กู้หรันเงยหน้า เห็นสีโม่เฉิงยืนอยู่ตรงนั้น
เขาน่าจะอาบน้ำมาแล้ว ที่ตัวสวมใส่ชุดนอนสีเขียวขี้ม้า ผมปล่อยยุ่ง ดูกระเซิงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกสกปรกไม่เป็นระเบียบ กลับให้ความรู้สึกที่สะอาดบริสุทธิ์ไร้มลทิน
กู้หรันกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้
ภายในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ ถึงขนาดที่ได้ยินเสียงหัวใจที่จู่ๆก็เต้นเร็วขึ้นมาของตัวเอง
“มีธุระเหรอ?”
เธอจงใจพูดถามขึ้นมาอย่างสบายๆ
เขามองลงมาหาเธอ ในรูม่านตาที่ดำมืดคู่นั้นสว่างวูบวาบ ดูเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร
“คุณขึ้นมาหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
เขาพูดจบ ก็เดินไปที่ห้องหนังสือทันที
กู้หรันอึ้งตะลึงไป มองเงาหลังของเขาเดินจากไป คิ้วขมวดเล็กน้อย
เธอหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งวันนี้ นึกไม่ออกว่าตัวเองมีไปยุแหย่ก้าวก่ายอะไรเขาหรือเปล่า
แล้วมาทำหน้าตาเยือกเย็นแบบในตอนนี้ให้ใครดู?
กู้หรันส่ายหัวอย่างหมดหนทาง เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสว่า จิตใจที่ยากแท้หยั่งถึงของผู้ชายนั้นมันหมายความว่าอะไร
เธอก้าวเดินขึ้นไปข้างบน
ภายในห้องหนังสือ
สีโม่เฉิงนั่งลงบนเก้าอี้ขนาดใหญ่ ตรงหน้าเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์
บนหน้าจอ เด็กที่ฉลาดเฉลียวซุกซนคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่บนพรม ใบหน้าอ้วนกลม หน้าตาดูฉลาด ริมฝีปากอมชมพูยื่นออกมา เห็นได้ชัดว่ากำลังตั้งอกตั้งใจเพ่งสมาธิ
ที่ประตูมีเสียงฝีเท้าเบาๆดังเข้ามา
เขาหยุดไปเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าจอ
จากนั้นก็เงยหน้ามอง เห็นกู้หรันเดินเข้ามา
“คุณบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับฉัน เรื่องอะไรเหรอ?”
สีโม่เฉิงไม่ได้ตอบกลับทันที แต่กวักมือ พร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ“มานี่สิ”
กู้หรันยกคิ้ว
แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเขาเรียกตนเองมาทำอะไร แต่ก็ยังทำตามที่เขาบอก
ไม่คาดคิด……
เพิ่งจะเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ถูกเขาคว้าข้อมือเอาไว้
จากนั้น กู้หรันก็รู้สึกว่าภาพตรงนั้นมันวูบวาบ เธอร่วงตกลงไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา นั่งลงบนหน้าตักของเขา
“คุณทำอะไร?”
เห็นเขายิ้มๆ พูดขึ้น“ถ้าเกิดผมบอกว่า ผมรู้สึกเสียใจภายหลังที่รับปากสัญญากับคุณในตอนแรก คุณจะคิดยังไง?”
กู้หรันอึ้งตะลึงไป
ใจเต้น“ตึกตักๆ”ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
หมายความว่ายังไง?
อะไรคือ……เสียใจที่รับปากสัญญากันในตอนแรก?
ในตอนแรกที่เธอกับสีโม่เฉิงแต่งงานกัน ทำข้อตกลงร่วมกัน ว่าจะไม่ไปก้าวก่ายชีวิตของอีกฝ่าย เป็นแค่สามีภรรยากันเพียงผิวหน้าเท่านั้น
หรือว่าตอนนี้เขา คิดจะหย่ากับตัวเองอย่างนั้นเหรอ?
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ตามจริงกู้หรันควรจะดีใจสิ
ถึงยังไง มรดกที่เธอต้องการก็ได้มาแล้ว
ถ้าหย่ากัน สำหรับเธอแล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไร ส่วนเธอก็ไม่ต้องไปแสดงละครกับสีโม่เฉิงตบตาปู่ของเขาอีก
แต่พอได้ยินคำพูดแบบนี้ของเขา ในใจของเธอกลับดีใจไม่ออก
เธอเม้มปาก พูดขึ้น“จะคิดยังไงได้ล่ะ? ในตอนแรกพวกเราคุยกันไว้ดิบดีแล้วว่าจะร่วมมือกัน ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่ทำผิดสัญญาแน่นอน ถ้าคุณอยากจะหย่ากันล่ะก็ บอกเวลามา ฉันจะไปทำเรื่องหย่ากับคุณได้ทุกเมื่อ”
สีโม่เฉิง“……”
ทุกคำพูด ถูกเธอทำให้ติดค้างอยู่ภายในใจพูดอะไรไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...