สรุปตอน TRICK 67 – จากเรื่อง TRICK TO LOVE หลอกให้รัก โดย -Something
ตอน TRICK 67 ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง TRICK TO LOVE หลอกให้รัก โดยนักเขียน -Something เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เช้าวันต่อมา…
“อื้อออออ~” เสียงครางอู้อี้ดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอระหงเบาๆ ในตอนที่เนินเนื้อนุ่มของเธอถูกฉกฉวยด้วยริมฝีปากหนาแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ด “ลูแปง…อย่า”
“อย่าอะไร เมื่อคืนปล่อยให้นอนหลับสบายๆ โดยไม่กวนแล้วนะ”
“แต่นี้บ้านพ่อแม่นายนะ ค่อยกลับไปทำที่คอนโดสิ” ทิชาค่อยๆ ปรือตาหลุบมองคนข้างล่างด้วยสายตาขอร้อง แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหัวปฏิเสธ แล้วฝังหน้าลงกลางหว่างอกขบเม้มอย่างมันเขี้ยว “อย่าทำรอย มันหายช้า”
“ต้องทำสิ เผื่อใครเห็นจะได้รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว”
“ฉันไม่ใช่หมานะจะมีเจ้าของได้ยังไง”
“สวมปลอกคอให้แล้วนี่ไง เธอเป็นนกน้อยของฉัน” ลูแปงเคาะลงสร้อยคอรูปนกที่ประดับตกแต่งด้วยเพชรและตัวอักษรภาษาอังกฤษชื่อของทิชาไว้อย่างสวยงามเบาๆ ซึ่งทำให้ทิชาตกใจเล็กน้อยเพราะเธอจำไม่ได้ว่าลูแปงสวมใส่มันให้เธอตอนไหน
“นายใส่ให้ฉันตอนไหน”
“เมื่อคืนตอนเธอหลับไปแล้ว” สายตาของเขามองมันด้วยความพึงพอใจ มันเป็นสร้อยคอที่เขาสั่งทำให้เธอโดยเฉพาะจะไม่มีใครเหมือนและไม่มีทางเหมือนใคร “ฉันอยากให้เธอมีฉันติดตัวอยู่ตลอดเวลา”
“เอาเปรียบนี่ นายไม่เห็นมีอะไรของฉันติดตัวไว้เลย”
“ก็นี่ไง” ร่างสูงถอดเสื้อยืดสีขาวของตัวเองแล้วตบลงบนรอยสักรูปนกบริเวณสีข้างของตัวเองเบาๆ “ฉันมีเธอติดตัวอยู่ตั้งนานแล้ว”
“มันหมายถึงฉันจริงเหรอ ไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่นที่นายเคยคบมาแล้วเอามาหลอกฉันนะ”
“ถึงฉันจะสักรูปนี้เพราะมันมีความหมายแปลว่าอิสระ เธอก็รู้ว่าฉันรักอิสระแค่ไหน แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็รู้สึกดีนะที่รู้ว่ามันหมายถึงชื่อเธอด้วยเหมือนกัน”
“แล้วตอนนี้ยังรักอิสระอยู่ไหม”
“รักคนนี้มากกว่า” พูดจบลูแปงก็โน้มหน้าจดริมฝีปากลงบนหน้าผากมน แล้วสบตากับทิชาที่มองขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบางๆ
“อยากจูบนะ แต่ยังไม่ได้แปรงฟัน” ทิชาบอกด้วยเสียงหัวเราะ แล้วดันคนบนร่างออกห่างตัวเล็กน้อย หยัดตัวลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงโดยที่ขาเรียวทั้งสองข้างยกพาดหน้าขาแกร่งไว้
“ไม่รังเกียจหรอก”
“แต่ฉันรังเกียจตัวเอง” ร่างเล็กพูดจบก็เปลี่ยนท่าทางนั่งขัดสมาธิแล้วโน้มเข้าไปกอดเอวสอบไว้อย่างหลวมๆ แล้วเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งผ่านรอยยิ้มมีความสุข “ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณอะไร อยู่ดีๆ มาอ้อนเอาอะไรเนี่ย ไม่มีอะไรให้แล้วนะนอกจากตัว”
“ขอบคุณที่นายใส่ใจฉัน” ทิชาเลือกที่จะเมินเฉยสายตากรุ่มกริมของลูแปง แล้วตั้งใจพูดขอบคุณเขาอีกครั้ง
“ฉันก็ต้องใส่ใจเธออยู่แล้วสิ เธอเป็นเมียฉันนะ”
“อือ ขอบคุณที่ยอมถอดเขี้ยวเล็บเพื่อฉัน”
“ก็ต้องถอดสิ ถ้าไม่ถอดก็ไม่มีเมียสักที” ลูแปงยกมือทั้งสองข้างโอบกอดคนตัวเล็กกลับไป แล้วฝังริมฝีปากลงบนศีรษะทุยเล็กของเธอพร้อมกับพึมพำออกมา “ฉันต้องขอบคุณเธอมากกว่าที่ยอมลืมความผิดพลาดของฉัน แล้วก็รักฉันแบบนี้”
“ฉันไม่ได้ลืม แต่ฉันจะไม่เอามันมาทำให้เราต้องทะเลาะกันหรอก”
