ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 358

หลังจากพูดจบ สีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

หยุนอี่ว์โหรวเซถอยหลังไปครึ่งก้าว ท่าทางเสียขวัญมาก “เป็นไปได้อย่างไร...”

จ้างฮวายิ่งแสร้งทำเป็นกอดตัวเองอย่างวิกลจริต “บ่าวรู้แค่ว่าฝันนั้นไม่มีทางเสียเปล่า พระชายาล่วงเกินกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงปัญจธาตุเป็นปรปักษ์ต่อกัน หากยังอยู่จวนอ๋องตลอดก็จะ...จะ...”

คำพูดครึ่งๆ กลางๆ แต่ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจ

เป้าหมายแต่ละขั้น เหมือนไม่ได้ชักนำมาที่นางโดยตรง แต่คำพูดโดยนัยต่างว่านางเป็นดาวหายนะไม่ใช่หรือไร

หนานหว่านเยียนยิ้มจางๆ “อ๋อ ตามความหมายเจ้าคือ ข้าธาตุไฟยิ่งใหญ่ จะพิฆาตหยีเฟยเหนียงเหนียงเอาได้รึ”

นักพรตเต๋ามองหนานหว่านเยียนสีหน้าสีหน้ามาก

“ข้าคำนวณออกมาตามโชคชะตาและพรหมลิขิต ตอนนี้จวนอ๋องเมฆดำปกคลุม ใช้ปรากฏการณ์ดวงดาราพิสูจน์คำพูดของข้า หากท่านอ๋องไม่เชื่อ งั้นให้ข้าลองเดาดูว่า ตอนนี้มีสิ่งมีชีวิตตายที่จวนอ๋องอย่างลึกลับไม่น้อย ทั้งซากศพก็ยังอ่อนยวบใช่หรือไม่”

หวางหมัวมัวตื่นตระหนก “ใช่ ใช่เป็นเช่นนั้นไม่ผิด...”

หยุนอี่ว์โหรวประคองหวางหมัวมัวท่าทางหวาดกลัวเป็นกังวล “เป็นความจริงที่สัตว์ตายเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นนกสาลิกาปากดำ แม้แต่สุนัขจิ้งจอกก็มี”

นักพรตเต๋าเอ่ยเย้ยหยัน “แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้ว สัตว์มงคลพวกนั้นสกัดหายนะแทนพวกเจ้า แต่ถังยังเก็บสตรีผู้นี้ไว้จวนอ๋องต่อไป พวกเจ้าแต่ละคน จะถูกธาตุไฟนี่พิฆาต...”

“พิฆาตอะไร ปากสุนัขย่อมคายงาช้างออกมาไม่ได้อยู่แล้ว1!” หนานหว่านเยียนขัดวาจานักพรตเต๋าย่างตรงไปตรงมา

นางจ้องมองนักพรตเต๋าอย่างคาดคั้น เอ่ยถามอย่างเฉียบขาด “ใครเป็นคนซื้อตัวเจ้ามาใส่ร้ายข้ากัน”

นักพรตเต๋าถูกสายตาของนางจ้องมองจนเริ่มลนลาน แต่เขาก็มีประสบการณ์กว้างขวาง ข่มอารมณ์ไว้ได้ ถลึงตาจ้องมองหนานหว่านเยียน

“อาจารย์ของข้าคือนักพรตเต๋าอันดับหนึ่งแห่งเขาเซี่ยงชิง ข้าก็มีความสามารถเช่นกัน จะปล่อยให้เจ้าใส่ความได้อย่างไร! ตอนนี้จวนอ๋องขมุกขมัวไปด้วยบรรยากาศอึมครึมเลวร้าย ทำอะไรไม่ราบรื่น หากมีคนป่วยไข้ร้ายแรง ก็จะไม่มีวันดีขึ้นมา!”

ขณะนักพรตเต๋าพูด ก็มองทางกู้โม่หานที่มีสีหน้าอึมครึม “ท่านอ๋องท่านลองมองสตรีข้างกายท่านผู้นี้ดีๆ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ลักษณะนิสัยเปลี่ยนไปมากใช่หรือไม่ ทำเรื่องที่ไม่เคยทำ พูดวาจาที่ไม่เคยพูด ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากมีปีศาจเข้าสิง! นางไม่ใช่พระชายาอีกแล้ว แต่เป็นภูตผีปีศาจ!”

ทุกคนหวาดผวายิ่ง

ตั้งแต่หนานหว่านเยียนเริ่มปรากฏตัวหลังผ่านไปห้าปี ก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง

แม้แต่โม่หวิ่นหมิงก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหนานหว่านเยียนแต่เขาไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลของนักพรตเต๋าผู้นี้

หากหนานหว่านเยียนเป็นภูตผีปีศาจ ก็ตัดหัวเขาให้คนมาเตะแทนลูกบอลได้แล้ว!

สีหน้าหวางหมัวมัวซีดเซียวขึ้นมาทันที ขณะไม่อยากเชื่อ ก็กลัวว่ามันจะเป็นความจริง เมื่อเห็นว่าหนานหว่านเยียนแตกต่างจากเมื่อห้าปีก่อนจริงๆ จึงไม่กล้าส่งเสียง

แววตาหยุนอี่ว์โหรวฉายแววอาฆาต ความสุขที่บรรลุผลตลบอบอวลในใจ แต่ยังสงบปากสงบคำ

หนานหว่านเยียนรีบตายไปซะ วันนี้ตายไปซะเลย!

