เห็นแก่ตัว?
กู้หรันยืนอยู่ที่นั่น เธอแทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเองเลย
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ยิ้มอย่างเย็นชา “หากในสายตาของคุณ ท่าทีของฉันที่มีต่อกู้อันหนิงนั้นเรียกว่าเห็นแก่ตัว ส่วนพวกเขาที่ทำเรื่องไร้ยางอายแต่ถูกเรียกว่าคนที่มีเกียรติ ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าฉันเห็นแก่ตัวแล้วกัน”
เธอหันไปมองที่สวี่ชิงชุ่ย ก่อนจะยกยิ้มมุมปากของเธออย่างเยาะเย้ย
“ยังไงบนโลกนี้ การที่คนเลวๆ อยู่ด้วยกัน พากันสมคบคิดเรื่องเลวๆ ก็มีเยอะแยะไป และฉันก็ไม่ต้องการการยอมรับจากพวกคุณ!”
“ลามปาม!”
ใบหน้าของสวี่ชิงชุ่ยซีดเผือดด้วยความโกรธ
กู้หรันไม่สนใจเธอเลย หลังจากพูดจบ เธอเดินตรงกลับไปที่ห้องของเธอ
หญิงชราสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะยิ้มให้คุณหญิงเฉิง “หนูเฉิง ขอโทษจริงๆ ยัยเด็กนั่นถูกเอาใจจนเสียคนแต่เด็ก เธอเอาแต่ตะโกนใส่พวกผู้ใหญ่ เดี๋ยวฉันจะไปสอนเธอทีหลัง”
กู้อันหนิงสังเกตเธออย่างระมัดระวัง “คุณย่าคะ อย่าโกรธไปเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่กู้หรันทำแบบนี้ เมื่อก่อนเพราะพี่เฉิงเฟิงอยู่ด้วย เธอก็เลยไม่ได้แสดงท่าทีแบบนี้ แต่ตอนนี้ ... “
หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดต่อ
คุณหญิงเฉิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?
ที่แท้ความอ่อนโยนและความใจดีของกู้หรันที่แสดงต่อหน้าเธอนั้นเป็นแค่การเสแสร้ง?
ที่จริงแล้ว ไร้มารยาท จิตใจคับแคบถึงจะเป็นนิสัยที่แท้จริงของเธอ
เธอถอนหายใจ ก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไร เป็นเพราะเฉิงเฟิงทำผิดกับเธอ การที่เธอจะโมโหก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว”
แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้น แต่ในแววตาของเขากลับเย็นชา
พวกเขาคุยกันอยู่พักหนึ่ง ตระกูลเฉิงก็ตัดสินใจขตัวกลับไปก่อน
ก่อนจากไป คุณหญิงเฉิงหยิบการ์ดเชิญออกมา
“ใช่แล้ว อีกสามวันเป็นงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ของ Ceesi Group เนื่องจากตระกูลเฉิงของเรามีการติดต่อทางธุรกิจกับตระกูลสี ดังนั้นเราจึงได้รับเชิญทุกปี”
“ปีนี้เราโชคดีเลยได้การ์ดเชิญเพิ่มมาอีกสองสามใบ ต่อไปเราก็จะเป็นตระกูลเดียวกันแล้ว การ์ดเชิญพวกนี้เราขอมอบให้พวกคุณ ตอนนั้นพวกเราจะได้ไปด้วยกัน”
หญิงชรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“จริงเหรอ? ขอบคุณพวกคุณมากๆ เลยนะ”
คุณหญิงเฉิงยิ้ม และไม่ได้พูดอะไรอีก เธอจากไปพร้อมกับสามีและเฉิงเฟิงลูกชายของเธอ
ก่อนหน้านี้ กู้อันหนิงไม่เคยกล้าที่จะจินตนาการว่าเธอจะได้พบกับชายคนนี้ แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป
เธอเป็นลูกสาวของตระกูลกู้และได้รับการ์ดเชิญ ดังนั้นเธอจะมีโอกาสได้เต้นรำกับคุณชายโม่เฉิงด้วยไม่ใช่เหรอ?
หัวใจของกู้อันหนิงเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
“แม่คะ ถ้าหนูได้เต้นรำกับคุณชายโม่เฉิง นั่นก็หมายความว่า หนูสามารถนำผลประโยชน์มาสู่ตระกูลได้ ใช่ไหมคะ?”
สวี่ชิงชุ่ยมองเธอด้วยสายตาที่เฉียบคม “แน่นอนสิ แต่ก่อนอื่นเลย คุณชายโม่เฉิงต้องมองเห็นเธอ”
กู้อันหนิงกำนิ้วของเธอและพูดอย่างหนักแน่น “คุณย่าไม่ต้องกังวล เพื่อตระกูลของเรา ฉันจะทำให้คุณชายโม่เฉิงมองเห็นฉัน”
หญิงชราพยักหน้าอย่างชื่นชม
“มันเป็นเรื่องดีที่เธอมีความตั้งใจนี้ แต่เธอก็ต้องจำไว้ให้ดีว่าตระกูลอย่างตระกูลสี ไม่ใช่ตระกูลที่เราจะเอื้อมถึง แค่ได้กำไรเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว แต่อย่าทำสิ่งที่ตระกูลนั้นไม่พอใจเด็ดขาด”
เธอชะงักไป แล้วพูดว่า “โลคดีที่ตระกูลเฉิงนึกถึงเรา เราถึงได้เข้าร่วมในงานเลี้ยงของตระกูลสี อันหนิง ต่อไปเธอต้องดูแลคุณเฉิงเฟิงให้ดี หากตระกูลของเราอยากจะอยู่สูงขึ้น ความหวังสูงสุดก็คือพวกเขา”
ดวงตาของกู้อันหนิงเป็นประกาย แต่เธอก็ยังพยักหน้า
“เข้าใจแล้วค่ะ คุณย่า หนูจะดูแลเขาให้ดีๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...