โม่หวิ่นหมิงไม่ชอบใจกู้โม่หานมานานแล้ว
ตอนเขามาก็รู้สึกว่า เรือนที่หนานหว่านเยียนอยู่นั้นเย็นและชื้นมาก นึกถึงหนานหว่านเยียนเคยบอกกับเขาว่า อย่าเผยตัวตนของลูกๆ ก็พอจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว
กู้โม่หานไม่ดีต่อหว่านหว่านของเขา! แต่กลับรู้สึกชอบเด็กสองคนจากใจจริง
นิ้วมือซีดเซียวของโม่หวิ่นหมิงจับรถเข็นไว้แน่น รอบกายเต็มไปด้วยแรงกดดันที่ไม่ด้อยไปกว่ากู้โม่หาน
เขาจ้องมองกู้โม่หาน แล้วพูดว่า “ดูแล้วอ๋องอี้คงจะยังไม่รู้จักตำแหน่งตัวเอง”
“หลานสองคนของข้าไม่เคยเรียกท่านว่าพ่อเลยนะ ท่านจะบอกว่าพวกนางเป็นลูกของท่านอยู่อีกทำไม?”
เกี๊ยวน้อยรีบยืนข้างโม่หวิ่นหมิง “นั่นสิ! พวกเราไม่มีพ่อ เจ้าอย่ามาขี้โม้หน่อยเลย!”
ถึงแม้กู้โม่หานจะแข็งแกร่ง เมื่อกี้ยังต่อสู้กับนางอีก แต่นางไม่ยอมรับหรอกนะ นางชอบเขาแค่นิดเดียวเท่านั้น
เพราะเขาชอบรังแกท่านแม่ ไม่ดีต่อท่านแม่ ไม่คู่ควรกับการเป็นพ่อด้วย
ซาลาเปาน้อยลังเลสักพัก แล้วเดินไปใกล้โม่หวิ่นหมิง “พี่สาวพูดถูก พวกเราอยากเล่นกับท่านปู่หมิง!”
กู้โม่หานเจ็บปวดจิตใจ เขาไม่อยากรบกวนเด็กสองคน แต่ก็ไม่อยากให้พวกนางเห็นเขาเป็น ‘ศัตรู’ !
เขากัดฟัน แสยะยิ้มเย็นชามองดูโม่หวิ่นหมิง นัยน์ตาสีดำนั้นมืดมน “เรื่องในบ้านของข้า เจ้าเป็นคนนอกไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งหรอกนะ”
“เด็กสองคนเป็นลูกของข้าหรือไม่ แค่พริบตาเดียวก็มองออกแล้ว เจ้าอย่ามาพล่ามไร้สาระหน่อยเลย?”
เขาไม่ชอบโม่หวิ่นหมิง ไม่มีเหตุผลอื่น เพราะเขาไม่ใช่น้าแท้ๆของหนานหว่านเยียน แต่กลับดูแลหนานหว่านเยียน และดูจะสนิทกับเด็กสองคนมาก
โม่หวิ่นหมิงแสยะยิ้ม นิ้วมือเรียวยาวนั้นเคาะรถเข็นตัวเองอย่างมีจังหวะ สายตาเฉียบคม “ใครเป็นคนนอก อ๋องอี้น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจนะ?”
เห็นได้ชัดว่า สองพี่น้องเข้าข้างเขา
กู้โม่หานปวดใจมาก เขาพ่ายแพ้ในเรื่องของเด็กอย่างราบคาบ
ดูแล้วก่อนจะคุยกับหนานหว่านเยียน จะต้องเตือนโม่หวิ่นหมิงนี่ก่อน!
เขาหรี่ตามองเสิ่นอี่ว์อย่างเย็นชา เสิ่นอี่ว์รีบมองไปยังหมัวมัวพวกนั้น
พวกหมัวมัวรีบอุ้มสองพี่น้องเข้าไป
เกี๊ยวน้อยดิ้นรนอย่างไม่เข้าใจ “หวางหมัวมัวปล่อยข้าลงนะ! นั่นเป็นท่านปู่หมิงของข้า ห้ามคนเลวนั่นรังแกท่านปู่ของข้านะ!”
หวางหมัวมัวเหงื่อแตกพลั่ก “คุณหนู ตอนนี้ท่านอ๋องกับท่านปู่หมิงมีเรื่องต้องคุยกัน บ่าวไปเล่นกับพวกท่านหลังเรือนนะเจ้าคะ”
ซาลาเปาน้อยมองดูทั้งสองคน สายตาเต็มไปด้วยความเศร้า เม้มริมฝีปากครุ่นคิด แล้วตามไปอย่างเงียบๆ
เสิ่นอี่ว์พูดกับอาจี้ว่าไปจัดการเก็บกวาดห้อง อาจี้ดูเหมือนจะไม่อยากไป โม่หวิ่นหมิงปัดมือ อาจี้ก็ถึงถือกระเป๋าออกไป
เรือนเซียงหลินก็เหลือแค่กู้โม่หานกับโม่หวิ่นหมิง ยังมีเสิ่นอี่ว์ที่อยู่ข้างๆ
โม่หวิ่นหมิงรับรู้ได้ถึงความรักที่กู้โม่หานมีให้เด็กๆ แต่กู้โม่หานรังแกหนานหว่านเยียนกลับเป็นเรื่องจริง แม้แต่ที่พักอาศัย ยังอยู่ไกลจากห้องหลักอีก
เกรงว่า หว่านหว่านของเขาคงจะน้อยใจมาก นางคงเป็นพระชายาที่ได้รับความเหยียดหยามมากที่สุด!
โม่หวิ่นหมิงฉีกร่างที่อ่อนโยนทิ้ง หรี่ตามองกู้โม่หานด้วยสายตาเย็นยะเยือกราวกับเหยี่ยว
“อ๋องอี้ ข้าขอเตือนท่านอีกรอบ ไม่มีใครรังแกหว่านหว่านได้ แม้แต่เจ้า ก็ไม่ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...