หน้าตากู้โม่หานอึมครึม นัยน์ตาเย็นยะเยือก เอ่ยตะคอก “เหลวไหลทั้งเพ!”

เดิมเขาได้ยินพ่อบ้านกาวบอกว่านักพรตเต๋าผู้นี้มีความสามารถบางอย่าง ก็อยากลองดูว่าหนานหว่านเยียนคิดจะทำอะไร ตอนนี้ทุกคำของนักพรตเต๋ามุ่งเป้าไปหาหนานหว่านเยียนเขาก็รู้สึกเดือดดาลทันที

ตอนแรก เขาสงสัยจริงว่าหนานหว่านเยียนไม่ใช่หนานหว่านเยียนในอดีต คิดว่าสับเปลี่ยนคน ซึ่งเรื่องผีสางเทวดาเหลวไหลสิ้นดี ทั้งยังพูดจาไร้สาระพิฆาตคนอะไรกัน ช่างไร้แก่นสารยิ่ง!

“พระชายาของข้าเป็นคนเช่นไร ข้ากระจ่างแจ้งกว่าเจ้า หากเจ้าเอ่ยปั้นน้ำเป็นตัวอีก ข้าจะสั่งตัดศีรษะเจ้าทันที! พ่อบ้านกาวไล่เขาออกไปให้พ้นหน้าข้า!”

นักพรตเต๋าสีหน้าเปลี่ยนทันที “ท่านอ๋องข้าหวังดีกำจัดถัยให้ท่าน ท่านะปฏิบัติกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร หากไม่เชื่อคำข้า ลองไปหานักพรตเต๋าอีกสักสองสามคนก็ได้!”

หวางหมัวมัวรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ท่านอ๋องเพคะ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเหนียงเหนียงท่านอย่าชะล่าใจเลยเพคะ”

เกี๊ยวน้อยโกรธจนหน้าแดง ม้วนแขนเสื้อจ้องมองนักพรตเต๋า “เห็นว่าเจ้าอายุเยอะ คาดไม่ถึงว่าจะไร้เกียรติขนาดนี้! เจ้าอาศัยอะไรถึงใส่ร้ายท่านแม่ของพวกเรา! คำก็ปีศาจสองคำปีศาจ ข้าว่าเจ้านั่นแหละที่หน้าตาเหมือนปีศาจ!”

แม้ว่าซาลาเปาน้อยขี้กลัว หวาดกลัวเรื่องภูตผีปีศาจ แต่ขณะนี้ก็รวบรวมความกล้าขึ้นมา “หากเจ้าพูดเหลวไหลอีก และใส่ร้ายท่านแม่ของข้าอีก ข้าจะล่ากับปู๋ล่าออกมากัดบั้นท้ายเจ้า!”

ซาลาเปาน้อยกับเกี๊ยวน้อยยืนหยัดเพื่อนาง หนานหว่านเยียนไม่แปลกใจ เพราะเด็กทั้งสองของนางปกป้องนางมาโดยตลอด

แต่นางไม่คาดคิดว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหยีเฟยกู้โม่หานก็ยังจะเอ่ยพูดเพื่อนางด้วย

หนานหว่านเยียนมองนักพรตเต๋าอย่างเย้ยหยัน

“อย่าคำสองคำก็ปีศาจ คำสองคำก็บริสุทธิ์ไร้มลทิน คนที่ซื้อตัวเจ้าไม่บอกเจ้าหรือ ว่าข้ามีความสามารถอะไร”

นักพรตเต๋าพลันรู้สึกไม่สบายใจทันที แต่ก็มาถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่อาจถอยกลับได้

“เจ้าอย่าเล่นตุกติกอีกเลย จากจวนอ๋องไปซะ ข้าถือว่าเจ้าทำร้ายชีวิตใคร จะไว้ชีวิตปีศาจเช่นเจ้าให้!”

เขาจะไว้ชีวิตนางรึ

หนานหว่านเยียนขันแทบตาย ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายกับเขาอีก เอ่ยกับพ่อบ้านกาว “พ่อบ้านกาวรบกวนเจ้าไปเอาสัตว์ที่ตายในเรือนหวางหมัวมัวมาที”

“พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านกาวรีบขานตอบ แล้วจากไปทันควัน

หนานหว่านเยียนเอ่ยอีกว่า “เซียงอวี้ไปเอาสมุนไพร ในกล่องแรกบนโต๊ะ ที่ห้องข้ามา!”

“เพคะ พระชายา” เซียงอวี้รับทำตาม

หยุนอี่ว์โหรวกัดฟัน จ้องมองหนานหว่านเยียนอย่างรังเกียจ สตรีผู้นี้อาศัยอะไรถึงได้รับการปกป้องจากผู้คนมากมายขนาดนี้

อีกทั้ง ทำไมหนานหว่านเยียนถึงได้ไม่สะทกสะท้านเช่นนี้ทุกครั้ง?!

ราวกับทุกเรื่องล้วนเป็นไปตามที่นางคาดเอาไว้อย่างนั้น!

แต่เรื่องนี้นางจัดแจงฉับไวขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าหนานหว่านเยียนโดยไม่ทันตั้งตัว หนานหว่านเยียนไม่มีทางรู้ทันได้ และไม่มีทางพลิกกลับสถานการณ์ได้...

ปากสุนัขย่อมคายงาช้างออกมาไม่ได้ หมายถึง คนเลวย่อมไม่พูดสิ่งที่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้