไหม…แต่เดี๋ยวนะที่ฉันเคยได้ข่าวมาลูแปงไม่เคยจีบใครนะ อย่างมากสุดก็นัดเจอแล้วก็ทำเรื่องอย่างว่ากันแค่นั้นแหละ” บีน่าทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วจี้ถามเพื่อนอีกครั้ง “หรือว่าเขาจะจีบแกจริงๆ ไม่ได้หวังจะฟันแกแล้วทิ้งใช่ไหมเนี่ย”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” สำหรับทิชาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูแปงทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรทั้งที่ระหว่างเธอกับเขาก็เกินเลยกันไปแล้ว แต่ลูแปงกลับไม่มีท่าทีจะหยุดและปล่อยให้เธอเป็นอิสระเลย…ทั้งที่เขาควรจะพอใจแล้วทิ้งเธอไปเหมือนคนอื่นๆ ได้แล้ว
“ฉันว่าเขาต้องชอบแกจริงๆ แน่เลยอะ แปลว่าพันไมล์ก็มีคู่แข่งแล้วอะดิ”
“…”
“ทำหน้าคิดหนักแบบนี้ อย่าบอกนะว่าแกชอบลูแปงแล้วอะ”
“ไม่ใช่” ไม่มีทางที่เธอจะชอบคนที่พรากความบริสุทธิ์ไปโดยที่เธอไม่ได้สมยอมตั้งแต่แรก มันเป็นสิ่งที่ทำให้ทิชาต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่บ่อยๆ
“แล้วเป็นอะไร”
“ฉันเป็นห่วงความรู้สึกไมล์”
รถยนต์เคลื่อนตัวมาบนถนนเส้นหลักได้เพียงสิบห้านาที คนตัวเล็กก็เอนเบาะรถลงเล็กน้อยแล้วเอนหลังนอนหลับตาพลางคิดเหตุผลที่จะใช้บอกเพื่อนให้หลีกเลี่ยงเรื่องราวแย่ๆ ที่ลูแปงทำกับเธอ ไม่ใช่ว่าทิชาต้องการปกป้องคนร้ายแต่เธอกำลังปกป้องคนถูกกระทำอย่างตัวเองมากกว่า
“…” หญิงสาวลืมตาขึ้นมามองเจ้าของร่างสูงที่ถอดแจ็กเก็ตมาคลุมตัวให้เธอด้วยสายตาราบเรียบ
“ไม่ได้หลับเหรอ”
“เปล่า แต่พักสายตา”
“หยิบถุงสีขาวข้างหลังมาหน่อย” ทิชาหยัดตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรงแล้วเอี้ยวตัวมองถุงแบรนด์เนมสีขาวเล็กน้อย ก่อนจะหยิบมันมาวางบนตักตัวเอง ก่อนจะส่งมันให้กับลูแปง
“เอาไปสิ”
“ฉันเห็นว่ามันน่ารักดีเลยซื้อมาให้เป็นของขวัญ”
“ของขวัญอะไร”
“ตอบแทนที่เธอมาช่วยเลือกของขวัญวันเกิดให้แม่ฉันไง”
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากรับของจากนาย” ทิชาปฏิเสธเสียงเรียบแล้วเอี้ยวตัวหมายจะวางมันลงที่เดิม แต่เสียงเข้มๆ ของลูแปงก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ทิชา”
“ถ้าฉันรับก็คือจบใช่ไหม นายจะไม่เอามันมาต่อรองอะไรกับฉันอีกใช่หรือเปล่า”
“ฉันต้องเห็นเธอใส่ทุกครั้งที่เจอกัน…แค่นั้น” มันหมายความว่าทิชาต้องใส่ติดตัวตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงและแววตามันบ่งบอกอะไรบางอย่างกับทิชาได้เป็นอย่างดี…หากเธอไม่ทำตามเขาก็จะหาเรื่องเล่นงานเธอนั่นแหละคือสิ่งที่เขาอยากจะบอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก