รถยนต์โดยสารเคลื่อนมาจอดบริเวณประตูรั้วของคฤหาสน์ราคาแพงของมาเฟียทรงอิทธิพล ทันทีที่ชายฉกรรจ์ที่จ้องมองมายังรถเห็นว่าเป็นใครที่เพิ่งลงมาก็รีบเปิดประตูออกมาทำความเคารพอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีครับนายน้อย”
“ปู่ย่าอยู่ไหม” ลูแปงพยักรับเล็กน้อย ก่อนที่จะถามอีกฝ่ายกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“นายใหญ่กับนายหญิงอยู่ข้างในครับ”
“อืม” เมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการ ลูแปงจึงจูงมือแฟนสาวของเขาเดินเข้ามาในบ้านโดยระยะทางจากหน้าประตูถึงคฤหาสน์เป็นระยะเกือบห้าร้อยเมตร เนื่องจากเจ้าของเป็นผู้ทรงอิทธิพลและต้องการความเป็นส่วนตัวจึงไม่อยากให้คนภายนอกที่ผ่านไปผ่านมามองเข้ามาเห็นถึงตัวบ้าน
“นายน้อยรออยู่ตรงนี้ก่อนครับ เดี๋ยวผมให้คนเอารถมารับ”
“ไม่เป็นไร ฉันเดินได้ นายกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเถอะ”
“ครับ” ชายฉกรรจ์ในชุดสีดำพยักหน้าแล้วก้มให้กับเด็กหนุ่มที่เด็กกว่าจนทิชารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น “เดินได้ใช่ไหม มันไกลนิดหน่อย”
“ได้ไม่มีปัญหา แต่ว่าทำไมถึงมีผู้ชายชุดดำยืนอยู่รอบบ้านแบบนี้ล่ะ”
“เดี๋ยวอีกหน่อย เธอก็รู้เอง” ร่างสูงไม่ได้ตอบหรือป่าวประกาศภูมิหลังของบ้านตัวเองว่าเป็นใคร ทำอะไรทำไมถึงต้องมีคนคุ้มกันตลอดเวลาแบบนี้ กว่าสิบนาทีที่ลูแปงพาทิชาเดินเล่นจนมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ที่ใหญ่โตโอ่โถงราวกับบ้านเศรษฐีที่เธอเคยดูมาในซีรีย์บางเรื่อง แต่ก็นั่นแหละบ้านของทิชาก็ไม่ต่างจากที่นี่เท่าไร เพียงแต่ว่าระยะทางจากหน้าบ้านถึงตัวบ้านมันใกล้กันนิดเดียว
“ปู่ย่านายท่านใจดีไหม”
“ใจดี ยิ่งกับคนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน พวกท่านยิ่งใจดีเลยแหละ”
“เหรอ”
“ฉันอยากเล่าอะไรให้ฟังจะฟังไหม”
“เล่ามาสิ”
“แต่ก่อนพ่อกับแม่ฉันสถานะทางบ้านหรือทางสังคมต่างกันมากเลยนะ แต่พวกท่านถูกชะตากับแม่มากเลยอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ ถึงขั้นพาแม่หนีเพราะพ่อปากแข็งไม่ยอมรับสักทีว่ารักแม่ฉันแค่ไหน”
“ทำไมพ่อนายถึงไม่ยอมรับแม่นายล่ะ”
“ทิชา…ถ้าฉันบอกความจริงกับเธอ อย่ากลัวนะ” เจ้าของร่างสูงชะงักเท้าเดิน แล้วหันมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกับแฟนสาว
“ฉันจะกลัวก็ตอนนายพูดแบบนี้แหละ”
“ตอนหนุ่มๆ พ่อฉันเป็นมาเฟียเลยปากแข็งมากไปหน่อย”
“มาเฟียเหรอ” ทิชาทวนคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดผิดคาดสักเท่าไร จากที่เห็นชายฉกรรจ์ยืนรอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ฝรั่งเศสหรือไทยก็คงจะมีไม่กี่อย่างที่ทำให้ต้องป้องกันอย่างรัดกุมขนาดนี้
“ไม่ตกใจเหรอ”
“ไม่อะ พ่อนายใจดีกับฉันนี่”
“ว่าที่ลูกสะใภ้ก็แบบนี้แหละ แต่ถ้าเป็นคนอื่นพ่อฉันไม่เคยยิ้มให้เลยนะ”
“แล้วตอนนี้ยังเป็นอยู่หรือเปล่า”
“อืม”
“แล้วนายต้องเป็นมาเฟียด้วยไหม” หญิงสาวถามออกมาด้วยความอยากรู้ หากวันนึงเธอต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอต้องรู้ไว้
“ไม่รู้สิ ถ้าเกิดวันนึงฉันต้องสืบทอดกิจการต่อก็อาจจะต้องเป็นมั้ง”
“อืม”
“ถ้าฉันเป็นเธอจะว่ายังไง”
“ฉันจะว่าอะไรได้ล่ะ มันชีวิตนายนี่ แต่ถ้านายต้องทำเรื่องไม่ดีหรือเรื่องผิดกฎหมาย ฉันก็คงรู้สึกแย่ แต่ช่างมันเถอะ เรายังไม่ต้องคิดเรื่องนั้นตอนนี้หรอก ตอนนั้นฉันอาจจะไม่คิดอะไรแล้วก็ได้”
“…” ลูแปงไม่ได้พูดหรือเอ่ยอะไรออกมาเลย เขาทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ แล้วโน้มริมฝีปากเข้าไปจูบบนหน้าผากมนหนักๆ หนึ่งที ก่อนที่จะจูงทิชาเดินเข้ามาในบ้าน
“นั่นใครมาน่ะ” เสียงแหลมของหญิงชราวัยเจ็ดสิบห้าปีที่ยังดูสะสวยไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนักหรี่ตามองทั้งสองคนด้วยความสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก