“นินทาฉันระยะเผาขนเลยนะ”
“เสียมารยาท มาอ่านอะไรเนี่ย” ทิชาเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองคืน แต่ลูแปงกลับตีมือเธอเบาๆ แล้วก้มหน้าอ่านข้อความในโทรศัพท์ต่อ
“ไม่อ่านจะรู้ไหมว่าเธอกับเพื่อนนินทาฉันสนุกกันขนาดนี้”
“ทำตัวเอง นิสัยไม่ดีแล้วอย่าลืมไปขอโทษพันไมล์ด้วย”
“ฉันไม่ขอโทษหรอก มันสมควรโดนแล้ว อุตส่าห์เตือนมันแล้วว่าอย่ามายุ่งกับเธอ มันยังเสือกเสนอหน้า”
“ลูแปง” ร่างเล็กเค้นเสียงปรามคนตัวสูงที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำผิด แถมยังเถียงออกมาข้างๆ คูๆ อีกต่างหาก
“ไม่ต้องมาทำเสียงไม่พอใจเลยนะ ฉันก็ไม่พอใจเหมือนกันที่เธอกับมันใกล้ชิดกันขนาดนั้น แถมยังให้มันลงรูปเธอในไอจีทั้งที่ฉันเป็นผัวเธอ”
“รูป?”
“ก็รูปเมื่อวานที่มือเธอถือไอแพดอยู่ไง”
“ฉันไม่รู้” นี่สินะคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูแปงบุกมาถึงห้องเธอ ทั้งที่ไม่โผล่หน้ามาหาเธอเลยตั้งสองวัน “พันไมล์ไม่ได้แท็กฉันมาเหมือนนาย”
“ลองมันแท็กดูสิ ฉันได้กระแทกหน้ามันอีกรอบแน่”
“ฉันไม่ชอบคนใช้ความรุนแรงนะ ถ้านายยังนิสัยเสียอยู่แบบนี้ ฉันจะไม่ให้นายเห็นหน้าฉันอีกต่อไปเลย” ลูแปงทำหน้าบึ้งตึง แล้วปิดหน้าจอโทรศัพท์ของทิชา ก่อนจะเลื่อนมันไปคืนเธอด้วยท่าทีนิ่งๆ ดูยังไงก็เหมือนเขากำลังกลับมาทำตัวงี่เง่าแบบเดิมอีกแล้ว
“ใช่สิ ตอนนี้ฉันทำอะไรก็ผิดไปหมดนั่นแหละ ขอโทษแล้วกัน” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่ากำลังน้อยใจเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่ทิชาเขาก็คงไม่หึงหวงมากมายขนาดนี้ แต่เธอกลับไม่เห็นสิ่งที่เขาทำและมองว่าเขากำลังทำตัวนิสัยไม่ดี
“จะไปไหน ไม่กินข้าวเหรอ”
“เธอกินเถอะ ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไร”
“ลูแปงอย่าน้อยใจไร้สาระ ฉันไม่ง้อหรอกนะ”
“…” ลูแปงเมินเฉยต่อคำพูดของคนตัวเล็ก แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง หมายจะเดินเข้ามาในห้องนอน แต่ก็ถูกทิชาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเข้ม
“มานั่งกินข้าว”
“ไม่อยากกิน”
“ไม่อยากกินก็กลับไป” ทิชาออกปากไล่คนตัวสูงด้วยน้ำเสียงเข้ม เพราะคิดว่าเขาคงจะไม่ยอมกลับไปง่ายๆ แล้วกลับมานั่งกินอาหารที่เธอทำเหมือนเดิม ดวงตาคมทำแค่เพียงเหลือบมองใบหน้าสะสวยเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วกลับออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดเดิมที่เขาใส่มาเมื่อวาน
“ฉันกลับก่อนนะ ถ้าอยากเห็นหน้าฉันโทรมาก็แล้วกัน แต่ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร”
“ลูแปง”
“?”
