กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง~ เสียงโทรศัพท์บนเตียงทำให้ร่าง้ล็กที่กำลังนอนหลับพักผ่อนสะลืมสะลือตื่นขึ้นมารับสายด้วยความหงุดหงิด
“ฮัลโหล”
(แต่งตัวหรือยัง อีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะไปรับ)
“อือ”
(นี่เธอนอนอยู่ใช่ไหม)
“อือ”
(รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ฉันไปถึงเธอต้องเสร็จนะ)
“อือ” ทิชาครางตอบในลำคอเสียงอู้อี้พร้อมกับกดวางสายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมา เธอวางโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจทั้งที่ยังลืมตาไม่สนิท ทั้งที่มันควรจะเป็นวันหยุดที่ให้เธอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แต่กลับถูกลูแปงบังคับให้ไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา
เรียวขาเล็กก้าวลงจากเตียงคว้าผ้าขนหนูเดินเข้ามาทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ จนกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทิชาก็กลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่สดใสปราศจากความง่วง เธอเดินมาเลือกชุดสุภาพในตู้เสื้อผ้าที่เหมาะกับงานวันเกิดของผู้ใหญ่สองสามชุด แล้วทาบบนร่างกายเพื่อเปรียบเทียบความเหมาะสม จึงได้มาเป็นชุดเดรสสีชมพูกระปิความยาวระดับหัวเข่าโชว์เรียวขายาวของเธอได้เป็นอย่างดี
ใบหน้าสะสวยถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจนเสร็จเรียบร้อย ทิชามองกล่องเครื่องประดับแบรนด์เนมที่ลูแปงเป็นคนซื้อให้ตรงหน้าอย่างชั่งใจเล็กน้อย แต่ก็ทำเป็นเมินเฉยต่อมันแล้วหยิบเครื่องปรับชิ้นโปรดออกมาสวมใส่แทน แล้วจึงเดินไปเปิดกำแพงกระจกที่เก็บกระเป๋าต่างๆ ของตัวเองเพื่อเลือกกระเป๋าที่เหมาะสมกับชุดออกมาหนึ่งใบ ก่อนจะเดินออกมานั่งเล่นโทรศัพท์รออีกฝ่ายในห้องนั่งเล่นของตัวเองเงียบๆ
ผ่านไปสักพัก…
แอดดดดด~ ประตูห้องถูกเปิดกว้างด้วยฝีมือของลูแปง เขาเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นน้ำหอม EAU DE PARFUM ของดิออร์ที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศไปด้วย
“เธออาบน้ำหอมมาเหรอ”
“ถามตัวเองก่อนไหมที่รีบๆ นี่ได้อาบน้ำหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าแต่ฉีดน้ำหอมก็จบนะ” คนถูกกระแนะกระแหนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตากลับมองค้อนเขาอย่างเอาเรื่อง
“ลองดมดูไหมล่ะ หอมทุกส่วนนะ” ลูแปงเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับจับศีรษะทุยเล็กแล้วรั้งเข้ามาใกล้บริเวณใจกลางความเป็นชายที่อยู่ในกางเกงยีนส์ของตัวเองทันที ส่งผลให้ทิชารีบยกมือดันหน้าท้องแกร่งแล้วขมวดคิ้วบึ้งตึงมองหน้าเขา ก่อนที่สิ่งนั้นจะเคลื่อนเข้ามาใกล้เธอมากกว่าเดิม
“หึ” เมื่อเห็นหน้ามุ่ยแค่ยังดูน่ารักของคนตัวเล็ก มือหนาก็ขยี้ผมดัดลอนสีน้ำตาลเล่นอย่างสนุกสนานพร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆ บนใบหน้าหล่อเหลา
“รถนายล่ะ” ทิชาเอ่ยถามคนตัวสูงด้วยความสงสัย เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ ลานจอดรถแล้วไม่เห็นรถยนต์คันคุ้นเคยของลูแปงที่มักจะจอดอยู่ในที่เดิมเป็นประจำ
ติ๊ด! เสียงปลดล็อกรถที่ดังขึ้นจากรถยนต์ราคาแพงหลายสิบล้านบาทตรงหน้า ทำให้ทิชารับรู้ว่านี่คือรถคันใหม่ที่ร่างสูงใช้ขับมารับเธอในวันนี้
“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวรถติด”
“อืม” ทิชาเลือกที่จะเมินความเอาใจใส่ที่ไม่จำเป็นของลูแปงด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนเบาะหนังสีครีม ก่อนที่อีกฝ่ายที่เป็นฝ่ายเปิดประตูรถให้เธอดมื่อสักครู่นี้จะปิดมันลงแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่ประตูรถฝั่งคนขับ
เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าที่รถของลูแปงจะเคลื่อนเข้ามาจอดสนิทหน้าคอนโดแห่งหนึ่งยานมหาวิทยาลัยของพวกเขา ทิชาเหลือบมองคนข้างกายราวกับสงสัยว่าเขามาที่นี่ทำไม แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป
“ตัวจิ๋วรถพี่อยู่นี่”
“ทำไมพี่แปงขับรถคันนี้มาล่ะคะ” เคทหันมาทำหน้าตกใจที่จู่ๆ รถคันที่จอดอยู่ตรงหน้าเป็นรถของพี่ชายทั้งที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย
“ขึ้นมาบนรถก่อนแล้วค่อยคุย”
“โหยยย! ถ้าพี่แปงทำแบบนั้น เคทคงไม่ได้มีโอกาสมีแฟน”
“เรียนจบค่อยมีแฟน”
“พี่แปงมีแฟนตอนไหนเคทก็จะมีตอนนั้นแหละ” ทิชานั่งฟังสองพี่น้องนั่งคุยกันอย่างเงียบๆ ไปตลอดทางจนกระทั่งรถยนต์เลี้ยวเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่บนเนื้อที่หลายสิบไร่ ชายฉกรรจ์ในชุดสีดำทำให้หญิงสาวรู้สึกตะหงิดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรกับเจ้าของบ้านและทันทีทุกคนลงจากรถเสร็จเรียบร้อย ทิชาก็รู้สึกขึ้นมาประหม่าเมื่อต้องเข้าไปในบ้านของลูแปงที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย
“นายเข้าไปก่อนเลย ฉันขอคุยโทรศัพท์ก่อนแป๊บนึง”
“คุยสิ ฉันรอ”
“งั้นเคทขอเข้าไปหาคุณลุงคุณป้าก่อนแล้วกันนะคะ” พูดจบเด็กสาวก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางสดใสตามสไตล์ของเธอ ในขณะที่ทิชายืนมองหน้าลูแปงอยู่นิ่งๆ
“นายเข้าไปก่อนเลย ฉันจะคุยกับพ่อแม่ฉัน”
“เธอนี่แปลกนะ อยู่ดีๆ ก็อยากคุยกับพ่อแม่ขึ้นมาทั้งที่นั่งนิ่งมาตลอดทาง” ลูแปงรู้ทันทิชาทุกอย่าง ตั้งแต่เห็นนหน้าที่เริ่มประหม่าและพยายามปรับเปลี่ยนให้กลับมาเป็นปกติแล้ว “พ่อแม่ฉันใจดี ไม่ต้องกลัวหรอก”
“ฉันไม่ได้กลัว”
“งั้นเธอก็ลองบอกเหตุผลที่อยากคุยกับพ่อแม่ขึ้นมากะทันหันให้ฉันฟังซิ แล้วฉันจะยอมปล่อยให้เธออยู่ตรงนี้คนเดียว”
“…” ทิชาชะงักไปกับข้อต่อรองที่ลูแปงเอ่ยออกมาและมากไปกว่านั้นเธอไม่สามารถคิดคำตอบที่สมเหตุสมผลได้ในทันที
“คิดไม่ทันสินะ” ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากส่งให้คนตัวเล็ก ก่อนจะเดินไปเปิดท้ายรถหยิบของขวัญที่ซื้อมามอบให้ผู้เป็นแม่มาถือไว้ในมือ แล้วจึงเดินกลับมาคว้ามือเล็กไปจับประสาน “หมดเวลาทำใจแล้วครับคุณครู”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก