ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 136

หนานหว่านเยียนทำเหมือนไม่รู้อะไร ก่อนจะมองไปที่กู้โม่หานแล้วพูด “ท่านอ๋อง ในเมื่อมีคนจำนวนมากเช่นนี้ เราไปจัดงานในห้องโถงของจวนเถอะ พวกท่านไปก่อน ข้าขอเปลี่ยนชุดใหม่แล้วตามไปทีหลัง”

ลูกทั้งสองคนอยู่ที่นี่ นางไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้

กู้โม่หานพยักหน้า แล้วเดินออกไปพร้อมกับหยุนอี่ว์โหรว โดยมีบรรดาคุณหนูเดินตามไป ทุกคนจึงเดินทางตรงไปที่ห้องโถง

ก่อนที่จะจากไปหยุนอี่ว์โหรวหันไปมองหนานหว่านเยียนดวงตาของนางสงบนิ่ง แต่กลับเหมือนว่าในวินาทีต่อมาจะเกิดพายุกระหน่ำ

เจียงหรูเยว่เดินอยู่ด้านหลังสุด นางมองไปที่หนานหว่านเยียน แล้วพูดเยาะเย้ยเสียดสี “พระชายาช่างสูงศักดิ์ยิ่งนัก แม้แต่งานเลี้ยงในครอบครัวยังต้องแต่งตัว ไม่เหมือนกับพวกเรา ที่แต่งหน้าไม่เก่ง”

พอมองไปที่ใบหน้าที่แต่งแต้มมาอย่างประณีตของเจียงหรูเยว่ หนานหว่านเยียนก็อดที่จะกลอกตามองบนให้ไม่ได้ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปในห้อง

เซียงอวี้เองก็เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัด แล้วเดินตามหลังไป

เจียงหรูเยว่เหมือนพูดกับกำแพง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ นางกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ แล้วเดินออกไปด้วยความโมโห

เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าเรือน เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาล้วนแต่เห็นแล้ว

แต่ยิ่งมองสองพี่น้องยิ่งรู้สึกว่า หญิงสาวเหล่านี้เต็มไปด้วยความมุ่งร้ายที่มีต่อหนานหว่านเยียน

เกี๊ยวน้อยม้วนแขนเสื้อขึ้น แล้วพูดกับซาลาเปาอย่างจริงจัง “คนพวกนี้ คือพวกที่คิดจะรังแกท่านแม่!”

ซาลาเปาพยักหน้า ใบหน้าใบหน้ากลมเล็กเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“อืม พี่สาวพูดถูกแล้ว!”

ทั้งสองตบมือตกลงกันทันที ขอแค่ปกป้องหนานหว่านเยียนก็พอแล้ว

เกี๊ยวน้อยทำท่าทางเหมือนจะผลักประตูออกไป

ในเวลานี้ หนานหว่านเยียนที่กำลังจะกลับบ้านผลักประตูเปิดเข้ามา แล้วหยุดเกี๊ยวน้อยที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองไว้ได้ นางเอียงศีรษะแล้วพูด “เกี๊ยวน้อย เจ้าจะออกไปทำอะไร?”

เกี๊ยวน้อยคิดไม่ถึงว่าหนานหว่านเยียนจะเข้ามากะทันหัน ในใจรู้สึกร้อนตัวกอดเอวไว้แล้วพูด “คนพวกนั้นดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรต่อท่านแม่ ข้าจะปกป้องท่านแม่!”

ซาลาเปาพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว! จะปล่อยให้ท่านแม่โดนรังแกไม่ได้!”

หนานหว่านเยียนส่ายหน้าอย่างจนใจ แล้วแตะที่ปลายจมูกของสองพี่น้อง “พวกนางคิดจะรังแกแม่ แม่ต้องปล่อยให้พวกเขารังแกหรือ”

นางลูบหลังปลอบโยนพวกเขาอย่างอ่อนโยน แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “แล้วอีกอย่าง พวกเจ้าต้องรู้ ว่าแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่ก็สามารถปกป้องตัวเองได้

แล้วอีกอย่างตอนนี้กู้โม่หานก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของแม่ เขาไม่กล้าทำอะไรกับแม่จริงๆ”

“พวกเจ้าสองพี่น้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือปกป้องตัวเอง ไม่ใช่คิดแต่จะปกป้องแม่”

ความขุ่นเคืองในใจของเกี๊ยวน้อยดูเหมือนจะหายไปทันที แต่นางก็ยังกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย

หนานหว่านเยียนรู้ดี ว่าความดื้อรั้นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโน้มน้าวใจได้

นางจับมือเกี๊ยวน้อยไว้ “พอเจ้าโตขึ้น ค่อยมาปกป้องแม่ ตกลงไหม?”

พอเห็นว่าเกี๊ยวน้อยยังคงลังเลอยู่เล็กน้อย ซาลาเปาก็จับมืออีกข้างของนางแล้วเขย่าอย่างออดอ้อน “พี่สาว เราฟังคำพูดของท่านแม่ดีไหม อย่าปล่อยให้ท่านแม่ต้องเป็นห่วงเลย...”

เกี๊ยวน้อยได้ยินเช่นนี้ถึงได้ใจอ่อน ดวงตาของนางแดงก่ำเล็กน้อย “อืม ถ้าเช่นนั้นก็ฟังคำพูดของท่านแม่”

หนานหว่านเยียนรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะยกยิ้มกว้าง แล้วหยิกแก้มของเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาเบาๆ

“เด็กดี แม่มีงานมอบหมายให้พวกเจ้าช่วยทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ดี แม่มีรางวัลให้!”

เกี๊ยวน้อยมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “ท่านแม่พูดมาได้เลย! ขอแค่เป็นคำสั่งของท่านแม่ ข้าก็จะทำตามทุกอย่าง!”

หนานหว่านเยียนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดีมาก รู้จักพูดแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้