‘เมีย’ หมายความว่ายังไง?
เสิ่นอี่ว์กับโม่หวิ่นหมิงไม่เข้าใจ แต่เสิ่นอี่ว์ครุ่นคิด รู้สึกว่านี่ไม่ใช่คำดีๆ ในใจก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา
โม่หวิ่นหมิงรู้สึกตัว ก็เผยรอยยิ้มออกมา
เขายื่นมือไปลูบหัวของเกี๊ยวน้อยเบาๆอย่างอ่อนโยน
“อ๋องอี้เป็นใครกัน? ข้าไม่กลัวเขาหรอกนะ”
อ๋องอี้เป็นใครกัน?!
ทุกคนอึ้งจนอ้าปากค้าง
ท่านอ๋องยังอยู่ในห้อง ถ้าเขาได้ยินคำนี้ คงได้……
“ท่านไม่กลัวเหรอ? งั้นก็ดีเลย!” เกี๊ยวน้อยพึงพอใจกับคำตอบนี้มาก นางมองชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา แก้มแดงๆนั้นก็ตื่นเต้นมาก “ข้ามีนามว่าหนานจือ แม่ข้าเรียกข้าว่าเกี๊ยวน้อย ข้ามีน้องสาวคนหนึ่ง ชื่อว่าหนานเสี่ยว เรียกนางว่าซาลาเปาน้อย แม่ข้าคลอดพวกเราสองคน พวกเราเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน เลี้ยงง่ายมาก ไม่เป็นภาระของท่านกับท่านแม่แน่นอน!”
ว่าแล้ว เกี๊ยวน้อยก็เรียกซาลาเปาน้อยมา ซาลาเปาน้อยกะพริบตา ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าวิ่งมา
“คุณ คุณชาย……”
เสิ่นอี่ว์ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าเกี๊ยวน้อยกำลังแนะนำตัวเองอยู่
เขากำลังจะแนะนำโม่หวิ่นหมิง แต่โม่หวิ่นหมิงพูดขึ้นก่อนว่า
“ใจกว้าง เด็กดี เฉลียวฉลาด แม่ของพวกเจ้าสอนมาดีมากเลย!”
โม่หวิ่นหมิงยิ้มอย่างดีใจ ทำไมหว่านหว่านถึงไม่บอกว่ามีเด็กน่ารักสองคนกันนะ
เขาเอาของเล่นไม้ออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้สองพี่น้องคนละอัน “นี่เป็นของขวัญ พวกเจ้าเก็บไว้ให้ดีนะ”
เกี๊ยวน้อยมองดูตุ๊กตาที่แกะสลักอย่างประณีต ก็ถูกดึงดูดความสนใจทันที นางไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อน เอียงหัวถามว่า “ดูน่าสนุกจัง! แต่จะเล่นยังไงเหรอ?”
โม่หวิ่นหมิงยื่นมือ นิ้วมือเรียวยาวชี้ไปบนหัวของตุ๊กตา ตุ๊กตานั้นเหมือนมีเวทมนตร์วิเศษ ขยับเองได้
เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “นี่เรียกว่าตุ๊กตากลไก ขอแค่กดกลไกนี้ มันก็จะขยับได้ ซาลาเปาน้อย เจ้าลองดูสิ?”
ในมือของซาลาเปาน้อยคือนกกระจาบฝน นางลองกดไปบนตัวของนก นกกระจาบเหมือนเป็นนกจริงๆ เริ่มกระพือปีก
สองพี่น้องอึ้งอยู่กับที่ แม้แต่เสิ่นอี่ว์ยังอดไม่ได้ตกตะลึง
วิชากลไกประณีตขนาดนี้ เขาไม่ได้เจอมานานแล้ว
“เหอะ จะบินแล้ว” เกี๊ยวน้อยกระโดดขึ้นอยากไปจับนกกระจาบฝนบนอากาศ แต่ไม่ทันระวังล้มลงไปบนพื้น
โม่หวิ่นหมิงรีบเปลี่ยนทิศของรถเข็น แล้วโน้มตัวไปรับเกี๊ยวน้อยไว้
เสื้อขาวของเขาโบกพลิ้ว ผมสีดำขลับกระจัดกระจาย ใบหน้าหล่อเหลาเป็นประกาย
แม้แต่เสิ่นอี่ว์ก็รับไว้ไม่ทัน โม่หวิ่นหมิงกลับทำท่ายากบนรถเข็นได้
เกี๊ยวน้อยอยู่ในอ้อมกอดของโม่หวิ่นหมิง จ้องมองโม่หวิ่นหมิงด้วยสายตาร้อนแรง
พอใจ นางพอใจมาก!
ซาลาเปาน้อยก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าคนผู้นี้ถึงจะอยู่บนรถเข็น ยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขนาดนี้ นางอดไม่ได้เอ่ยชม “คุณชายเก่งจัง”
อาจี้ที่มองโม่หวิ่นหมิงเงียบๆ ก็กอดอกอย่างได้ใจ เชิดคางขึ้นอย่างภูมิใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว! เซียนเซิงของข้าเป็นบุคคลยิ่งใหญ่! ถ้าไม่ใช่เพราะสองขา……”
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นช่วยพระชายาแล้วเกิดเรื่อง เขาไม่มีทางได้นั่งรถเข็นแบบนี้หรอก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...