ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 291

ที่ลานหน้าบ้าน ชายผู้สวมใส่กวานสีเงิน ท่าทางแลดูก้าวร้าว ดวงตามืดมัวไปด้วยความเคืองโกรธ

เขาลงมือคว่ำถังน้ำที่หน้าประตูเรือนเซียงหลินอย่างยโสโอหัง แล้วบุกเข้ามาโดยไม่สนการห้ามปรามของอวี๋เฟิง

ข้างกายเขาทั้งยังหยุนอี่ว์โหรวตามเข้ามาด้วยอย่างเชื่อฟัง

“ท่านพี่หยุนเหิง ท่านอย่าได้โกรธไปเลย......” หยุนอี่ว์โหรวเอามือกุมหน้าแล้วส่งเสียงไออย่างต่อเนื่อง เสียงดังแล้วเสียงดังอีก ใบหน้าอันซีดเซียวนั้นไร้ซึ่งสีสันไม่มีน้ำมีนวล

แต่ไม่มีใครมองเห็นใบหน้าที่หลบอยู่หลังแขนเสื้อของนาง ที่ปรากฏรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ขึ้น

หนานหว่านเยียน วันนี้เจ้าได้มีเรื่องแน่!

ย้อนไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

เชี่ยนปี้ดิ้นรนทุรนทุรายอยู่หลายวัน สุดท้ายก็ได้ตายลง

หยุนอี่ว์โหรวกัดฟันอย่างเกลียดแค้น เชี่ยนปี้ตายไปแล้วนั่นก็แปลว่าจุดจบแห่งโศกนาฏกรรมครั้งนั้น กลายเป็นการตบหน้านางเสียเอง

อีกทั้งเชี่ยนปี้ช่วยนางจัดการเรื่องราวมาไม่น้อย แม้นจะไม่มีความรู้สึกผูกพันลึกซึ้งมากนัก แต่ก็พอจะมีอยู่บ้างนิดหน่อย นางกำกำปั้นแน่น “เจ้าวางใจ หนานหว่านเยียนผู้ที่มันทำร้ายเจ้า ข้าจะไม่มีทางให้มันได้อยู่เป็นสุขแน่!”

หยุนอี่ว์โหรวนางรู้มาว่า หลังจากกู้โม่หานได้สติตื่นขึ้น เขาก็รีบให้คนส่งสาส์นไปที่จวนแม่ทัพทันที คาดว่าคนของจวนแม่ทัพ คงจะใกล้มาถึงแล้ว

ในขณะเดียวกัน ที่หน้าประตูก็แว่วเสียงแห่งความห่วงใยขึ้นทันใด “น้องหญิงอี่ว์โหรว ไยเจ้าจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!”

หยุนอี่ว์โหรวผู้มีใบหน้าซีดเซียวมองไปที่คนผู้นั้น แล้วพลันน้ำตาร่วงหล่นทันใด “ท่านพี่หยุนเหิง……”

หยุนเหิงเป็นลูกชายคนโตของภรรยาเอก เติบโตมาโดยการเลี้ยงดูของหยุนเจิ้นซงตั้งแต่เด็กๆ มีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่กระทำการไม่ซื่อสัตย์ เขาเป็นห่วงตามใจนางในทุกอย่าง แต่นางเกรงกลัวจวนแม่ทัพ จึงไม่กล้าลงมือกับหยุนเหิงง่ายๆ

หยุนอี่ว์โหรวเดินมาข้างๆ หยุนเหิงด้วยท่าทีอ่อนแอ ร่ำไห้ราวดอกสาลี่ร่วงหล่น สภาพอันน่าเวทนาของนางกระต่ายสีขาวผู้ใดพบเห็นก็อดสะเทือนใจไม่ได้

“ท่านพี่หยุนเหิง ท่านรีบช่วยข้าทีเจ้าค่ะ โหรวเอ๋อร์อยู่ในจวนอ๋องแห่งนี้ ก็ ก็แทบไม่มีสิทธิ์จะเอื้อนเอ่ยแล้วเจ้าค่ะ......”