“อย่าทำให้ฉันรักจนขายตับขายไตสิ แค่นี้ฉันก็รักเธอมากแล้วนะ”
“ไม่ขายหัวใจเหรอ แพงกว่านะ”
“ถ้าขายมันแล้วจะมีอะไรไว้รักเธอล่ะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ ยังไม่ทันที่ทิชาจะได้ตอบอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ทำให้ลูแปงเป็นฝ่ายลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตู
“นายน้อยคะ นายหญิงให้ป้ามาตามนายน้อยกับคุณทิชาลงไปทานข้าวค่ะ”
“เดี๋ยวอีกสักพักผมลงไปครับ”
“ค่ะ” หญิงสูงวัยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนที่ประตูห้องนอนจะปิดลง ลูแปงเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้งแล้วช้อนร่างเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว
“มีเรื่องอะไรเหรอ เสียงดังออกมาจากโทรศัพท์เลย”
“ช่างมันเถอะ เราไปอาบน้ำกันดีกว่า” รอยยิ้มบางๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนที่เขาจะเดินมาอุ้มกระเตงทิชาขึ้นแล้วพาเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับปิดประตูลง หากใครโทรมาอีกครั้งในตอนนี้เขาก็ไม่คิดจะสนใจอะไรแล้ว
ผ่านไปสักพัก…
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อคุณแม่”
“นอนหลับสบายไหมหนูทิชา”
“สบายมากเลยค่ะ ขอบคุณคุณแม่ที่ชวนหนูค้างที่นี่นะคะ” ทิชาคลี่ยิ้มหวานพูดกับคนโตกว่าในขณะที่ลูแปงทำท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมาโดยที่มองหน้าพ่อของตัวเองตลอดเวลา
“พ่อ”
“รู้เรื่องแล้ว?” โชแปงถามออกมาอย่างรู้ทัน แค่อ่านความรู้ลึกจากสายตาของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่มีคำถามมากมายก็รู้ทุกอย่างแล้ว
“พ่อไปถือหุ้นที่บริษัทนั้นตั้งแต่เมื่อไร”
“ก็ตั้งแต่แกอยู่มอปลาย”
“ผมไม่เห็นรู้”
“เพราะพ่อไม่เคยบอก” เพราะตอนนั้นโชแปงได้ให้ลูกน้องคนสนิทตามดูแลลูกชายอยู่ห่างๆ และลูกน้องของเขาก็รายงานมาว่าลูแปงได้เริ่มมีความรักครั้งแรกและดูเหมือนจะไปกันได้ดี จึงเลือกที่จะสืบประวัติทั้งเด็กผู้หญิงคนนั้นและครอบครัวของเธอจนรู้ว่าฐานะของครอบครัวของดารินอยู่ในช่วงสร้างฐานะของตัวเอง ก่อนที่จะใช้เงินส่วนตัวของตัวเองเข้าไปร่วมหุ้นจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ยังให้สิทธิ์ทางครอบครัวนั้นได้บริหารจัดการบริษัทของตัวเองต่อไปภายใต้เงินสนับสนุนจากเขา ไม่ว่าลูแปงจะคบกับใครหรืออยู่ที่ไหนเขาก็จะเป็นคนซัพพอร์ตลูกชายอยู่เสมออย่างเช่นในกรณีนี้
“แล้วฝั่งนั้นจะเป็นยังไง”
“ไม่เหลืออะไรเลย” โชแปงตอบลูกชายด้วยท่าทีสบายๆ ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เงินมหาศาลลงทุนไปกับบริษัทนั้น แล้วถ้าหากว่ามันมีปัญหาเกิดขึ้นมามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท เขาก็ไม่คิดจะเสียดายเงินจำนวนนั้นเลยสักนิด แต่เพราะครั้งนี้มันเกี่ยวกับลูกชายของเขาและว่าที่ลูกสะใภ้ที่เขาเองก็เอ็นดูไม่ต่างจากภรรยาสักเท่าไร จึงทำให้เขาตัดสินใจจบอนาคตของบริษัทนี้ลงอย่างไม่ลังเล “ในเมื่อพ่อเป็นคนทำให้พวกมันมาขึ้นมาอยู่จุดนี้ พ่อก็ทำให้มันลงจากจุดนี้ได้เหมือนกัน”
เพตรานั่งเงียบให้กับความเลือดเย็นของสามีมาเฟียตรงหน้าโดยไม่กล้าที่จะเอ่ยปากห้ามปรามอะไร เพราะเธอรู้ว่านี่คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดของสามีตัวเองแล้ว และคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหยุดความคิดของเขาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก