วิวาห์ลวงอลวนรัก นิยาย บท 98

กู้หรันแววตาเคลื่อนเล็กน้อย ลุกขึ้นมาอย่างสบายๆเป็นธรรมชาติ

“คุณหยวี คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอกับท่านที่นี่นะคะ ช่างบังเอิญจริงๆ”

เธอพูดจบ ก็หันมองไปยังสีโม่เฉิง

จากนั้นก็พูดยิ้มๆ“พูดตรงๆเลยแล้วกัน ฉันกับคุณโม่เฉิงรู้จักกันจริงๆค่ะ เอ่อ……เป็นพันธมิตรที่ร่วมงานกันทางธุรกิจทั่วๆไปน่ะค่ะ……”

“เป็นความสัมพันธ์แบบคนตามจีบและคนถูกตามจีบครับ”

จู่ๆสีโม่เฉิงก็เปิดปากพูดขึ้น

พอคำพูดนี้ออกมา ทุกคนตรงนั้นก็นิ่งเงียบไปทันที

ทุกคนต่างมองเขาด้วยความประหลาดใจ รู้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อ

“ว่า ว่าไงนะ?”

คุณหยวีสงสัยว่าตัวเองจะหูฝาดไป

สีโม่เฉิงก็เลยพูดเน้นย้ำออกมาอีกหนึ่งรอบ

“ผมบอกว่า ผมกับคุณหรัน มีความสัมพันธ์แบบคนตามจีบและคนถูกตามจีบครับ”

คุณหยวี“……”

ประธานระดับสูงคนอื่นๆ“……”

ฉินจูที่อยู่ข้างๆตัวเขา“……”

กู้หรัน“……”

เซี่ยหนันก็อึ้งตะลึงไปเหมือนกัน

แน่นอนว่าเธอรู้จักสีโม่เฉิงอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ก็เคยเห็นเขาในข่าวหรือไม่ก็ในนิตยสารใการเงินมาบ้าง

ในเวลานี้ จู่ๆได้มาเห็นเขาในชีวิตจริง ก็อึ้งตะลึงอยู่สักพัก ผ่านไปนานสองนานกว่าจะตอบสนองกลับมาได้

“ไม่ใช่สิ หรันหรันเธอ……”

เธอหยุดไปหลายวินาทีก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองอยากจะถามอะไร

“เธอรู้จักสีโม่เฉิง?”

กู้หรันลูบหน้าผากด้วยความปวดหัว

เธอรู้ว่า ในเวลานี้ ต่อให้เธอปฏิเสธไปก็ไม่มีประโยชน์

ผู้ชายคนนี้ ตั้งมั่นในใจแล้วว่าจะไม่ให้เธอได้อยู่อย่างสงบสุข

เธอถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง พูดขึ้นอย่างยอมรับชะตากรรม“รู้จัก ฉันกับคุณโม่เฉิง……”

เธอหันมองสีโม่เฉิง รู้สึกหมดหนทาง“ก่อนหน้านี้คุณโม่เฉิงเคยช่วยฉันเอาไว้ ดังนั้นพวกเราก็เลยมีมิตรภาพที่ลึกซึ้งต่อกัน”

ตอนที่พูดคำข้างหลัง ก็จงใจเน้นเสียงให้หนัก กัดฟันพูดออกมา

สีโม่เฉิงสีหน้านิ่งเฉย มีเพียงแค่แสงสลัวๆในแววตาเท่านั้น

คนอื่นๆที่เหลือต่างก็คลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจมาหลายปี แน่นอนว่าล้วนแต่เป็นคนที่มากประสบการณ์กันทั้งนั้น

สัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้นดูผิดแปลกอยู่ไม่น้อย จึงรีบเข้ามาพูดไกล่เกลี่ยทันที“เหอะๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างบังเอิญเสียจริงนะครับ เอ่อคุณโม่เฉิง เราอยู่ที่นี่มานานแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่รบกวนพวกคุณหรันทานข้าวดีกว่าครับ……”

สีโม่เฉิงก็ไม่ได้ทำให้กู้หรันรู้สึกอึดอัดใจต่อ เดินแหวกผู้คนที่แออัดจอแจไปยังห้องไพรเวทที่จองเอาไว้

พวกกลุ่มคนก็พากันเดินทยอยจากไป

เซี่ยหนันหัวเราะแหะๆ ก่อนจะเข้าไปพูดถามขึ้นด้วยความอยากรู้“ว่าแล้วทำไมตอนที่ฉันถามเธอว่าเธอเลิกกับเฉิงเฟิงแต่ทำไมไม่เสียใจเลยสักนิด ที่แท้ก็หาคนที่ยอดเยี่ยมกว่าได้แล้วนี่เอง ก็ไม่รู้ว่าถ้าพวกกู้อันหนิงรู้เรื่องนี้ จะอิจฉาริษยาเธอหรือเปล่านะ?”

สีโม่เฉิงกับเฉิงเฟิง แน่นอนว่าเทียบกันไม่ได้เลย

ส่วนกู้อันหนิงนั่น เป็นคนไม่ยอมใครมาตลอดทั้งชีวิต ทั้งหมดที่กู้หรันมี เธอก็จะแก่งแย่งช่วงชิงไปให้หมด

ดังนั้น เซี่ยหนันก็เลยพูดว่า ถ้าให้เธอรู้ว่าหลังจากที่กู้หรันกับเฉิงเฟิงเลิกกันแล้ว แต่กลับหาคนที่ดีกว่าแบบสีโม่เฉิงได้ ภายในใจจะต้องรู้สึกอิจฉาริษยาแน่ๆ

กู้หรันกลับเหม่อลอย

อิจฉาริษยาเหรอ?

มีอะไรที่น่าอิจฉาริษยากัน?

เธอกับสีโม่เฉิง ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆสักหน่อย

เป็นแค่ความสัมพันธ์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายก็เท่านั้น

พอคิดถึงตรงนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำไม ในใจถึงแอบรู้สึกหดหู่ขึ้นมา

แต่ไม่นาน เธอก็สลัดความหดหู่นี้ทิ้งไป

เธอแอบหัวเราะเยาะตัวเอง กู้หรันเธอกำลังคิดอะไรอยู่?

ในเมื่อเป็นการร่วมมือกัน ก็ต้องเคารพต่อสัญญา

ผู้ชายคนนั้นจะพูดมั่วซั่วอะไรออกมาก็ได้ แต่เธอจะต้องควบคุมจัดการกับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ให้ได้

ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดถูกทำร้ายอีกครั้ง เธอจะเยียวยารักษาตัวเองยังไง?

เธอยิ้มๆ พร้อมกับพูดกับเซี่ยหนัน“พอได้แล้ว พวกเราหยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว เออใช่ แล้วเธอกลับมาในครั้งนี้กะที่จะอยู่ที่เมืองJนานแค่ไหนเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก