ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 360

เสียงใสกังวานดังขึ้น ทำทุกคนพลันตกตะลึง

หยุนอี่ว์โหรวยิ่งไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าขาวซีดเปลี่ยนเป็นบวมแดงทันที แก้มทั้งสองข้างฉาบห้ารอยนิ้วแดงเถือก

“พระชายา เจ้า...”

“เจ้าอะไร” ทั้งร่างหนานหว่านเยียนแผ่ออร่าดุร้าย มองหยุนอี่ว์โหรวด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าอบรมสั่งสอนไม่ดี ให้บ่าวหญิงสองคนใส่ความข้า ต่อหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ข้ายังตบเจ้าผิดหรือ!”

หากไม่ใช่เพราะตอนนี้ไม่มีหลักฐาน นางจะไม่หยุดแค่ตบหน้าหยุนอี่ว์โหรวแต่นางจะเล่นนางให้ตายไปซะเลย!

หากวันนี้หยุนอี่ว์โหรวทำสำเร็จ แล้วนางถูกคำว่าปีศาจสาวสวมไว้บนหัว นางจะได้รับความทุกข์ทรมานเช่นไรก็ยังไม่รู้ ชื่อเสียงของบุตรสาวทั้งสองของนาง ก็จะถูกทำลายไปด้วย

สตรีที่เห็นแก่ตัวและโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับความยั้งมือไว้ไมตรีของนางเลย

หยุนอี่ว์โหรวปิดใบหน้าแดงฉานของตนเอง จ้องมองหนานหว่านเยียนแฝงความเกลียดชัง กัดฟันอย่างไม่ยินยอม

“ใช่ หม่อมฉันอบรมสั่งสอนไม่ดีจริง แต่ แต่ครั้งนี้ หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าจ้างฮวาถูกอะไรเข้าสิง เจ้าก็เห็นแล้ว หม่อมฉันก็เกือบจะถูก...”

“พอแล้ว” กู้โม่หานขัดบทหยุนอี่ว์โหรวครั้งที่แล้ว นางก็พูดออกมาเช่นนี้ เขาจ้องมองนางอย่างเย็นชา

“เจ้าไม่มีบ่าวรับใช้แล้ว ข้าจะส่งคนดูแลเจ้าเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าพักรักษาตัวในเรือนเจ้าให้ดี หากไม่มีเรื่องอะไร ไม่ต้องย่างเท้าออกมา! มิฉะนั้น จะถูกลงโทษตามกฎของจวน!”

บอกว่าดูแล แต่ที่จริงคือจับตาเฝ้าดู

ครั้งนี้นักพรตเต๋าไม่ได้ชี้ตัวหยุนอี่ว์โหรวเขาก็ไม่มีหลักฐานว่านางเป็นคนทำโดยตรง

แต่เรื่องราวมากมายกู้โม่หานรู้อยู่แก่ใจ เขาไม่อาจให้ท้ายหยุนอี่ว์โหรวเที่ยวก่อความวุ่นวายเช่นนี้ได้อีกต่อไป

หนานหว่านเยียนเบนสายตามองใบหน้าหล่อเหลาแลดูเย็นชาของกู้โม่หานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก็ถือว่ารู้สึกสบายใจ

ในที่สุดก็ไม่ได้เป็นแต่ท่านอ๋องไร้สมองทีถือหางของสตรีเสแสร้งใสซื่อ

หวางหมัวมัวมองกู้โม่หานแล้วมองหยุนอี่ว์โหรวราวกับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

“ท่านอ๋อง...” หยุนอี่ว์โหรวนั่งอยู่ที่เดิมสายตาว่างเปล่า ราวกับหัวใจแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขาเอาจริงแล้ว ไม่มีนางอีกต่อไปแล้ว

ณ จวนแห่งนี้ ไม่มีที่สำหรับนางอีกแล้ว...

หยุนอี่ว์โหรวถูกพ่อบ้านกาวพากลับเรือน

พ่อบ้านกาวมองนาง “พระชายารองอีกเดี๋ยวบ่าวจะจัดบ่าวรับใช้สองคนให้ท่าน ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะขอรับ”

พูดจบ พ่อบ้านกาวก็พูดกับคนที่เฝ้ายามว่า “ดูพระชายารองให้ดี หากพระชายารองก้าวออกจากประตูเรือนแม้แต่น้อย พวกเจ้าสองคน ก็รอโดนโทษหนักได้เลย!”