หยุนเหิงยังไม่ทันได้เอ่ยอันใด ก็มีสาวใช้ผู้หนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง มองมาที่หยุนอี่ว์โหรวด้วยความเวทนาใจ

“พระชายารองได้รับความลำบากแล้วเจ้าค่ะ ต่อไป บ่าวจะอยู่รับใช้พระชายารองที่จวนอ๋องแทนเชี่ยนปี้เองเจ้าค่ะ”

หยุนอี่ว์โหรวมองไปที่สาวใช้ผู้นั้น น้ำตาก็ได้ร่วงหล่นลงมาอีก “จ้างฮวา เจ้ามาแล้วหรือ”

จ้างฮวากับเชี่ยนปี้ ล้วนเคยเป็นสาวใช้นางในจวนอ๋องมาก่อน ตอนแรกนางคิดว่าหนานหว่านเยียนเป็นเพียงแค่เบี้ยล่าง รับมือได้ง่าย ดังนั้นจึงได้พาเชี่ยนปี้มา

หยุนเหิงครั้นมองเห็นสภาพอันน่าเวทนาของหยุนอี่ว์โหรว เขาก็ได้มองไปที่คนใช้รอบๆ ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวทันใด “พูดมา ใครทำให้อี่ว์โหรวกลายเป็นแบบนี้!”

น้องชายเขาถูกกู้โม่หานฆ่าตายไปแล้ว แต่ได้ยินมาว่าเขามีความผิดโทษฐานลอบสังหารพระชายา เขาจึงไม่กล้าไปตั้งประเด็นกับกู้โม่หาน กลัวจะลำบากตัวเอง

แต่นึกไม่ถึงว่า หยุนอี่ว์โหรวผู้จิตใจดีว่านอนสอนง่าย และไม่เคยมีความขุ่นเคืองใจกับผู้ใดเสมอมา กลับได้รับความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเช่นนี้ นี่เห็นได้ชัดเจนว่ามีคนกำลังพุ่งเป้ามาที่นาง!

“พูดมาสิ หรือว่าพวกเจ้าคนรับใช้จวนอ๋องอี้ล้วนเป็นใบ้หมดแล้วหรือไงกัน? !”

คนรับใช้รอบๆ ต่างเหลียวมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเอ่ยอันใด เพราะนี่เป็นความผิดที่

หยุนอี่ว์โหรวก่อขึ้นเอง

หยุนอี่ว์โหรวสั่งให้พวกเขาออกไปให้หมด แล้วจึงมองไปยังหยุนเหิง ปาดน้ำตาเอ่ย “ท่านพี่หยุนเหิง ขอโทษด้วย เมื่อครู่หยุนเอ๋อร์เสียมารยาท......เรื่องท่านพี่โม่หรานเมื่อคราก่อน ท่านก็รับรู้แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าพระชายาไปเอาข่าวคราวมาจากที่ใดกัน ล้วนแต่ ล้วนแต่กล่าวว่าหยุนเอ๋อร์เป็นคนวางแผน”

“ตั้งแต่นั้นมา ท่านอ๋องก็ไม่มาหาหยุนเอ๋อร์อีกเลย ล้วนเป็นเพราะหยุนเอ๋อร์ผิดเอง บัดนี้แม้แต่เชี่ยนปี้เองก็......”

พูดแล้ว นางก็ร่ำไห้ขึ้น หยุนเหิงเห็นแล้วก็ปวดใจ จึงเอ่ยปลอบใจขึ้นด้วยความขุ่นเคือง“โหรวเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้กล่าวเช่นนี้เลย น้องชายข้ามีนิสัยใจคออย่างไรข้ารู้ดี!เรื่องนี้ถือว่าเขาโชคร้ายไปเอง ไม่ได้เกี่ยวอันใดกับเจ้าเลย!”

หยุนอี่ว์โหรวส่ายหัว แล้วสำลักเอ่ย “ไม่เกี่ยวมากก็น้อยเจ้าค่ะ เดิมทีโหรวเอ๋อร์ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง ตั้งแต่ห้าปีก่อนพระชายาก็ริษยาข้า หากว่าหลังเข้าจวน ท่านอ๋องไม่มอบอำนาจดูแลจวนให้โหรวเอ๋อร์ พระชายาก็คงจะไม่โกรธเกลียดโหรวเอ๋อร์ขึ้นไปทุกวัน คงจะไม่ทำร้ายโหรวเอ๋อร์ บัดนี้โหรวเอ๋อร์ไร้ซึ่งอำนาจดูแลจวนแล้ว ยังถูกผลักลงทะเลสาบ ร่างกายก็ยิ่งย่ำแย่ลง เรียกได้ว่าไร้ซึ่งสิ่งใดแล้ว......”

“น้องหญิงลำบากทุกข์เพียงนี้เชียวหรือ!” หยุนเหิงอารมณ์ฉุนเฉียว เจ็บปวดดวงใจ

“หนานหว่านเยียนนั่นสมควรตายเสียจริง อยู่เป็นหนามยอกอกเจ้ามาตั้งห้าปี ท่านอ๋องก็ช่างสับสนเสียจริง ไยไม่เชื่อเจ้า กลับไปหลงเชื่อนางแทน ไปกับข้า!วันนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้หนัก ให้รู้เสียบ้าง คนของจวนแม่ทัพเรา ไม่ได้รังแกได้ง่ายๆ !”

แววตาหยุนอี่ว์โหรวฉายแววความได้อกได้ใจ นางไม่ได้พออกพอใจเช่นนี้มานานมากแล้ว ก็เพราะรอให้หยุนเหิงล้างแค้นให้นาง

ดังนั้น จึงได้เกิดฉากเร้าใจหนานหว่านเยียนขึ้นในวันนี้

ในขณะเดียวกัน หนานหว่านเยียนที่อยู่ในเรือนครั้นได้ยินยั่วยุ ก็ขมวดคิ้วแน่น

สายตาอันอ่อนโยนของโม่หวิ่นหมิงก็พลันเปลี่ยนเย็นชาทันที เขาอยากจะออกหน้าแทนหนานหว่านเยียน แต่กลับถูกหนานหว่านเยียนห้ามเอาไว้ “ไม่เป็นไร เรื่องหมาๆ แมวๆ ไม่จำเป็นต้องเปื้อนมือท่านน้าหรอก ข้าไปเองก็ได้เจ้าค่ะ”

“หว่านหว่าน......” โม่หวิ่นหมิงมองมาที่นาง หนานหว่านเยียนส่ายหน้าอย่างมั่นใจ เขาเม้มริมฝีปาก “หากมีเรื่องอันใด ก็จงเป่าสิ่งนี้เสีย ข้าจะรีบไปอย่างเร็วที่สุด”

เขายื่นนกหวีดกระดูกที่ประดิษฐ์จากมืออันประณีตให้หนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนรับเอาแล้วเปิดประตูเดินออกไปอย่างไม่เหลียวหลัง

หลังจากประตูปิดลงโม่หวิ่นหมิงก็กวาดมือลงบนมุมหน้าต่าง “ไม่อาจให้นางได้รับบาดเจ็บเป็นอันขาด”

ไม่นานก็มีเสียงตอบรับ “ขอรับ นายท่าน!”

ที่ลานบ้าน ขณะนี้

หยุนเหิงไม่ได้ชายตามองผู้ใด อวี๋เฟิงกับเซียงอวี้ก็ห้ามคน “แม่ทัพน้อยหยุน พระชายากำลังพักผ่อนอยู่ หากท่านยังก่อกวน บ่าวจะไม่เกรงใจแล้วนะ!”

แม่ทัพน้อยหยุน?หยุนเหิงงั้นหรือ?

ลูกชายภรรยาเอกของแม่ทัพ ผู้รังแกเจ้าของร่างเดิมอย่างอัปยศอดสู เพื่อปกป้องหยุนอี่ว์โหรวงั้นหรือ?

หนานหว่านเยียนผู้ออกมาจากในเรือนหรี่ดวงตาอันสดใส แววตาแผ่ซ่านความเย็นชา

ดูท่าหยุนอี่ว์โหรวคงยังไม่หยุดก่อเรื่อง ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเสียจริง!

หยุนเหิงยิ้มเยาะ แล้วพังทำลายชิงช้าข้างนอกสวนเซียงหลินอย่างฉุนเฉียว

“วันนี้อย่างไรข้าก็จักไม่ยอมจากไป ข้าใคร่ถามพระชายาของพวกเจ้านัก พระชายาผู้สูงส่งช่างน่าอิจฉายิ่งนัก เอาเปรียบรังแกคน จนทำให้พระชายารองมีสภาพเช่นนี้ ไยนางจึงหน้าไม่อายถึงเพียงนี้!”

เซียงอวี้ก็แทบจะห้ามไม่ไหวแล้ว อวี๋เฟิงจึงหยิบชักเอากระบี่ออกมา นั่นมันชิงช้าตัวโปรดที่นายท่านทั้งสองเชียวหนา!

เขาจ้องมองไปที่หยุนเหิง แล้วมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวผู้เจ็บป่วยอ่อนแอ “พระชายารอง นี่เป็นขอบเขตของพระชายา หากท่านไม่พาแม่ทัพน้อยหยุนกลับไป เช่นนั้นก็ถอยหลีกไป ข้าน้อยมีหน้าที่ปกป้องดูแลพระชายา หากได้ลงไม้ลงมือ กระบี่ไม่มีตาจักทำร้ายท่านเอาได้!”

สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวแลดูหวาดกลัวเล็กน้อย นางดึงแขนเสื้อของหยุนเหิง “เราพอแค่นี้เถิดท่านพี่ หากท่านอ๋องทราบเข้า เขาจะโกรธเอาได้”

หยุนเหิงเห็นดังนั้นก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวเข้าไปใหญ่ จ้องมองไปที่อวี๋เฟิงกับเซียงอวี้ ยกขาขึ้นกะจะเตะ

อวี๋เฟิง

“บ่าวต่ำต้อยเยี่ยงพวกเจ้าก็ริอ่านจะมาลงมือกับข้าหรือ เฮอะ เจ้าข่มขู่อี่ว์โหรวให้มันน้อยๆ หน่อย เพราะนางจิตใจงดงามอ่อนโยนเกินไป ถึงได้ถูกพวกเจ้ารังแกได้!หากรู้สำนึกก็จงไสหัวไปเสีย มิเช่นนั้นดาบในมือข้ามันไม่มีหูมีตาหนา......”

เขายังพูดไม่ทันขาดคำ ทันใดหม้อกระทะก็ลอยมากระแทกเข้าที่หน้าผากเขาอย่างจังทันใด

“อ้า——” หยุนเหิงตอบสนองอย่างฉับพลัน แล้วตะโกนอย่างดุเดือดขึ้นมาอย่างดัง “ใครเป็นคนทำ!”

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อวี๋เฟิงกับเซียงอวี้ยิ้มขึ้นทันใด “พระชายา!”

หยุนอี่ว์โหรวแววตาชิงชัง หยุนเหิงมองเข้าไปในลานสวนทันใด ก็เห็นหนานหว่านเยียนสวมใส่กระโปรงยาวสีแดงคลุมชั้นนอกด้วยชุดสีขาว รอยยิ้มงามล่มเมือง งดงามมีเสน่ห์ ประทับใจผู้พบเห็น

หยุนเหิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หน้าผากถูกกระแทกจนปูดโปนก็ไม่รู้สึกเจ็บปวด

เขาได้ยินมาว่าหนานหว่านเยียนงดงามขึ้น แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหนานหว่านเยียนจะงดงามถึงเพียงนี้

หนานหว่านเยียนก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ ทุกก้าวที่ย่างเข้ามาราวกับกำลังเหยียบบนยอดดวงใจของหยุนเหิง

“ได้ยินเสียงสุนัขเห่ามาแต่ไกล นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแม่ทัพน้อยหยุนนี่เอง แม่ทัพน้อยหยุนรุนแรงเช่นนี้ ต้องการจะสั่งสอนใครหรือ......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้