ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 277

แต่ บางทีนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่นางเสียใจแล้ว

ที่มาในครั้งนี้ ถือเป็นการจากลาระหว่างนางกับกู้โม่หาน

กู้โม่หานตายไป กู้โม่เฟิงก็จะไม่มีคู่ต่อสู้ นั่นก็หมายความว่า นางยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งฮองเฮาแล้ว

นี่ต่างหากที่เป็นเส้นทางที่นางต้องการเดิน จะให้ความรักมาเป็นสิ่งกีดขวางไม่ได้....

แก้มของกู้โม่หานสัมผัสได้ถึงนิ้วมือของหนานชิงชิง เขารู้สึกไม่สบายจนชาไปถึงหัว อยากปัดมือของหนานชิงชิงออกไปทันที

แต่เขาทำไม่ได้ ทำได้เพียงฟังหนานชิงชิงพูดจาบางอย่างอยู่อย่างแปลกประหลาด

ส่วนกู้โม่เฟิงกับหนานหว่านเยียนมาถึงตรงที่ลับตา กู้โม่เฟิงก็ไม่อ้อมค้อม พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า

“ที่ข้ามาในวันนี้ ก็เพราะอยากถามให้ชัดเจนว่า คนที่ลอบฆ่าอ๋องอี้ ไม่ใช่นักฆ่ามาจากชายแดนใช่ไหม?”

เขาเข้าใจกู้โม่หานเป็นอย่างดี กู้โม่หานไม่มีทางได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเช่นนี้เพราะพวกอันธพาลพวกนั้นเด็ดขาด และการบุกเข้ามาของคนต่างถิ่น พวกทหารตามชายแดนไม่มีทางไม่รู้เรื่อง

ข่าวลือพวกนั้น ฟังดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อถือ

หนานหว่านเยียนก็ไม่พูดอะไรกับเขาเยอะ ยืนใกล้กู้โม่เฟิงหน่อย แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นคนส่งนักฆ่ามา พวกนักฆ่าล้วนสารภาพหมดแล้ว กู้โม่เฟิง จนถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังเสแสร้งเพื่ออะไร?”

กู้โม่เฟิงตกตะลึง ตกใจจนรูม่านตาตีบลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดอะไรไปเรื่อย ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่มีทางใช้วิธีต่ำทรามเช่นนี้แน่”

หนานหว่านเยียนเดารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เขา ดูท่าทีของเขาตอนนี้ ยิ่งทำให้มั่นใจ

เห็นได้ชัดว่าคนอื่นเจตนาสร้างความร้าวฉาน นางต้องเตือนสติกู้โม่เฟิงบ้าง ไม่อย่างนั้นจะถูกคนอื่นหลอกใช้หรือเป็นเครื่องมือ

“ตอนนี้กู้โม่หานถูกลอบทำร้าย ในมือนักฆ่าพวกนั้น ล้วนใช้ดาบโค้งลักษณะพิเศษของจวนอ๋องเฉิง และยอมรับสารภาพว่าเจ้าเป็นคนอยู่เบื้องหลัง”

“ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ใช่ฝีมือเจ้า? ตอนนั้นเจ้าก็พูดใส่ร้ายว่ากู้โม่หานส่งคนไปฆ่าเจ้า บางทีเจ้าอาจจะคิดมาแก้แค้น?”

“เหลวไหล เจ้าอย่าใส่ร้ายป้ายดีข้า เจ้า....” สีหน้ากู้โม่เฟิงดำเหมือนอย่างก้นหม้อ โกรธโมโหจนแทบอยากกระทืบเท้า แต่ก็ต้องระงับไว้

เมื่อตอนเรื่องที่กู้โม่หานสั่งคนไปลอบฆ่าเขา ราวกับกลัวเขาสืบไม่รู้ สามารถสืบพบหลักฐานได้ง่ายมาก และตอนนั้นเขาก็กำลังโกรธจัด ไม่คิดคำนึงถึงความจริงที่อยู่เบื้องหลัง

คำพูดหนานหว่านเยียนในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ง่ายอยู่อย่างลึกๆ

เขามองดูหนานหว่านเยียนอย่างซับซ้อน แล้วก็ถอนหายใจ

“ข้าจะสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจน เมื่อเจอตัวคนร้าย ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ”

พูดเสร็จ เขาเดินเข้าห้องไปอย่างไม่หันกลับมา

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้ว

ถึงแม้กู้โม่เฟิงพูดจาไม่น่าฟัง แต่ก็ไม่ถึงกับโง่จนไม่สามารถชักนำอะไรได้ เชื่อว่าภายในใจของเขานั้นมีแผนการแล้ว

สักพัก กู้โม่เฟิงดึงแขนพาหนานชิงชิงกลับออกไปแล้ว

หนานชิงชิงกัดฟัน สีหน้าไม่พอใจและยังค่อนข้างสงสัย พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านทำอะไร?”

ท่าทีกู้โม่เฟิงเคร่งขรึม มองดูหนานชิงชิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่พาเจ้ากลับ เจ้าก็จะร้องไห้ตายอยู่ตรงหน้ากู้โม่หานหรือ? อีกอย่าง ที่นี่ก็ไม่ต้อนรับพวกเรา”

พูดเสร็จ เขาถลึงตาใส่หนานหว่านเยียน แล้วลากพาหนานชิงชิงกลับไปทันที

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือต้องสืบหานักฆ่าในตอนนั้นให้ชัดเจน หากไม่ใช่กู้โม่หานจริงๆ งั้นคนที่อยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะทำให้พวกเขาสองพี่น้องแตกแยกกัน เข่นฆ่าซึ่งกันและกัน....

หนานหว่านเยียนมองดูทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา เมื่อสบกับสายตาโหดเหี้ยมของหนานชิงชิง นางกระตุกมุมปากพูดขึ้นอย่าหัวเราะเย้ยว่า “เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งแล้วนะ”

นางหันเดินเข้าไปในห้องแล้วก็ปิดประตูดัง “ปัง”

หนานชิงชิงสะบัดมือของกู้โม่เฟิงออก เดินตามหลังเขาไปทีละก้าว ความเกลียดแค้นในสายตาเผยให้เห็นอย่างชัดเจน

หนานหว่านเยียน น่าเกลียดชังจริงๆ

ภายในห้อง กู้โม่หานลืมตาขึ้นมา หรี่ตามองดูหนานหว่านเยียน เห็นท่าทีมั่นใจของนาง เขาระงับความโกรธไว้ก่อน แล้วถามขึ้นว่า

“เจ้าเล่าเรื่องนักฆ่าให้กู้โม่เฟิงฟัง”

หนานหว่านเยียนหยิบถ้วยชาขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ ดื่มลงไปหนึ่งคำ แล้วพูดขึ้นว่า “อืม ที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว แล้วแต่ตัวเขาเองว่าจะเข้าใจไหม”

กู้โม่หานอืมหนึ่งที แล้วก็คิดถึงคำพูดยั่วยุที่นางตั้งใจพูดขึ้นมาเมื่อกี้ สายตาของเขาเย็นชาลง

“เมื่อกี้ ทำไมเจ้าต้องพูดต่อหน้ากู้โม่เฟิง ว่าร้ายพระชายาเฉิง? เจ้าอยากให้ฆ่าตายหรือ?”

หนานชิงชิงแปลกประหลาด ไม่ได้หมายความว่าเขากับนางจะมีความเห็นพ้องกันหรือ เดิมกู้โม่เฟิงก็ไม่ชอบนาง หากยังมาเรื่องยั่วยุ ดาบของกู้โม่เฟิงไม่รู้จะฟันลงมาเมื่อไหร่

หนานหว่านเยียนหัวเราะเย้ย สายตาแฝงไปด้วยความดูหมิ่น

“ทำไม ข้าพูดผิดหรือ? เมื่อกี้หนานชิงชิงร้องไห้อยู่ข้างเตียงเจ้า คนมีตาต่างก็มองออก หากข้าไม่พูดเตือน บนหัวกู้โม่เฟิงคงมีหญ้าเขียว(สวมเขา)เต็มไปหมด จนจะกลายเป็นสนามฟุตบอลแล้ว เพ้ย ข้าว่าเจ้ากู้โม่หาน ไปถึงไหนก็ยั่วยุล่อลวงผู้หญิง”

“หนานหว่านเยียน เจ้าอย่าพูดจาไปเรื่อย ข้ารักนวลสงวนตัว ไม่เคยยั่วยุล่อลวงผู้หญิง”

หนานหว่านเยียนมองดูกู้โม่หานที่สีหน้าโกรธจัด ร้องอ้อยาวๆ ก็ถูก กู้โม่หานเฝ้ารักษาความบริสุทธิ์ของตนเหมือนดั่งหยก

แต่นางก็ยังรู้สึกไม่พอใจ

“ข้าไม่เข้าใจ เจ้า....เลวร้ายกับข้ามาก แล้วทำไมถึงดีกับหนานชิงชิง? เราต่างก็เป็นคนตระกูลหนานเหมือนกัน? ทำไมเจ้าถึงเป็นคนสองมาตรฐาน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้