คนที่เฝ้ายามประตูตอบอย่างสั่นสะท้านว่า “ขอรับ ท่านพ่อบ้าน”

น้ำตาของหยุนอี่ว์โหรวร่วงหล่น แก้มของนางบวมแดง ไร้ความงดงาม ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความเกลียดชังขนาดมหึมา

หนานหว่านเยียนทำให้นางตกอับมาสู่จุดนี้ ตอนนี้กู้โม่หานก็ไม่ปกป้องนางอีกแล้ว ที่ยังอดทนกับนางทั้งหมดเป็นเพราะไมตรีต่อผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในเมื่อนางไม่อาจไปได้ดีได้อีก หนานหว่านเยียนอาศัยอะไรถึงยังไปได้ดีได้?!

หยุนอี่ว์โหรวเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง ตอนเห็นองครักษ์รีบออกไป เหลือองครักษ์เพียงคนเดียว ก็เดินไปนอกเรือนแต่ก็ถูกองครักษ์ห้ามไว้ทันที

“ข้าไม่ได้ออกไป เพียงอยากส่งจดหมายฉบับเดียว”

นางส่งจดหมายให้องครักษ์พร้อมส่งปิ่นหยกทองบนหัวให้เขา สายตาเย็นชาและเฉียบคม “เจ้าเอาจดหมายฉบับนี้ส่งไปที่จวนอ๋องเดี๋ยวนี้ ให้พระชายาเฉิงดูก็พอ แล้วปิ่นทองนี่จะเป็นของเจ้า”

องครักษ์มองปิ่นทอง เตรียมพุ่งตัวไป เจ้านี่อย่างน้อยก็มีค่าหลายร้อยตำลึง

หยุนอี่ว์โหรวเอ่ยว่า “หากเจ้ายังไม่เอาอีก องครักษ์อีกคนก็จะกลับมาแล้ว”

องครักษ์พลันเก็บจดหมายกับปิ่นทองเข้าในอก “ขอรับ พระชายารองโปรดกลับเข้าไปเถอะขอรับ ท่านอ๋องไม่ให้ท่านออกนอกเรือน”

หยุนอี่ว์โหรวหันกายจากไป หัวเราะลั่นออกมาทันที ความเกลียดชังในดวงตาแข็งกร้าว

ลูกนอกสมรสทั้งสองคือลูกรักของหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานงั้นนางก็เปิดโปงลูกนอกสมรสทั้งสองนี่!

นางต่อกรกับหนานหว่านเยียนไม่ได้ งั้นนางจะให้คนเสียสติในราชวงศ์พวกนั้น จัดการหนานหว่านเยียนด้วยตัวเอง!

ภายในเรือนเซียงหลิน

ไม่มีใครคาดคิดว่ากู้โม่หานจะบันดาลโทสะใส่หยุนอี่ว์โหรว

นัยน์ตาโม่หวิ่นหมิงขยับเล็กน้อย ซาลาเปาน้อยกับเกี๊ยวน้อยสบตากันแล้วพลันยิ้ม

เกี๊ยวน้อยยื่นมือไปตบขากู้โม่หานแสร้งทำเป็นพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

“วันนี้ท่านทำดีมากๆ วันหน้าหากท่านแม่ยังถูกรังแกอีก ท่านก็ต้องทำเหมือนเช่นวันนี้ด้วย!”

ดวงตาซาลาเปาน้อยเป็นประกาย จ้องมองกู้โม่หานแล้วเอ่ยอย่างเปรมปรีดิ์ “อืมๆ วันนี้ท่านเก่งมาก!”

วันหน้า หากเขาปกป้อง และเอาอกเอาใจท่านแม่ให้ดีกว่าเดิม จะดีแค่ไหนนะ

สองคนพี่น้องยิ้มหวานหยดย้อย ราวกับลูกกวาด มองจนหัวใจกู้โม่หานอ่อนยวบ

เขาเอนตัวไปบีบแก้มกลมของเด็กๆ ทั้งสอง “เจ้าตัวเล็ก”

หนานหว่านเยียนไม่สนใจ จะช่วยหรือไม่ก็ได้ทั้งนั้น ตราบใดที่กู้โม่หานไม่ปะทะกับนาง หรือขวางทางนางก็พอ

หวางหมัวมัวได้ยินเสียงน่ารักๆ นี่ อดเหลือบมองสองคนพี่น้องไม่ได้

หวางหมัวมัวเดินไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เอ่ยกับเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยว่า “พวกเสี่ยวจวิ้นจู่น่ารักเฉลียวฉลาดเช่นนี้ บ่าวมองแล้วน่าเอ็นดูเสียงจริง”

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยสบตากันอย่างสงสัยพลางส่ายหัว เอ่ยอย่างจริงใจว่า “พวกข้าไม่ใช่จวิ้นจู่นะ !”

