เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดที่ว่า คิดว่าอีกฝ่ายเป็นมิจฉาชีพ
อย่างไรเสีย มีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้แล้ว เธอคิดว่าตนเองก็พอมีความรู้ทางสังคมอยู่บ้าง
ชายชราคนนี้ไม่ว่าจากการแต่งเนื้อแต่งตัว หรือว่าคำพูดคำจา หรือว่าท่าทางที่ดูไม่ธรรมดา
ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้
อย่างเช่นรองเท้าผ้าสีดำที่มองดูแล้วธรรมดาๆคู่หนึ่งบนเท้าเขา คนที่ไม่รู้ อาจจะคิดว่าเป็นรองเท้าผ้าลินินที่ซื้อมาจากร้านแผงลอย คนจนๆถึงจะใส่แบบนั้น
แต่เธอก็กลับมองออก เป็นรองเท้าผ้าแฮนด์เมดที่มีชื่อเสียงมากที่เมืองหลวง มองดูมัน
เรียบๆแต่ใส่สบายเหมาะกับผู้สูงอายุที่ขาเดินไม่สะดวก
อีกอย่าง ถ้าเป็นมิจฉาชีพจริง คงไม่ชนอย่างซุ่มซ่ามขนาดนี้
รถของเธอยังไม่ได้สตาร์ท ก็มาชนและล้มลงไปเอง
พูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ
จากนั้น กู้หรันก็มองเห็นทุกอย่าง แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
เธอก็มองดู ว่าตกลงชายชราคนนี้จะมาไม้ไหนกันแน่
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงโรงพยาบาล
โรงพยาบาลนี้ก็เป็นกิจการที่อยู่ภายใต้การบริหารของCeesi Group เมื่อก่อนกู้หรันไม่รู้
หลังจากที่จดทะเบียนสมรสกับสีโม่เฉิง จึงใช้เวลาทำความเข้าใจเกี่ยวกับCeesi Groupใหม่อีกครั้งเป็นพิเศษ จึงพบว่า
กิจการห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปในเมืองJนั้นมีความเกี่ยวข้องกับCeesi Group
กิจการหนึ่งสามารถขยายขอบเขตมาถึงจุดนี้ได้ ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนที่บริหาร
มาถึงโรงพยาบาล กู้หรันก็ลงทะเบียนที่ห้องอายุรกรรมฉุกเฉินให้ชายชรา
ท่านสีเองก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อหมอเข้ามาและต้องการจะตรวจเขา ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มและพูดกับกู้หรันว่า “แม่หนู
ฉันคอแห้งเล็กน้อย หนูช่วยไปเอาน้ำมาให้ฉันสักแก้วได้มั้ย”
กู้หรันเห็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกไปเทน้ำ
หลังจากเธอไปแล้ว ท่านสีจึงมีสีหน้าเคร่งขรึมลง พูดกับคุณหมอตรงหน้าว่า “อีกเดี๋ยวควรจะพูดยังไง
ในใจคุณคงจะรู้ดีนะครับ”
เมื่อก่อนนี้คุณหมอเคยเจอท่านสีแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อนแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ตอนที่เห็นท่านสี ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ คิดว่าตนเองจำคนผิด
ตอนนี้เห็นเขาพูดแบบนี้ จึงรู้ว่าตนเป็นไม่ได้จำผิด
แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ แต่กลับรีบพยักหน้า “ครับ ผมรู้ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...