ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 332

เขาชี้ไปชี้มาก็ได้มาหลายสิบชิ้น ใครมันจะบ้าซื้อของแบบนี้?

แม้ว่าจะไม่ใช่เงินของนาง แต่อย่างน้อยก็ออกจะล้างผลาญเกินไปหน่อยล่ะมั้ง?

เจ้าของร้านถึงกับอึ้งไป จากนั้นก็ยิ้มกว้างจนหุบไม่ลง “เอาล่ะ องค์ชาย กรุณารอสักครู่”

จากนั้นเขาก็มองไปที่หนานหว่านเยียน “ฮูหยิน สามีของท่านดีกับท่านมากจริงๆ รักท่านจริงๆ!”

หนานหว่านเยียน: “...”

สิ่งที่เขารักคือ หน้าตาของเขา

แต่นางรู้สึกแปลกใจมาก ทำไมตอนนี้กู้โม่หานถึงสนใจหน้าตาของเขาขนาดนี้ ไม่เคยเห็นเขารังเกียจเสื้อผ้าเก่าๆ และเครื่องประดับน้อยชิ้นของนางมาก่อน

บนรถม้า ซาลาเปาน้อยมองเห็นภาพนี้ แล้วกล่าวเป็นนัย “ท่านอากู้เหมือนจะซื้อของมากมายให้ท่านแม่ ดีกับท่านแม่มากทีเดียว”

เสิ่นอี่ว์ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมา “ท่านอ๋องตาสว่างแล้ว”

ผู้หญิง ต้องได้รับการเอาใจ

ท่านอ๋องจริงจังขึ้นมา นั่นต้องเป็นนักเอาใจภรรยาขั้นเทพแน่!

เอาใจพระชายาสิบมากกว่าองค์ชายสิบเสียอีก!

“ท่านอากู้มีน้ำใจมากจริงๆ” เกี๊ยวน้อยกล่าวเสริมอีกสองประโยค แต่ความสนใจทั้งหมดกลับอยู่ที่ขนมถังหูลู่ที่อยู่ไม่ไกล กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า “ซาลาเปาน้อย เจ้าอยากกินขนมถังหูลู่ไหม?”

ภายในร้าน

เจ้าของร้านห่อกองเครื่องประดับเงินทองส่งให้กับมือกู้โม่หาน ยิ้มเบิกบาน แต่ก็ไม่ค่อยสบายใจ ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้รวมกันมันออกจะ...แพงมากไปหน่อย

“องค์ชาย ทั้งหมดเป็นสามหมื่นสามพันหกร้อยตำลึง...”

หนานหว่านเยียนเบิกตากว้าง “แพงขนาดนั้นเชียวหรือ?”

ฮ่องเต้ประทานเงินให้นางเพียงหนึ่งหมื่นตำลึง ไม่คิดว่าการซื้อเครื่องประดับสักชิ้น จะมากกว่าเงินที่ฮ่องเต้ประทานให้นางเสียอีก

นางมองไปทางกู้โม่หาน “กู้โม่หาน แม้ว่าของพวกนี้จะสวยงาม แต่ข้าคนเดียวสวมใส่ทั้งหมดไม่ไหว ข้าแค่อยากได้เครื่องประดับสักชุดเท่านั้น”

ของนั้นสวยงามมาก ความจริงนางก็ชอบมันมาก มีผู้หญิงที่ไหนที่อดทนต่อการยั่วยวนของเครื่องประดับอันงดงามได้บ้าง?

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อมากมายขนาดนั้น ผลาญเงินจนน่าตกใจ

“ในเมื่อรู้สึกว่าสวย ก็ยิ่งน่าซื้ออีก” กู้โม่หานชำเลืองมองหนานหว่านเยียน “ไม่ใช่ว่าซื้อไม่ไหว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาดูถูก “

หนานหว่านเยียนรู้สึกว่ากู้โม่หานดูคล้ายจะมีปัญหา เขาดูหลงใหลความสุขจากการใช้เงิน

ช่างเถอะ เขาไม่สนใจเงินของตัวเอง แล้วนางจะสนทำไม

ถึงอย่างไรเครื่องประดับทั้งหมดที่ซื้อมาก็ต้องตกเป็นของนาง พอถึงเวลาหนีไป หากไม่มีเงินใช้ ยังเอาไปจำนำหาเงินได้

เมื่อคิดได้ดังนี้ หนานหว่านเยียนก็ยิ้มให้เขา “ท่านสะดวกแบบไหนก็แล้วแต่ท่านเถอะ”

