“ที่นายอยากจะคุยกับฉันมีเท่านี้ใช่ไหม” ทิชาทำราวกับไม่สนใจคำข่มขู่ของลูแปง มันเหมือนทุกครั้งที่เวลาเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจก็จะหาคำพูดเหล่านี้มาหยุดการกระทำหลังจากนี้ของเธอเท่านั้น
“ประจำเดือนหมดแล้วใช่ไหม”
“…” หญิงสาวขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แถมสายตาที่เขากำลังลากไล้อยู่บนเนินอกภายใจใต้เดรสสีชมพูกะปิของเธอยังแปลกไปอีกต่างหาก
“ฉันถาม”
“ถามทำไม”
“จะได้มีเรื่องให้ทำกับเธอมากกว่านี้ไง” รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนที่เขาจะมองผ่านทิชาไปที่เตียงนอนขนาดหกฟุตของตัวเอง “ถอดชุดแล้วไปนอนบนเตียง”
“นี่บ้านนายนะ”
“ดีที่ไม่ใช่บ้านเธอ”
“ฉันจะลงไปข้างล่างแล้ว” พูดจบร่างเล็กก็หยัดตัวลุกขึ้นจากโซฟาหมายจะเดินไปที่ประตูห้อง แต่ทว่าท่อนแขนแกร่งกลับตวัดโอบรอบเอวเล็กแล้วรั้งตัวลงมานอนบนโซฟาตัวเดิมโดยมีเขาคร่อมร่างเธอไว้ “ออกไปจากตัวฉัน”
“เปลี่ยนสถานที่บ้างมันน่าตื่นเต้นจะตาย” ลูแปงโน้มลงมากระซิบประชิดใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงแปร่งปร่า ทำร่างกายเล็กขนลุกชันไปทั้งตัว ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะแตะสัมผัสที่ไหปลาร้าได้รูปลงมาถึงเนินอกอวบอิ่ม ในขณะที่มืออีกข้างเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นจนปลายถันแข็งชันเป็นไต
ทิชากัดริมฝีปากแน่นพยายามจะดันใบหน้าอีกฝ่ายออกห่างให้พ้นตัว แต่ยิ่งเขาสัมผัสร่างกายเธอมากเท่าไรก็ยิ่งอ่อนยวบยาบราวกับพร้อมใจยอมรับสัมผัสพวกนั้นทั้งที่หัวใจกำลังปฏิเสธแต่สมองกลับไม่ยอมฟัง
“ร่างกายเธอมันซื่อสัตย์กว่าปากเธออีกนะ อยากให้ฉันหยุดแต่ก็ดูเหมือนจะชอบที่ฉันทำแบบนี้”
“คิดว่าฉันจะชอบเซ็กซ์ห่วยๆ ของนายเหรอ ขนาดฉันไม่เคย…ยังรู้เลยว่าคนอื่นต้องทำดีกว่านี้แน่” ทิชาเชิดหน้ามองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย ริมฝีปากบางยักยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าของลูแปงไม่พอใจที่ถูกหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย
“อย่าปากดี”
“อย่าปากหมา”
“ทิชา!”
“ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมนะเผื่อนายไม่รู้” ยิ่งลูแปงทำท่าโมโหก็ยิ่งทำให้ทิชากวนประสาทเขามากกว่าเดิม หากสุดท้ายแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้มันก็คงไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไร
“แล้วเธอจะคิดผิดทึ่ท้าทายฉัน”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ทันทีที่ลูแปงเตรียมจะกระชากเดรสของคนใต้อาณัติออกให้พ้นทาง เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะจนทุกอย่างหยุดชะงัก ทิชาอาศัยจังหวะที่คนบนร่างหันไปมองที่ประตูผลักเขาออกเต็มแรง
“ลูแปงทำอะไรอยู่ลูก พวกลุงๆ มากันหมดแล้วนะ” เมื่อได้ยินเสียงหวานของผู้เป็นแม่เล็ดลอดผ่านช่องประตู ลูแปงก็ถอนหายใจพรืดใหญ่ในขณะที่ตัวเขาเองพยายามปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ “หนูทิชาได้ยินแม่ไหม”
“ได้ยินค่ะ เดี๋ยวทิชาเปิดประตูให้นะคะ” ทิชาขานรับคนข้างนอกเสียงดังจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วรีบสาวเท้าเดินตรงไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
“หนูอยู่คนเดียวเหรอลูก ลูแปงล่ะ”
“ลูแปงเข้าห้องน้ำค่ะ อีกสักพักน่าจะเสร็จ”
“อ๋อ…งั้นแม่ฝากบอกลูแปงให้เขารีบลงมาข้างล่างนะ เพื่อนพ่อมากันหมดแล้วจ้ะ”
“ลูแปงบอกให้หนูลงไปพร้อมกับคุณน้าเลยค่ะ เดี๋ยวเขาตามลงมา” ทิชาใช้เหตุผลบอกหญิงวัยกลางคนตรงหน้าเพื่อให้รอดพ้นจากเงื้อมมือปีศาจร้ายอย่างลูแปง ก่อนจะปิดประตูห้องสนิทเพื่อบอกว่าจะลงไปข้างล่างในทันที
“จ้ะ” เพตรายิ้มตอบอย่างเป็นมิตร เธอไม่ได้มีท่าทีสงสัยใดๆ กับทรงผมที่ยุ่งกว่าเดิมเล็กน้อยของเด็กสาวรุ่นลูก แล้วหมุนตัวเดินลงมาจากบันไดโดยมีทิชาเดินตามหลังมา “ลูแปงดื้อไหม เขาเอาแต่ใจกับหนูบ้างหรือเปล่า”
“…”
อีกด้าน…
ลูแปงเดินออกมาจากห้องของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น เพราะเขาได้จัดการกับอารมณ์ที่ค้างเติ่งพวกนั้นด้วยตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงมาจัดการกับคนตัวเล็กที่พูดจาหยามศักดิ์ศรีเขาก็เท่านั้น
“แม่ครับ ทิชาล่ะ”
“ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกน่ะ”
“ทิชาคือเด็กผู้หญิงเมื่อกี้เหรอ?”
“ใช่ค่ะพี่ควีน”
“ตอนแรกพี่นึกว่าเราตอนสาวๆ”
“ใช่ไหม เพย์ก็คิดเหมือนกัน” เพตราพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ควีนพูด เธอแอบรู้สึกว่าทิชาคับคล้ายคับคลากับเธอเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเอามากๆ
“พาแฟนมาแนะนำตัวกับป้าสิลูแปง”
“พอๆ เลยยัยแม่มด แฟนลูกฉันเธอก็จะไม่เว้นเลยหรือไง”
“ไอ้แปง เมียกูแค่อยากเห็นหลานสะใภ้ไหมวะ มึงอย่ามองเมียกูในแง่ร้าย” โนอาห์แก้ตัวแทนภรรยาของตัวเองที่มักจะถูกเพื่อนในกลุ่มจิกกัด เพราะเธอมักจะเอ็นดูเด็กผู้หญิงมากกว่าเสมอ
“เมียมึงมันเป็นแม่มดไง จ้องแต่จะคายตะขาบหาทายาทตลอดเวลา”
“งั้นเดี๋ยวผมไปตามทิชาก่อนนะครับ” ลูแปงส่ายหัวน้อยๆ ให้กับผู้ใหญ่ที่จ้องจะเถียงกันตลอดเวลาที่เจอกัน ถึงแม้ว่าจะเห็นภาพแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนชินแล้วก็ตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก