สีหน้าของพ่อบ้านเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่คิดว่าจู่ๆ หนานหว่านเยียนจะโกรธมากขนาดนี้ เขารีบหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาดู “ทูลถามพระชายา สมุดบัญชีมีปัญหาอย่างไรหรือ?”
หยุนอี่ว์โหรวก็เอ่ยชื่อแซ่เขาแล้ว ถ้ามีปัญหาจริง เกรงว่าจะผลักความรับผิดชอบมาที่เขา เรื่องแบบนี้ เขาแบกรับไม่ไหว
ทั้งเสิ่นอี่ว์และเซียงอวี้ต่างมีสีหน้างุนงง ไม่รู้ว่าหนานหว่านเยียนพบอะไร
แต่ทั้งสองต่างรู้ว่า หนานหว่านเยียนจะไม่สู้โดยไม่มีการเตรียมพร้อม ตอนนี้นางดูท่าทางมีแผนในใจ ต้องเตรียมตัวมาดีแน่
หนานหว่านเยียนยิ้มเยาะ มองหยุนอี่ว์โหรวอย่างไตร่ตรอง
“ข้าได้ตรวจสอบบัญชีทั้งหมดแล้ว เดือนที่แล้ว จวนอ๋องมีรายได้ห้าแสนตำลึงเงิน ในคลังของจวนน่าจะมีไม่ต่ำกว่าห้าล้านตำลึงเงิน”
“แต่ในบัญชีทั้งหมดช่วงนี้ มีรายจ่ายไม่เกินสามแสนตำลึง คำนวณแล้วก็ควรจะยังเหลือสี่ล้านเจ็ดแสนตำลึง แต่ในสมุดบัญชีบันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า เหลือเพียงสี่ล้านสองแสนสองตำลึง หยุนอี่ว์โหรว อีกห้าแสนตำลึงอยู่ที่ไหน?”
พ่อบ้านกาวตกตะลึง นัยน์ตามีความประหลาดใจ รีบมองไปทางหยุนอี่ว์โหรวพลางเอ่ยว่า “กระหม่อมจำได้ว่าพระชายารองหยุนเคยบอกว่า เงินห้าแสนตำลึงนี้จะมอบให้ท่านดูแลจัดการ หลังจากนี้ท่านจะโปะให้ครบเอง ตอนนี้...”
หนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะ แววตาพุ่งตรงไปที่หยุนอี่ว์โหรว “ดูเหมือนว่าพ่อบ้านกาวจะไม่รู้เรื่อง พระชายารองหยุนบอกหน่อยสิ เงินห้าแสนตำลึงนี้ เจ้าเอาไปทำอะไร?”
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ก็เกิดความวุ่นวายใหญ่โตขึ้นในทันที
เซียงอวี้เอามือปิดปากด้วยความตกใจ สายตาที่มองไปยังหยุนอี่ว์โหรวเต็มไปด้วยความดูถูก
เกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวงขึ้นอย่างคาดไม่ถึง! นางเพิ่งได้รับสิทธิ์ดูแลจวนมาไม่นาน!
เสิ่นอี่ว์อดสั่นสะท้านไม่ได้ คิ้วขมวด เงามืดแฉลบผ่านดวงตาของเขา
หยุนอี่ว์โหรวเบียดบังผลประโยชน์ใส่ตัวเองงั้นหรือ?
เงินห้าแสนตำลึงไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ห้าสิบตำลึงเพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูพลเรือนห้าคนได้หนึ่งปี ห้าแสนตำลึงสามารถทำให้พลเรือนห้าหมื่นคนใช้ชีวิตอยู่ได้ตลอดทั้งปี!
นี่หมายความว่าอะไร หยุนอี่ว์โหรวรู้ตัวหรือไม่ว่า การปิดบังท่านอ๋องหอบเงินไปมากมายเช่นนี้ เป็นการกระทำเช่นไร?
หยุนอี่ว์โหรวลุกลี้ลุกลน ดวงตาเบิกกว้างปิดบังความตื่นตระหนกของนางเอาไว้ไม่อยู่
นางคิดไม่ถึงว่าหนานหว่านเยียนจะคำนวณบัญชีนี้ได้จริงๆ ตัวเลขนั้นถูกต้อง ในใจอดร้อนรนไม่ได้
เชี่ยนปี้ก็ตื่นตระหนกเช่นกัน แต่เรื่องสำคัญเร่งด่วนคือการช่วยหยุนอี่ว์โหรวให้พ้นจากการตกเป็นที่ต้องสงสัย
นางยืนขวางอยู่หน้าหยุนอี่ว์โหรว “พระชายา ท่านหมายความว่ายังไง? เหตุใดถึงมาปรักปรำพระชายารอง?”
“สมุดบัญชีนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก พระชายาต้องคำนวณผิดไปแน่”
หนานหว่านเยียนชำเลืองมองเชี่ยนปี้อย่างเย็นชา “เจ้านายกำลังคุยกัน เจ้ามีสิทธิ์พูดแทรกหรือ? หากยังพูดมาก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าซะ!”
เชี่ยนปี้ใจหายวาบทันที ฝ่ามือยังเหงื่อออกไม่หยุด ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...