“เดินมานี่หน่อย”
“พูดมาสิ” ทิชาถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหยัดตัวลุกจากเก้าอี้เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเขาแทน
“ที่ฉันดุนายเพราะนายทำผิดจริงๆ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรนายก็ไม่ควรทำร้ายคนอื่น ลองคิดกลับกันดูว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกของนายนายจะรู้สึกยังไง คงไม่มีพ่อแม่คนไหนโอเคกับการที่ลูกชายตัวเองหน้าฟกช้ำกลับบ้านหรอก ฉันพูดถูกหรือเปล่า”
“เธอไม่ได้ยินมันพูดกวนตีนฉันเหรอ ถ้ามันไม่พูดแบบนั้นฉันจะทำแบบนี้หรือเปล่าล่ะ” แต่ภาพที่เห็นมันก็ทำให้เขาเข้าใจผิดอยู่แล้ว และเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาก็ยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่ว่าทั้งสองคนเป็นนัดกันมาทำอะไรสองต่อสอง
“เฮ้อ…สรุปผิดทั้งคู่ แต่นายผิดมากกว่าเพราะนายไปทำร้ายเขา”
“ในสายตาเธอฉันก็แย่กว่าไอ้เวรนั่นอยู่ดี เธอเข้าข้างมัน”
“เพราะนายเป็นคนของฉันไง ฉันถึงต้องพูดกับนาย ถ้าฉันเอาเรื่องนายแทนพันไมล์นั่นแปลว่าฉันเข้าข้างเขา แต่นี่ฉันกำลังพูดให้นายรับรู้ความผิดของตัวเองนายจะได้ปรับปรุงตัวเอง ไม่ใช่ว่าฉันจะใส่ร้ายให้นายดูแย่กว่าเขาสักหน่อย” ใครจะอยากให้คนของตัวเองดูแย่ในสายตาของคนอื่น เธอแค่อยากให้ลูแปงเป็นคนที่ดีขึ้นกว่านี้ก็เท่านั้นเอง
“ฉันเป็นคนของเธอเหรอ”
“แล้วที่นายยังยืนอยู่ในห้องนอนตอนนี้ สามารถนอนเตียงฉันได้โดยที่ยังไม่ได้กลับมาคบกัน ไม่ได้แปลว่าอย่างนั้นเหรอ” ริมฝีปากหนาค่อยๆ คลี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจกับคำพูดของคนตัวเล็ก ก่อนที่เขาจะรั้งศีรษะของเธอเข้ามาใกล้แล้วทาบทับริมฝีปากนุ่มหยุ่นเบาๆ แล้วแปรเปลี่ยนเป็นดูดดื่มเมื่อทิชายอมเปิดปากให้เขาสอดเรียวลิ้นเข้ามาตักตวงความหวานในโพรงปากของเธอ “พอแล้ว”
ทิชาดันใบหน้าของลูแปงออกจากลำคอในตอนที่เขาลากไล้ริมฝีปากจากลำคอลงมาถึงปลายยอดอก แล้วขบเม้มมันผ่านเนื้อผ้า
“ตอนนี้พอไม่ได้แล้วครับ” ลูแปงจับมือเล็กมาจับความใหญ่โตเกิดขนาดที่กำลังแข็งชันดุนดันกางเกงยีนส์จนแทบจะปริออกมา “ขอได้ไหม รอบเดียวก็ได้”
“…”
“ทิชามันปวดแล้วอะ…นะๆ”
“ไปช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันจะรออยู่ข้างนอก” ทิชาทำใจแข็งไม่ยอมให้ลูแปงหาความสุขจากร่างกายของเธอได้
“มันอยากเสียดสี”
“ลูแปง”
“ใช้มือให้หน่อยได้ไหม หรือปากก็ได้” ทิชาถอนหายใจออกมาพร้อมกับคิดทบทวนว่าควรจะยอมให้ลูแปงทำตามต้องการดีหรือเปล่า เพราะหากเธอยอมมีอะไรกับเขาอีกครั้ง เท่ากับว่าหัวใจเธอมันจะปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้อีกแล้ว
“ถ้าฉันยอมมีอะไรกับนาย นายจะทำร้ายหัวใจฉันอีกหรือเปล่า” ถึงในหัวของเธอกำลังมีคำถามมากมายเรื่องอดีตของเขา แต่กลับไม่กล้าพูดออกมา…ใจนึงเธอก็อยากจะกลับมาเชื่อใจเขาให้ได้ แต่อีกใจนึงก็กลัวความจริง
“ต่อให้เธอไม่ยอมมีอะไรกับฉัน ฉันก็ไม่ทำให้เธอเสียใจหรอก ถ้าฉันทำก็แปลว่าฉันทำลายโอกาสของตัวเองเหมือนกัน ใครจะไปโง่ทำล่ะจริงไหม”
“ถึงฉันจะยอมให้นายทำ แต่ฉัน…ก็ยังไม่ให้โอกาสนายนะ”
