เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรก ที่ได้เข้าใจอาการพูดไม่ออก
กู้หรันเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ก็คิดว่าเขากำลังยอมรับโดยปริยาย
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดหวัง แต่ว่าเธอก็ผลักเขาออกแล้วก็ยืนขึ้น
เธอเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดว่า “คุณลองไปคิดดูก่อนแล้วกันว่าว่างวันไหนบ้าง ฉันได้หมดเลย ถ้าเกิดว่าฝั่งคุณเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วก็บอกฉันแล้วกัน”
พอพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นเดินออกไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์
แต่ว่าตอนนั้นเอง ก็มีเสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง
“ใครบอกว่าผมจะหย่ากับคุณ?”
กู้หรันชะงักไป แล้วก็หันหน้ามามองเขา
สีหน้าของเธอดูสับสนเล็กน้อย
สีโม่เฉิงถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือก และก็ยืนขึ้นตามเธอ
ชายหนุ่มร่างกายสูงยาว พอเขายืนขึ้น ก็บังแสงไฟไปครึ่งหนึ่งทันทีเลย
ร่างเล็กๆ ของกู้หรันก็ถูกปกคลุมไปด้วยเงามืด เผยให้เห็นความงามที่ดูไม่เหมือนจริงภายใต้แสงไฟที่สลัว
ชายหนุ่มเอาแขนทั้งสองข้างค้ำไว้บนโต๊ะเพื่อกั้นเธอระหว่างโต๊ะกับตัวของเขา พร้อมกับมองลงมาที่เธอ
เขากระซิบถามว่า “กู้หรัน ฟังให้ชัดนะ ผมจะพูดแค่ครั้งเดียว”
กู้หรันเงยหน้าขึ้น เปิดปากออกเล็กน้อยและจ้องมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ
แล้วก็ได้ยินชายหนุ่มตรงหน้าพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “ผมตกหลุมรักคุณไปแล้ว ดังนั้นผมก็เลยไม่ได้อยากจะหย่า ผมอยากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับสามีภรรยาที่แท้จริง ร่วมทุกข์ร่วมสุข อยู่ด้วยกันยันแก่เฒ่า คุณเข้าใจไหม?”
ปัง——
เหมือนมีอะไรบางอย่างระเบิดเงียบๆ ในหัวของเธอ
สีหน้าของกู้หรันดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เธอยืนอึ้งอยู่นาน และหลังจากผ่านไปนานก็พูดออกมาว่า “คุณ……คุณพูดจริงเหรอ?”
“แน่นอน คุณเห็นว่าผมเหมือนล้อเล่นอยู่รึไงล่ะ?”
สีหน้าของชายหนุ่มคนนี้ดูจริงจังกว่าที่เคย
กู้หรันหัวใจเต้นดัง “ตึกตึก” ตอนที่รู้ว่าเขาไม่น่าจะล้อเล่น เธอก็ตระหนักได้ถึงความจริงจังของเรื่องนี้
สีโม่เฉิง……
ชอบเธอเข้าให้แล้วงั้นเหรอ?
มันจะเป็นไปได้ยังไง?
พอชายหนุ่มเห็นว่าสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุด ก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“ทำไม ตกใจเหรอ?”
กู้หรันไม่ได้พูดอะไร
แล้วร่างกายเธอก็ตึงแน่นเหมือนเชือกเส้นหนึ่ง
และสีโม่เฉิงก็รู้สึกได้ และก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยด้วยความโล่งอก
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น กู้หรันก็ไม่ได้อยากตัดสินใจเร็วขนาดนี้
เธอพูดอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “ฉันขอคิดดูก่อนนะ”
“โอเค”
ชายหนุ่มตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แต่ว่าก็ไม่ยอมปล่อยมือ
กู้หรันถลึงตาใส่เขา
“ถ้าเกิดว่าคุณไม่ยอมปล่อยมือแล้วฉันจะคิดไตร่ตรองได้ยังไงกัน?”
สีโม่เฉิงเลิกคิ้ว
“คุณอยู่นี่ก็คิดได้นี่ พอคิดออกแล้วจะได้บอกผมพอดีเลย เดี๋ยวผมรอ”
กู้หรัน “……”
เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่หน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อนเลย
แต่ว่ามันก็น่ารักแบบแปลกๆ เหมือนกันนะ
เธอเบือนหน้าหนีเพื่อปกปิดแก้มที่แดงระเรื่อของตัวเองเอาไว้ และพูดแบบขายผ้าเอาหน้ารอดว่า “ฉันต้องการเวลา อยู่นี่คิดไม่ออกหรอก”
แล้วไม่ใช่เหรอ?
มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้ซะขนาดนี้ ต่อให้เธออยากจะคิดไตร่ตรองให้ดี แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถสงบลงได้หรอก
สีโม่เฉิงเหมือนอ่านความคิดของสาวน้อยคนนี้ออก เขาหัวเราะออกมาเบาๆ และสุดท้ายก็ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...