ในเวลานี้ หนานหว่านเยียนยังอยู่ในตำหนักหยูซิน เพื่อทำการรักษาขั้นสุดท้ายสำหรับอาการป่วยของหยุนเหิง
ฮองเฮามองดูการรักษาจากเก้าอี้กุ้ยเฟย สองมือกำแน่น
นางเป็นคนที่มาจากจวนแม่ทัพ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หยุนเหิงก็ถือได้ว่าเป็นกึ่ง ๆ หลานชายของนาง ถ้าจะบอกว่านางไม่รู้สึกกังวลเลย ก็คงจะเป็นเรื่องโกหก
ในที่สุดนางก็เห็นหนานหว่านเยียนวางก้อนถ่านลง แล้วถอนเข็มเงินออกทีละเล่ม ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้นาง
“เสด็จแม่ เวลานี้แม่ทัพน้อยไม่เป็นอะไรมากแล้ว หลังจากกลับไปแค่ต้องพักผ่อน ดูแลร่างกายให้มากก็พอแล้ว การรมควันอาจมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นอันตราย”
ฮองเฮามองดูหยุนเหิงที่กำลังหลับสนิท ผิวหน้าของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นมีเลือดฝาดขึ้นมา ลมหายใจก็เริ่มสม่ำเสมอขึ้น คล้ายกับว่าเขาไม่มีอาการเจ็บปวดแล้ว
ฮองเฮาค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ขอแค่คนยังมีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว ใครจะไปใส่ใจอะไรมากมายขนาดนั้นกัน"
นางมองหนานหว่านเยียนด้วยสายตาชื่นชม "ข้าประเมินความสามารถของเจ้าต่ำเกินไปแล้วจริง ๆ ถ้าเจ้าไม่เป็นหมอรักษาคน โลกใบนี้ก็คงขาดหมอเทวดาไปอีกหนึ่งคน"
คำชมนี้ฟังดูสูงค่ามาก หนานหว่านเยียนพูดด้วยรอยยิ้มกว้างจนตายิบหยี: "เสด็จแม่ทรงกล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ"
ขอแค่ไม่ทรมานนาง ไม่สร้างปัญหาให้ ไม่ขัดขวางเส้นทางการใช้วิชาแพทย์ของนาง ไม่ว่าใครนางก็สามารถคบค้าสมาคมด้วยได้อย่างสันติทั้งนั้น
“ส่งแม่ทัพน้อยกลับไป” ฮองเฮาโบกมือเป็นสัญญาณ จากนั้นก็มองไปที่หนานหว่านเยียนอีกครั้ง “เจ้าอยู่ก่อนเถอะนะ ดื่มชากับข้าสักถ้วยแล้วค่อยกลับ”
หนานหว่านเยียนยังไม่ทันตอบ ก็ได้ยินเสียงแหลมเล็กของกงกงดังมาจากหน้าประตู "ทูลฮองเฮา พระชายาอี้ ฝ่าบาททรงมีรับสั่งเชิญทั้งสองท่านไปที่ตำหนักหย่างซินทันทีพ่ะย่ะค่ะ!"
ฝ่าบาทเชิญนางกับฮองเฮาไปที่ตำหนักหย่างซิน?
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วมุ่น หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ฮองเฮาเองก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน “ฝ่าบาทได้ตรัสไว้บ้างหรือไม่ว่าเป็นเรื่องอะไร?”
กงกงคนนั้นรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน แสดงสีหน้าว่าไม่รู้อย่างสิ้นเชิง
“ข้าน้อยก็ไม่ทราบเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ แต่เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาททรงพิโรธอย่างยิ่ง ฮองเฮาเหนียงเหนียง พระชายาอี้ อย่างไรก็รีบไปที่นั่นก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
กู้จิ่งซานโกรธมาก?
หัวใจของหนานหว่านเยียนหนักอึ้งจมดิ่งทันที จู่ ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะ" ฮองเฮาก็ไม่เสียเวลาถามอะไรให้มากมายอีก นางขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเดินออกไปโดยมีซุนหมัวมัวช่วยประคอง
หนานหว่านเยียนก็เดินตามออกไปด้วย
ในเวลานี้ ความกดอากาศในตำหนักหย่างซินลดต่ำลงจนเย็นเฉียบ ทุกคนในนั้นไม่มีใครกล้าหายใจแรง ๆ แม้แต่คนเดียว
เนื่องจากฮ่องเต้มีรับสั่งเรียกตัวอย่างกะทันหัน ทั้งยังบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง บรรดาเชื้อพระวงศ์ที่ควรมาต่างก็มารวมตัวกันจนครบแล้ว แม้แต่ท่านอ๋องเจ็ดกู้โม่หลิงที่ปกติไม่ค่อยออกไปข้างนอก ทั้งยังปรากฏตัวในที่สาธารณะน้อยมากก็ยังมาถึงแล้ว
แต่ทุกคนก็ทำได้แค่นั่งกันเงียบ ๆ ในเมื่อฮ่องเต้ไม่ปริปาก ใครก็ไม่กล้าส่งเสียงเอะอะมั่วซั่ว กระทั่งไทเฮาก็ยังรู้สึกแปลกใจ ไม่รู้ว่าฮ่องเต้คิดจะทำอะไรกันแน่
จนกระทั่ง ——
กู้โม่หานจูงมือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แสนจะน่ารักบอบบางสองคนเข้ามาในตำหนัก สีหน้าเคร่งเครียดหนักอึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...