“ครับที่รัก” ลูแปงคลี่ยิ้มกว้าง แล้วทิ้งรองเท้าในมือของตัวเองลงที่พื้นอย่างรวดเร็ว แล้วช้อนทิชาขึ้นในท่าเจ้าสาวเดินเข้ามาในห้องนอน เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็กำจัดเสื้อผ้าของตัวเองและของคนตัวเล็กออกไปจนหมด มันถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่บนเตียง
“ทำเบาๆ หน่อยสิ เจ็บ”
“เจ็บเหรอ ขอโทษนะ ฉันมันเขี้ยวไปหน่อย” คนตัวสูงผละริมฝีปากออกจากยอดอกสีชมพู หลังจากขบเม้มมันจนเพิ่งพอใจ เขาฝากรอยจ้ำสีแดงไว้มากมายแล้วจึงลากไล้ลิ้นลงมาจนถึงเนินสาวไร้ซึ่งขนปกปิด ในขณะที่มือทั้งสองข้างดันเรียวขาเล็กแยกออกจากกัน
“อื้อออออ~” ทิชาบิดเร่าร่างกายด้วยความเสียวซ่าน เมื่อลิ้นร้อนแตะลงบนติ่งเกสรแล้วตวัดเลียมันด้วยความถี่รัว ส่งผลให้ช่องทางรักปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาจนเปียกชุ่ม
“เอาเลยนะ” คนโดนถามเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เม้มปากแน่นเมื่อรับรู้ถึงแก่นกายใหญ่ที่กำลังถูไถไปกับใจกลางความเป็นสาวจนเกิดถึงชุ่มฉ่ำ ก่อนที่มันจะถูกอัดกระแทกเข้ามาเพียงครั้งเดียวจนสุดความยาว
“อื้อออออ~”
“อ๊าาา~ ไม่ได้มีอะไรกันแค่สามวัน ทำไมมันฟิตแบบนี้” ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปรือตามองเจ้าของคำถามด้วยใบหน้าที่เริ่มแสดงความเสียวซ่านออกมา ในขณะที่ลูแปงกัดฟันแน่นจนเห็นความชัดของกรามบริเวณกรอบใบหน้าได้อย่างชัดเจน
เสียงกระทบกันของเนื้อดังหยาบโลนไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมสลับกับเสียงครางไม่ได้ศัพท์ของคนตัวเล็ก ทิชาปล่อยร่างกายให้โอนอ่อนไปตามลูแปงจนเกิดความเสียวซ่านที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกสัมผัสของเขามันมีอะไรที่มากกว่าความสัมพันธ์บนเตียง แต่มันเป็นความเข้าใจที่อีกฝ่ายพยายามปรับให้เข้ากับเธอมากที่สุด…เขารู้ดีว่าแบบไหนคือสิ่งที่เธอชอบ และเธอเองก็รู้ดีว่าแบบไหนคือสิ่งที่เขาชอบเช่นกัน
“ที่รักโอบคอเค้าหน่อย เค้าจะเปลี่ยนท่า” ลูแปงเอ่ยบอกทิชาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ซึ่งเธอก็ยอมทำตามเขาอย่างว่าง่าย ก่อนที่เขาจะอุ้มกระเตงเธอโดยที่สองสิ่งยังคงผสานกันอย่างแนบแน่น
“อื้ออออ~ ละ…ลูแปง” ทิชาครางออกมาเสียงสั่น เมื่อร่างกายของเธอถูกลูแปงเป็นฝ่ายบังคับให้ขย่มตัวลงบนแก่นกายใหญ่จนมันเข้าไปลึกมากกว่าเดิม
สองแขนหนาที่กำลังสอดอยู่ใต้ข้อพับขาค่อยๆ เลื่อนลงไปกอบกุมบั้นท้ายงอนงามเพื่อจับมันยึดอยู่กับที่ แล้วเป็นฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่าดิบเถื่อนจนสัมผัสได้ถึงจุดลึกสุดในตัวของทิชา
แววตาของทั้งคู่จ้องมองกันอย่างมีนัยน์บางอย่าง ก่อนที่จะโน้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วสร้างความร้อนแรงให้แก่กันและกัน จนลูแปงต้องเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกแล้วร้องบอกเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“เพิ่งเคยโดนเธอจูบแบบนี้ครั้งแรก รู้สึกเหมือนจะแตกเลย”
“อ๊าาา~ แตกเลย ฉันเสียวท้องไปหมดแล้ว”
“ตามคำขอครับ” ลูแปงบอกพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า เขาจัดเพิ่มการกระแทกกระทั้นให้หนักหน่วงกว่าเดิม จนไม่สามารถกลั้นสิ่งที่กำลังจะพวยพุ่งออกมาไว้ได้ไหว
“อ๊าาาาา/อ๊าสสส”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก