หน้าตาของผู้ชายดูคมคาย จมูกโด่งสูงใต้ดวงตาราวกับหมาป่า ริมฝีปากเรียวบางเฉียบเหมือนมีดที่เห็นส่วนเว้าโค้งจากการหัวเราะเยาะ แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนวีลแชร์ แต่ก็มีออร่าฟุ้งกระจายอยู่รอบๆตัว มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าใกล้เขา
นี่คือใบหน้าอันน่ารังเกียจที่บอกในข่าวลือหรือไม่
ริตาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งอากาศรอบๆตัวลดลงไปไม่กี่องศา เธอจึงรีบนำผ้าห่มมาปกคลุมตัวเองแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้นโดยตรง เธอพูดด้วยความหวาดผวาว่า “ฉัน...แน่นอนว่าฉันคือเสิ่นเย่ว์...”
“เฮ้” แววตาของมาวินเย็นลง เขาหยิบซองจดหมายจากกระเป๋าของเขาออกมาแล้วโยนมันมาตรงด้านหน้าเธอ
ริตาหยิบมันขึ้นมาเปิดดูอย่างระมัดระวัง แต่กลับพบว่ามันเต็มไปด้วยภาพถ่ายและเอกสารของเสิ่นเย่ว์...พี่สาวของเธอ
ดังนั้น เขารู้ตัวตนตั้งแต่แรกแล้ว?
มือของริตาที่ถือจดหมายอยู่นั้นกำขึ้นแน่นเล็กน้อย เธอกัดริมฝีปากล่าง ดวงตาเคลือบเงาของเธอเหลือบมองไปที่มาวิน โดยไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา
“ตระกูลเสิ่นคิดว่าการที่ฉันมาวินมีปัญหาที่ขาแล้วจะหาใครมาหลอกฉันก็ได้งั้นเหรอ”
ริตาหลับตาแล้วพูดแก้ตัวออกมาเสียงเบา “ฉันก็เป็นลูกสาวของตระกูลเสิ่นเช่นกัน...”
“ลูกสาวที่เพิ่งหย่าร้าง? ตระกูลเสิ่นนี่ปฏิบัติกับตระกูลหงษ์ราวกับเป็นสถานีรีไซเคิลเลยงั้นเหรอ” ดวงตาของเยี่ยมัวเซวียนกลับมาเย็นชาอีกครั้ง
คำพูดที่เย้ยหยันและตรงไปตรงมาทำให้ริตาหวนคิดถึงคืนที่ฝันร้ายเมื่อเดือนที่แล้ว เธอกัดริมฝีปากแน่น ปล่อยให้ความเจ็บคอยเตือนตัวเองไม่ให้เสียสติ
ไม่รอให้เธอได้สงบลง เสียงที่ยะเยือกราวกับถังน้ำแข็งของชายคนนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ให้เวลาเธอห้านาที ออกไปจากบ้านของตระกูลหงษ์ซะ”
“อะไรนะ” ริตาลืมตาขึ้นมาทันที แล้วปะทะเข้ากับดวงดาสีดำสนิทของเขา
ถ้าเธอลูกขับไล่ออกไป ตระกูลเสิ่นคงจะทำให้ตระกูลหงษ์ขุ่นเคืองอย่างแน่นอน ทั้งครอบครัวฝากความหวังไว้กับเธอ และแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็ไม่สามารถทำให้ครอบครัวล้มเหลวด้วยมือของเธอเองได้
ริตาสงบสติอารมณ์และรวบรวมความกล้าเพื่อมองตรงมาที่เขา แล้วกล่าวว่า “ฉันรู้ว่านี่เป็นงานแต่งงานที่พ่อแม่ของคุณจัดให้ สำหรับคุณ แต่งกับใครก็คงเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นคุณคงไม่ตอบรับการแต่งงานในครั้งนี้…
…แทนที่คุณจะแต่งงานใหม่อีก สู้ให้ฉันอยู่ต่อไปดีกว่า ฉันสัญญาว่าพวกเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ริตาก็ยกมือขึ้นเพื่อสัญญา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่ใบหน้าขาวผ่องเล็กๆของเธอก็มีท่าทีระมัดระวังกลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับมัน
ท่าทางแบบนี้มัน...
มาวินหรี่ตาลงแล้วมองไปที่เธอ
ยังไม่สำเร็จ มาวินยกยิ้ม “อยากอยู่ต่อขนาดนี้เลยเหรอ”
เมื่อเห็นการแสดงออกยิ้มเยาะเย้ยของเขา ริตาก็คร่ำครวญในใจ เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี แต่ก็ยังพยักหน้าตอบอยู่ดี
มุมปากของมาวินแสดงถึงการเหยียดหยามมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นผู้หญิงประเภทนี้ที่มาแต่งงานกับตระกูลหงษ์แทนน้องสาวของตัวเองเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย
เขาจ้องมองคนที่อยู่บนเตียงอย่างแน่วแน่ เขากล่าวว่า “ฉันจะให้โอกาสเธอ...”
ดวงตาของริตาเปล่งประกายด้วยความดีใจทันที แต่จากนั้นก็ได้ยินคำพูดที่ชั่วร้ายของชายคนนั้น “เธอต้องปรนนิบัติฉัน”
ริตาตกตะลึง จ้องมองไปยังชายที่อยู่ข้างเตียงอย่างไม่น่าเชื่อ
“ทำไมล่ะ ฟังไม่รู้เรื่อง?”
มาวินพูดอย่างเยาะเย้ย “อย่าบอกนะ...ว่าผู้หญิงที่แต่งงานเป็นครั้งที่สองแล้วแต่ยังไม่รู้วิธีปรนนิบัติผู้ชาย”
เมื่อได้ยินขำพูดของเขา ริตาก็กำหมัดแน่น
เธอกับวายุแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แต่อีกฝ่ายเอาแต่หาข้ออ้างและไม่เคยแตะต้องเธอเลย จนกระทั่งคืนนั้นเมื่อเดือนที่แล้ว เธอจับได้ว่าวายุและหญิงมีครรภ์ที่สวยหยาดเยิ้มกำลังพลอดรักกันอยู่บนเตียงแต่งงานของพวกเขา
ฝันร้ายของเธอเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลานั้น...
“พูดมา!” ความเงียบของอีกฝ่ายทำให้มาวินหมดความอดทน เขาเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มตรงหน้าของเธอออก ร่างของผู้หญิงที่ผิวขาวราวกับหิมะปรากฏขึ้นมาทันที...
“กริ๊ดดด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ครั้งใหม่ของเจ้าสาวแสนสวย