เซี่ยหมินต๋าก็แข็งทื่ออยู่ตรงนั้นเช่นกัน
เขาก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าตัวเองจะลงมืออย่างควบคุมไม่ได้
เห็นท่าทางเอียงหน้าที่หันมองมาของเซี่ยหนัน รวมไปถึงแก้มที่แดงและบวดอย่างรวดเร็วบนใบหน้า
ริมฝีปากขยับ อยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก ก็ได้กลืนกลับไป
เซี่ยหนันเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองเขาด้วยความโกรธ
เซี่ยหมินต๋าลดเสียงลงแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม “คำพูดเหล่านี้แกพูดกับฉันก็แล้วไป หากว่ากล้าไปพูดต่อหน้าคุณน้ากับเสี่ยวเวย ฉันจะต้องไม่ปล่อยแกไปแน่!”
เซี่ยหนันจึงเย็นชาขึ้นทันใด
เธอมองคุณพ่อที่อยู่ตรงหน้าแล้วรู้สึกแต่เพียงว่าน่าขำที่สุด
“คุณไม่ปล่อยหนูไปเหรอ หนูอยากจะถามสักหน่อยว่าคุณเคยปล่อยหนูไปตั้งแต่เมื่อไร”
“วันนี้คุณอุตส่าห์มาตั้งไกลก็เพื่อจะมาตบหนู และมาขู่เตือนหนูงั้นเหรอ”
“หากว่าเป็นเช่นนี้ งั้นหนูต้องยินดีด้วย คุณบรรลุแล้ว ตอนนี้หนูไปได้หรือยัง คุณเซี่ย!”
“แก!”
เซี่ยหมินต๋าโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว
เขาชี้ไปทางเซี่ยหนัน คำพูดทั้งหมดในใจของเขาตอนนี้กลายเป็นว่างเปล่าแล้วในเวลานี้ และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“แกนี่มันดื้อด้านจริงๆ!”
เขากล่าวจบ สะบัดแขนเสื้อแล้วก็จากไป
ทางนี้
เห็นได้ชัดเจนว่ากู้หรันเห็นการตบเมื่อสักครู่นั้น
เธอก็คิดไม่ถึงว่าสองคนนี้คุยกันดีๆ ทำไมถึงลงไม้ลงมือกันได้
จึงรีบบิดประตูรถลงจากรถแล้วิ่งไปทางเซี่ยหนันอย่างรวดเร็ว
“หนันหนัน เธอเป็นไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม”
เธอมองไปที่แก้มแดงๆ และบวมเป่งของเซี่ยหนันอย่างเจ็บปวด
เซี่ยหนันกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ฉันไม่เป็นไร”
ปากเธอบอกไม่เป็นไรด้วยสีหน้าที่มืดมน เพียงแต่ถ้ามีความเป็นมนุษย์ก็จะสามารถดูออกได้ว่า เธอนั้นเป็นอะไร
ชั่วขณะหนึ่งกู้หรันเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ประเด็นสำคัญคือ เรื่องระหว่างพ่อกับลูกนั้นซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายเป็นประโยคหรือสองประโยคได้
จึงได้แต่กล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า “ทำไมคุณลุงลงไม้ลงมือได้นะ นี่……เจ็บมากใช่ไหม ฉันจะพาเธอไปใส่ยาที่โรงพยาบาล”
“ไม่ต้องหรอก”
เซี่ยหนันมองดูรถที่อยู่ไม่ไกลครู่หนึ่ง แล้วกล่าวเบาๆ “หรันหรัน ฉันไม่กลับบ้านกับพวกเธอแล้ว ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ”
เขาก็แค่อยากอาศัยอำนาจของตระกูลฉิน เพื่อเสริมความแกร่งให้กับตระกูลตระกูลกู้ กู้หรันกับฉินว่างเสวี่ยสำหรับเขาเป็นเพียงแค่เครื่องมือเท่านั้น
แต่เซี่ยหมินต๋านั้นไม่เหมือนกัน
เมื่อก่อนเธอเห็นกับตาว่าเซี่ยหมินต๋าเป็นห่วงเซี่ยหนัน
และก็เคยได้ยินว่า เมื่อนานมาแล้ว คุณแม่บังเกิดเกล้าของเซี่ยหนันตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ทั้งสองรักกันมาก
ดังนั้น เซี่ยหมินต๋านั้นรักลูกสาวคนนี้อยู่
เพียงแต่ทั้งคู่ทำไมถึงทะเลาะกันมาถึงจุดนี้นั้น เธอเองก็ไม่เข้าใจ
กู้หรันสูดลมหายใจเข้า แล้วยิ้ม
“ช่างเถอะ หนันหนันเป็นผู้ใหญ่แล้ว ในเมื่อเธอตอนนี้ไม่อยากกลับไปกับพวกเรา ก็คงอยากจะอยู่เงียบๆ สักพัก พวกเราให้เวลาเธอสักหน่อย ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวก่อน”
สีโม่เฉิงพยักหน้า แล้วถึงได้สั่งกำชับให้ฉินจูออกรถ
รถค่อยๆ แล่นมุ่งหน้าไปที่ Southbank Residence
และในเวลานี้ บนรถแท็กซี่
เซี่ยหนันเห็นรถแท็กซี่ได้แล่นห่างออกมาได้สักพัก กู้หรันกับสีโม่เฉิงไม่น่าจะมองเห็นเธอแล้ว ถึงได้บอกกับคนขับรถแท็กซี่ว่า “รถกวนคุณจอดที่ข้างทางหน่อย ฉันไม่ไปแล้วค่ะ”
คนขับรถหงุดหงิด บ่นตำหนิสองสามคำ แต่ก็จอดแต่โดยดี
เซี่ยหนันจ่ายเงินแล้วลงจากรถ หลังลงจากรถแล้ว ถึงได้เปิดโทรศัพท์ออกมาดูตำแหน่งหนึ่งในนั้น แล้วก็ยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...