แม้ว่า พวกนางจะรู้แจ้งแก่ใจว่าคือเลือดเนื้อเชื้อไขของกู้โม่หาน แต่ท่านแม่ยังไม่บอกพวกนางด้วยตนเองก่อน พวกนางก็ไม่มีทางยอมรับ

“นี่...” หวางหมัวมัวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ตอนท่านอ๋องพูดชัดเจนว่านี่คือลูกของเขา ทำไมเด็กทั้งสองคนกลับไม่ยอมรับมัน

ยิ่งกว่านั้นสองพี่น้องเฉลียวฉลาดรู้ความ ตอนหนานหว่านเยียนกำลังมีปัญหา ยังรู้วิธีที่จะปกป้องท่านแม่ของตนเอง ดูก็รู้ว่าได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี จะไม่รู้ว่าท่านอ๋องคือท่านพ่อได้อย่างไร

กู้โม่หานก็ไม่ได้โมโห “หมัวมัววุ่นวายมานานขนาดนี้แล้ว ท่านกลับไปดูแลเสด็จแม่ก่อนเถอะ”

เขามองเด็กเฉลียวฉลาดทั้งสอง สายตาลุกโชน

แม้ตอนนี้พวกนางจะไม่ยอมรับ แต่ในไม่ช้า รอเขากระชับความสัมพันธ์ของเขากับพวกนาง ยิ่งดีขึ้นอีกหน่อย ก็ได้แล้ว

กู้โม่หานพูดทันที “เพคะ บ่าวจะกลับไปเดี๋ยวนี้ ดูแลเหนียงเหนียงให้ดีเพคะ”

คนที่เรือนเซียงหลินทยอยแยกย้ายกันไป หนานหว่านเยียนกู้โม่หานและโม่หวิ่นหมิงสามคนอยู่ที่เรือนเล่นด้วยกันกับเด็กทั้งสองอีกพักหนึ่ง

เด็กทั้งสองอายุยังน้อย เป็นช่วงที่ดีที่จะเล่นสนุก เสริมพัฒนาการ วันนี้ทุกคนเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน อิ่มเอมใจ และมีความสุขมาก

ใกล้ยามพลบค่ำ หนานหว่านเยียนเพิ่งพาเด็กทั้งสองกลับห้องพักผ่อน ก็ได้ยินเสียงแผดดังออกมาจากนอกประตู

“ในวังมีรับสั่ง เรียกพระชายาอี้เข้าวัง...”

เมื่อได้ยิน สีหน้าหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานพลันหนักอึ้ง

ทั้งสองเดินออกไป โม่หวิ่นหมิงมองเด็กทั้งสองเล่นจนเหนื่อย ง่วงเหงาหาวนอนไปแล้ว ด้วยสายตาเย็นชา

ตอนนี้กู้โม่หานกำลังพักฟื้นอยู่ที่จวน ในวังเชิญนางเข้าวังคนเดียวไปทำไม

เขาเอ่ยกับคนในเงาว่า “ปกป้องนางเข้าวัง มีเรื่องอะไรรายงานได้ทุกเมื่อ”

คนในเงาตอบนอบน้อมอย่างว่องไว “พ่ะย่ะค่ะ”

ด้านนอกห้อง

เมื่อกงกงเห็นหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานออกห้องมา รีบเดินไม่หยุดไปทางพวกเขา “พระชายาเชิญพ่ะย่ะค่ะ”

ที่ในวังตามตัวหนานหว่านเยียนตอนนี้ น่าจะเรื่องที่เสิ่นอี่ว์บอก เรื่องของหยุนเหิง

การเดินทางครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องดี สายตากู้โม่หานเย็นชา พูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้าจะไปด้วย”

กงกงยังไม่ทันตอบ ก็มีคนวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ รายงานเสียงดังว่า

“ท่านอ๋อง ค่ายเสินเชื่อเกิดเรื่องแล้ว...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้