เจ้าของร้านยังคิดว่าพวกเขาจะคืนเครื่องประดับบางอย่างให้ ไม่คาดคิดเลยว่ากู้โม่หานจะโยนแผ่นทองคำให้เขา

เจ้าของร้านแทบจะหน้ามืดหมดสติไปในทันที รีบกัดสองสามครั้ง ดวงตาเปล่งประกายสีเขียว

“ขอบคุณองค์ชาย ท่านเป็นองค์ชายหนุ่มหล่อเหลาที่ใจกว้างมากตามที่คิดไว้จริงๆ มีวิธีการเอาอกเอาใจฮูหยินที่แตกต่างไม่เหมือนใคร”

คุยๆ กันอยู่ จู่ๆ ล่าล่าที่เฝ้ารถม้าอยู่ก็วิ่งกระดิกหางเข้ามาชนหน้าแข้งของหนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนก้มลงมอง แล้วดึงกระดาษข้อความเปียกชุ่มออกจากปากของมัน

กู้โม่หานชำเลืองมองกระดาษข้อความ บนนั้นมีวาดรูปขนมถังหูลู่สองไม้เอาไว้อย่างง่ายๆ

“พวกนางอยากกินอันนี้เหรอ? “ เขากระซิบถามที่ข้างหูของหนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนมอง ‘ภาพวาดอันน่าทึ่ง’ ของเกี๊ยวน้อย แล้วอดหัวเราะไม่ได้ “พวกนางชอบกินขนมหวาน”

พูดจบนางก็หันหลังกลับเดินออกไปพร้อมกับเครื่องประดับ เตรียมตัวไปซื้อขนมถังหูลู่ให้พวกเด็กๆ

เพียงสองก้าว กู้โม่หานก็เอื้อมมือไปหยุดนาง พลางกระซิบข้างหู “เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะไปซื้อให้”

หนานหว่านเยียนไม่พูดมาก หอบเครื่องประดับขึ้นไปบนรถ

นางไม่รู้ว่า หลังจากที่นางขึ้นรถแล้ว กู้โม่หานได้หยิบแผ่นทองคำออกมาจากกระเป๋าอีกใบ

“เครื่องประดับรุ่นใหม่ล่าสุด เป็นที่นิยมที่สุด ห่อมาทั้งหมดเลย แล้วก็เอาเครื่องประดับที่เหมือนกันทุกอย่างอีกสองชุด ขนาดเล็กลงมาหน่อย ประณีตกว่าหน่อย จากนั้นส่งไปที่รถม้าคันนั้น ให้ถึงมือองครักษ์”

เจ้าของร้านอ้าปากค้าง สองตาจับจ้องที่กู้โม่หาน

กู้โม่หานเห็นเขานิ่งไปก็ขมวดคิ้วถามว่า “เป็นอะไรไป? ไม่พอหรือ?”

เจ้าของร้านตกใจหน้ามืด ส่ายหน้าพั่บๆ “ไม่ๆๆ พอๆๆๆ! พอแล้วจริงๆ!”

รวยมาก รวยมากเหลือเกิน!

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเห็นได้ว่าถลุงเงินเป็นว่าเล่นเพื่อเอาอกเอาใจภรรยาและลูก!

ช่างเป็นผู้ชายอะไรที่ดีอะไรเช่นนี้!

เขาเป็นผู้ชายที่เปิดร้านเครื่องหยก ยังอิจฉาภรรยาของเขาเลย!

เจ้าของร้านรีบเรียกคนมาช่วยเขาขาย

กู้โม่หานเดินออกจากร้านไป ท่ามกลางสายตาคลั่งไคล้ของผู้หญิงทุกคนในร้าน เขาเดินไปที่ร้านขายขนมถังหูลู่ ซื้อขนมถังหูลู่ให้เด็กน้อยทั้งสอง

หนานหว่านเยียนอยู่ภายในรถม้า ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก แต่นางกลับมาพร้อมกับเครื่องประดับ เด็กน้อยทั้งสองก็ยุให้นางเอาปิ่นมาปัก

หนานหว่านเยียนปฏิเสธไม่ลง จึงหยิบอันที่นางชอบในแว่บแรกมาปัก

“ว้าว…สวยจังเลย! “เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยมองหนานหว่านเยียนที่เปล่งประกาย “ท่านแม่ ทำไมท่านสวยแบบนี้”

หนานหว่านเยียนจิตใจเบิกบาน หยิกแก้มพวกนางเบาๆ “พวกเจ้าน่ะ ประจบเอาใจแม่เก่ง เดี๋ยวขนมถังหูลู่ของพวกเจ้าก็น่าจะ…”

นางยังพูดไม่จบ ชายร่างสูงก็เปิดผ้าม่านออก

แท่งไม้ที่เต็มไปด้วยขนมถังหูลู่หวานฉ่ำปรากฏขึ้นในสายตาของสามแม่ลูก ทำให้พวกนางสะดุ้งตกใจขึ้นมาพร้อมกัน

จากนั้น กู้โม่หานก็โผล่หน้าออกมาจากหลังแท่งไม้ ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนโยนพูดกับเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยด้วยอย่างเอาหน้าเอาตา “ขนมถังหูลู่ที่พวกเจ้าอยากกิน”

เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยต่างตกตะลึงเมื่อเห็นขนมถังหูลู่จำนวนมาก

จากนั้นจึงได้สติกลับมาว่าเกิดอะไรขึ้น เกี๊ยวน้อยยกมือขึ้นอย่างตื่นเต้นและวิ่งไปหาขนมถังหูลู่ “โอ้โห! ขนมถังหูลู่เยอะจัง! หนึ่งไม้ สองไม้…มีกี่ไม้กัน”

แม้แต่หนานหว่านเยียนก็ถึงกับมึนงง มองกู้โม่หานอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมท่านซื้อมาเยอะจัง? ไม่ใช่แค่สองไม้หรอกหรือ?”

มองผ่านๆ ด้วยสายตา อย่างน้อยก็น่าจะมีประมาณสามสี่สิบไม้แล้ว ทำไมกู้โม่หานถึงไม่มีสติสักหน่อย ถ้ากินพวกนี้เข้าไป ฟันของเจ้าตัวเล็กจะยังอยู่ไหม?

“รอสักครู่” ตอนนี้กู้โม่หานไม่มีเวลาคุยกับหนานหว่านเยียน เขายื่นขนมถังหูลู่ให้สองพี่น้อง เห็นพวกนางน้ำลายแทบไหล จึงลูบศีรษะพวกนางด้วยความเอ็นดู “ค่อยๆ กินนะ มีอีกเยอะ”

จากนั้นเขาก็ยื่นไม้ให้เสิ่นอี่ว์ “ดูให้ดีนะ ถ้าหล่นไปสักไม้ ข้าจะทำโทษให้เจ้าชดใช้สิบไม้!”

“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง” เสิ่นอี่ว์ขนลุกซู่ รีบรับไม้ขนมถังหูลู่มาอย่างระมัดระวัง แล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง

กู้โม่หานรับกล่องหลายใบมาจากอวี๋เฟิง แล้วขึ้นรถม้า

เขานั่งตรงข้ามกับหนานหว่านเยียน เปิดกล่องและหยิบกำไลหยกขาวลายเกลียวออกมา

“มือ”

“อะไรนะ? “ หนานหว่านเยียนชะงักงัน ยังไม่ทันได้ตอบสนอง เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยก็คาบขนมถังหูลู่ไว้ในปาก จับมือหนานหว่านเยียนส่งให้กู้โม่หานด้วยความดีอกดีใจ

กู้โม่หานมองเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสอง เลิกคิ้วขึ้นยิ้มบางๆ สวมกำไลบนข้อมืออันเรียวยาวของหนานหว่านเยียนจนกระชับ “ข้าจัดแบบที่กำลังนิยมมาให้จำนวนหนึ่ง อืม พอได้ ไม่ถึงกับซอมซ่อนัก”

เขาพูดพลางเพ่งพินิจกำไลหยกขาวสะอาดละมุนละไมในมือของหญิงสาวอย่างรอบคอบ ไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังพอดี

เขายิ้มมุมปาก แววตาเผยความพึงพอใจออกมา

เมื่อหนานหว่านเยียนเห็นกำไลหยกที่มือของตน สีหน้าก็ดูแปลกไป อยากจะถอดมันออกแต่ก็พบว่าถอดไม่ออก

นางมีท่าทีโอนอ่อน ชำเลืองมองหากู้โม่หาน

“กู้โม่หาน ข้าว่าท่านนี่ ไม่รู้จักประหยัดจริงๆ”

แต่กู้โม่หานไม่สนใจนาง เมื่อเห็นปลายจมูกของเกี๊ยวน้อยเปื้อนน้ำตาล ก็อดยื่นมือไปเช็ดมันออกไม่ได้ แล้วค่อยสวมหยกที่สวยงามเหมือนกันทุกอย่างให้พวกนาง พลางยิ้มอย่างน่าเอ็นดู

“ที่ซื้อของมาก็เพื่อความสุข ตอนนี้เด็กๆ มีความสุขแล้ว ข้าก็มีความสุข พวกเจ้าว่าใช่ไหม…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้