“ฉันเคยเตือนแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าพามันมาที่คอนโดอีก” ทันทีที่ประตูห้องของทิชาถูกปิดลง เสียงของลูแปงก็ถามขึ้นด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง
“ตอนที่นายพูดนายกับฉันยังไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วตอนนี้ฉันกับนายก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วเหมือนกัน ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นอีกล่ะ”
“ก็ฉันเป็นผัวเธอไงวะ ที่พูดไปไม่เข้าใจเหรอว่าไม่เลิกอะ” ทิชายกมือนวดคลึงขมับตัวเองเบาๆ เมื่อเริ่มรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา ในตอนแรกอาการป่วยของเธอเริ่มดีขึ้น แต่เพราะเจอเรื่องปวดหัวที่ลูแปงสร้างไว้ก็อดที่จะเครียดขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ “ฉันอนุญาตให้เธอทำได้ทุกอย่าง จะดื้อจะโวยวายจะโกรธฉันยังไงก็ได้ แต่อย่ายุ่งกับผู้ชายคนอื่น”
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายถึงอยากจะรั้งฉันไว้นักหนาทั้งที่ฉันพูดชัดเจนมากแล้วนะ”
“ก็ฉันรักเธอ” ชายหนุ่มขยับริมฝีปากเปล่งเสียงผะแผ่ว หากเขาไม่รักเธอทุกอย่างมันคงจบตั้งแต่วันที่เธอบอกเลิกเขาไปแล้ง
“รักฉันแต่นายกลับทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องมีนายก็ได้ทำไม” น้ำเสียงของทิชาเริ่มสั่นเครือขึ้นมา หลังจากพยายามห้ามปรามไม่ให้เห็นแสดงออกมาต่อหน้าใคร…แม้แต่เขา “ฉันอุตส่าห์เชื่อใจผู้ชายเจ้าชู้อย่างนาย ทั้งที่ฉันเกลียดนิสัยแบบนี้แต่เพราะฉันไม่อยากหลอกตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับนาย แล้วทำไมนายถึงเป็นฝ่ายหลอกฉันแทนล่ะ”
“…” ลูแปงสบตากับแววตาวูบไหวของทิชา มือไม้เขาสั่นเทาอย่างปิดไม่อยู่ เขากำลังรู้สึกกลัวกับคำพูดนิ่งๆ แบบนี้ของเธอเป็นที่สุด “ที่รัก…อย่าร้องไห้นะ อย่าร้องไห้”
“นายตั้งใจหลอกฉันตั้งแต่แรก”
“ฉันไม่ทิชา…ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอมันคือเรื่องจริงนะ ฉันกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว ถึงฉันจะไม่ได้บอกเลิกเขาตรงๆ แต่ระยะเวลาที่ฉันมีเธอ ไม่สิ…ตั้งแต่ก่อนมีเธอหลายปี ฉันก็ไม่เคยพูดคุยหรือพบหน้ากันอีกเลยนะ” ระยะทางและความสัมพันธ์ที่ห่างกัน มันทำให้เขาไม่อยากรักษาสถานะที่มีต่อดารินไว้อีกต่อไป ทั้งที่เขาคิดว่าตัวเองรักเธอมากแค่ไหน แต่อย่าลืมสิว่ามันคือความรักในวัยเด็ก เขาคบกับดารินมาตั้งแต่อายุสิบหกจนกระทั่งมาถึงอายุสิบแปด บางครั้งมันอาจจะเป็นแต่ความรู้สึกชอบแต่ไม่ได้รักเหมือนทุกทีก็ได้ แต่กับทิชาเขามันใจว่ามันคือความรัก ไม่อย่างนั้นเขาคงปล่อยมือเธอไปเหมือนกับคนอื่นๆ แล้ว
“…”
“ขอร้องล่ะ ให้โอกาสฉันหน่อยได้ไหม” ทิชาเมินเฉยต่อคำพูดของคนตัวสูงแล้วเดินมานั่งที่โซฟาเงียบๆ เธอกำลังคิดชั่งใจว่าหากตัวเองเลือกที่จะให้โอกาสเขา เธอเองต้องรับผลที่จะตามมาให้ได้เหมือนกัน
“ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะให้โอกาสนายตอนนี้ได้”
“แต่เธอยังอยากให้โอกาสฉันอยู่ไหม ฉันรักเธอนะ รักเธอมากเลย” ลูแปงเดินมานั่งคุกเข่าลงบนพื้นข้างโซฟายกมือจับหัวเข่าเล็กทั้งสองข้างไว้แน่น เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคาดหวังโดยที่ไม่เผื่อใจถึงความผิดหวังที่จะตามมา
“…”
“ทิชาตั้งแต่เราตกลงเป็นแฟนกันฉันเคยทำอะไรให้เธอเสียใจบ้างหรือเปล่า ฉันเคยมีเรื่องผู้หญิงมาทำให้เธอหนักใจบ้างไหม”
“…” ทิชาส่ายหัวปฏิเสธ เพราะถ้าไม่นับเรื่องของดาริน ลูแปงก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรให้เธอร้องไห้เสียใจหรือผิดหวังในตัวเขาเลย
“แปลว่าฉันรักเธอและอยากจะมีเธออยู่ในชีวิตตลอดไปไง เธอไม่ใช่คนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตฉันแล้วออกไป เธอเข้าใจไหม” หลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความรู้สึกที่จะอยากเก็บใครไว้ข้างๆ ตัวนานเหมือนทิชาเลย มันไม่ใช่แค่ความถูกใจแล้วก็จบด้วยหลับนอน แต่มันคือความรู้สึกที่เขารู้ว่าหากขาดเธอไปชีวิตเขาคงไม่มีความสุขแน่
“…”
“ให้โอกาสฉันนะ ให้ฉันได้พิสูจน์ตัวเองว่าฉันมีเธอคนเดียว ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตฉันเลย” เจ้าของร่างสูงคว้ามือเล็กทั้งสองข้างขึ้นมาจูบเบาๆ แล้วจับมันแนบไว้กับหน้าอกข้างซ้าย
“นายแน่ใจเหรอว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจอีกได้”
“ฉันสัญญาหรือจะให้ฉันไปสาบานที่ไหนก็ได้ ว่าฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว กลับมาเป็นแฟนกันได้ไหม”
“ฉันคงทำอย่างนั้นตอนนี้ไม่ได้ ฉันยังไม่ไว้ใจนายลูแปง” ถึงคำพูดของเขาจะดูน่าใจอ่อน แต่สำหรับทิชามันคือการตัดสินใจครั้งใหญ่มากๆ สำหรับเธอเลย
“งั้นให้ฉันจีบเธออีกครั้งนะ”
“นายเคยจีบฉันเหรอ ก็เอาแต่บังคับ” ทิชาไม่เคยมีความรู้สึกว่าลูแปงเข้าหาเธอเหมือนคนอื่นๆ เลยสักนิด รวบรัดเธอไปแทบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบนเตียงหรือสถานะความสัมพันธ์
“ครั้งนี้จีบจริงๆ แล้วเธอก็ห้ามให้คนอื่นมาจีบด้วย ฉันจีบได้คนเดียว”
“ฉันยังไม่ตกลงนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก