อีกฝ่ายก็มีเสียงที่ผ่อนคลายของเซี่ยหนันดังขึ้น
“หรันหรัน เป็นอะไรไป?”
กู้หรันโล่งอก พูดอย่างไม่รู้จะเอายังไงดีกับเพื่อนคนนี้ว่า “แกถามว่าฉันเป็นอะไรไป ฉันยังอยากจะถามแกว่าแกเป็นอะไรไปเนี่ย! อยู่ๆ ดีๆ ทำไมก็หายตัวไปอีกแล้ว? เธอไม่รู้เหรอว่าฉันร้อนใจมากนะ ที่โทรหาเธอเท่าไหร่ก็ไม่ติดสักที”
อีกฝ่ายก็ได้เงียบไป
จากนั้น ก็ได้ยืนเสียงซ่าๆ
เหมือนว่าลุกจากเตียง และเหมือนว่ากำลังเก็บของ
จากนั้น ก็ได้ยินเซี่ยหนันพูดว่า “เอ่อ ขอโทษด้วยนะ ฉันลืมบอกแกไปน่ะ ฉันกลับอเมริกาแล้ว”
“อะไรนะ?”
กู้หรันตกใจมากๆ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เมื่อวาน ทางนี้เกิดเรื่องนิดหน่อย ฉันรีบกลับมาจัดการ ก็เลยไม่ได้บอกแก ขอโทษน้า”
ตอนพูดจบพูด เสียงก็ค่อยๆ เบาเหมือนทำความผิดมา
กู้หรันปวดหัวจนนวดขมับ
ผู้หญิงคนนี้นี่ จริงๆ เลย......
เธอก็ได้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “งั้นตอนนี้แกถึงหรือยัง?”
“ถึงแล้วถึงแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ในบ้านแล้ว”
กู้หรัน “......”
นี่มันไร้หัวใจจริงๆ!
เธอพูดเสียงขรึมว่า “ไหนๆ แกไม่เป็นอะไรแล้ว งั้นฉันก็วางใจแล้ว ฉันเตรียมเลิกงาน ก็ไม่คุยกับแกต่อแล้ว แกต้องระวังตัวให้ดีๆ ล่ะ รู้ไหม?”
“อืมๆ ฉันรู้แล้ว”
“งั้นแค่นี้นะ วางและ”
“อื้ม เลิฟยูเสี่ยวหรันหรัน”
กู้หรันวางสายไป
พึ่งเก็บของเสร็จ เตรียมที่จะจากไป อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง
เอาขึ้นมาดู เป็นสายของสีโม่เฉิง
เธอได้รับ พึ่งกดรับ ในสายก็ได้ส่งเสียงที่มีเสน่ห์ของสีโม่เฉิงมา
“เลิกงานหรือยัง?”
กู้หรันตอบ “พึ่งเลิกค่ะ ทำไมเหรอ?”
“ออกมา พาคุณไปที่ที่หนึ่ง”
กู้หรันสงสัยเล็กน้อย ตอนที่จะถามว่าที่ไหนนั้น อีกฝ่ายก็ได้วางไป
จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร จูงมือของเธอ แล้วก็เดินไปที่เวทีสูง
เวทีสูงที่ว่า คือศาลาที่สร้างบนภูเขา
วิลล่านี้ เป็นการออกแบบสไตล์โบราณ
หลังศาลาก็ได้มีอาคารที่มีผนังสีแดงและกระเบื้องสีดำ ตำแหน่งกลับได้อยู่ต่ำกว่าเวทีนี้นิดหน่อย
และที่นี่ คือบนภูเขาลูกเล็กๆ ที่ที่สูงที่สุด รอบศาลาได้มีราวจับป้องกัน แต่ก็ได้ถูกทาให้เป็นสีแดง นั่งบนราวจับแล้วมองลงไป สามารถที่จะเห็นวิวของทั้งเมือง
กลางศาลาก็มีโต๊ะหินอ่อน รอบๆ มีแสงไฟ ส่องสว่างราวกับกลางวัน ไม่ต้องห่วงว่าจะมองเห็นไม่ชัด
กู้หรันถูกเขาจูงมือพาเดินไปที่ศาลาเสร็จ เดินไปยืนที่ราวจับ เห็นทิวทัศน์ของแสงนับพันใต้ภูเขาทันที
เธอก็ได้พูดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า
“ว้าว สวยจัง!”
ตอนนี้อยู่ในช่วงกลางเดือนกันยา แรงลมเย็นสบาย อากาศไม่ได้ร้อนมาก แต่ก็ไม่ได้เย็นมาก อยู่ในฤดูที่สบายๆ
ยืนอยู่ตรงนี้ เห็นแสงไฟในเมืองเหมือนหิ่งห้อยในคืนที่มืดมิด สว่างไสวอยู่มีผืนดินที่กว้าง เหมือนเป็นเงาสะท้อนของดวงดาวที่เป็นประกายบนท้องฟ้า
สีโม่เฉิงยืนอยู่ข้างๆ เธอ หัวเราะพูด “ก่อนหน้านี้ ฉันก็แค่ได้ยินพวกเพื่อนๆ พูดถึงที่แห่งใน ก็ได้สงสัยแล้วก็มาดู ก็พบว่ามันไม่เลวจริงๆ ถึงได้พาคุณมา ชอบไหม?”
กู้หรันพยักหน้า “ชอบค่ะ”
แต่เธอก็ยังสงสัยในการกระทำของสีโม่เฉิงในวันที่เล็กน้อย
“แต่ว่าทำไมอยู่ๆ คุณถึงได้พาฉันมาที่นี่ คงจะไม่ได้บอกฉันว่า คุณลงทุนขับรถชั่วโมงกว่าเพื่อที่จะให้ฉันดูวิวกลางคืนหรอกนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...