เจียงหรูเยว่ตัวสั่น จากนั้นสีหน้าของนางก็ซีดเผือด
“ไม่ ไม่ใช่เพคะ หม่อมฉันไม่ได้หมายความเช่นนี้...” นางโบกมือปฏิเสธด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
เหตุใดกู้โม่หานถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้? !
เขา หรือว่าเขาจะไม่คิดว่า ที่นางพูดนั้นถูกต้อง?
ทุกคนต่างก็ตกใจเช่นกัน
นี่พวกนางเห็นผีกลางวันแสกๆ หรือ
พวกนางถึงได้ยินกู้โม่หานช่วยพูดแทนหนานหว่านเยียนเช่นนี้? !
แม้แต่หนานหว่านเยียนเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายอย่างกู้โม่หานจะช่วยพูดแทนนาง?
ดูเหมือนว่าการเดินทางไปยังค่ายทหารครั้งนั้นจะไม่ถือว่าไร้ประโยชน์
ถือว่าเขาจะยังมีความซาบซึ้งในบุญคุณอยู่
รูม่านตาของหยุนอี่ว์โหรวสั่นสะท้าน ดวงตาของนางลุกโชนด้วยความอิจฉาริษยา
แต่นางระงับความเกลียดชังในใจไว้ บนใบหน้ายังคงยิ้มบาง รีบกล่าวโทษเจียงหรูเยว่
“ท่านอ๋องพูดถูก คุณหนูเจียง ห้ามพูดเรื่องไร้สาระ พระชายาคือภรรยาเอกของท่านอ๋อง และเป็นนายหญิงของจวนอ๋องอี้เจ้าพูดเช่นนี้ ก็ถือว่ากำลังดูถูกทุกคนในจวนอ๋องอี้ด้วย”
นางคิดไม่ถึงว่ากู้โม่หานจะช่วยพูดแทนหนานหว่านเยียน แต่ไม่เป็นไร อีกไม่นานหนานหว่านเยียนก็จะต้องตายแล้ว ดังนั้นให้นางดีใจสักพัก
กู้โม่หานมองเจียงหรูเยว่อย่างเย็นชา แผ่รังสีกดดันอย่างรุนแรง
เจียงหรูเยว่หดตัวลงและตัวสั่นเทา หยุนอี่ว์โหรวนางชั่วร้ายคนนี้ ถึงขั้นกล้าพูดเช่นนั้นกับนาง!
นางโมโหมาก ในขณะที่กำลังจะเริ่มด่าว่าหยุนอี่ว์โหรว ด้านหลังก็มีเสียงอันเคร่งขรึมของหนานหว่านเยียนดังขึ้นมา “ดูเหมือนว่า ข้าจะมาสายไป?”
พอได้ยินน้ำเสียงนี้ เจียงหรูเยว่ก็นึกถึงสิ่งที่หนานหว่านเยียนพูดข้างหูของนางที่งานเลี้ยงในวันนั้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ความขุ่นเคืองในใจของนางก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
นางเม้มปากแล้วมองไปข้างหลัง แล้วเห็นหนานหว่านเยียนสวมชุดสีดำ บุคลิกท่าทางสง่างาม ทุกการขมวดคิ้วและทุกรอยยิ้มเหมือนดอกบัวสีดำที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว
กู้โม่หานเห็นรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงของนาง ดวงตาของกู้โม่หานก็เป็นประกายด้วยความประหลาดใจและความตกใจ
หยุนอี่ว์โหรวเห็นเช่นนั้น มือทั้งสองข้างของนางก็จิกเนื้อแน่น ในใจยังคงสงบนิ่ง
ก็แค่ช่วงเวลาที่สวยงาม มักจะปรากฏเพียงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้นเอง แล้วอย่างไรล่ะ?
หนานหว่านเยียนเหลือบมองไปทางเจียงหรูเยว่ที่ไม่เต็มใจและอิจฉาริษยา ก่อนจะยิ้มเยาะ “คุณหนูเจียงดูเหมือนว่าจะลืมบทเรียนจากงานเลี้ยงในวันนั้นไปแล้ว?”
เจียงหรูเยว่โกรธมาก แต่ยังแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจและพูดว่า “หม่อมฉันไม่ทราบว่าพระชายากำลังพูดถึงเรื่องอะไร”
เรื่องในงานเลี้ยงวันนั้นเป็นความอัปยศที่สุดของนาง!
การกระทำของหนานหว่านเยียน ทำให้พอกลับถึงบ้านนางก็ถูกเจียงไท่ฟู่ลงโทษให้คุกเข่าเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน!
ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ นางก็รู้สึกโมโหมาก!
หนานหว่านเยียนดวงตาเย็นชา น้ำเสียงของนางเยือกเย็น “เจอข้าต้องคุกเข่าเคารพสามครั้ง เรื่องนี้ เจ้าลืมไปแล้วหรือ?”
เจียงหรูเยว่ไม่อยากยอมแพ้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...