ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 367

ไทเฮาผู้ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งสูงโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำมาตลอด จู่ ๆ ก็ตบโต๊ะอย่างแรง ดวงตาที่แม้จะไม่ได้โกรธแต่กลับมีบรรยากาศที่กดดันข่มขวัญผู้คนคู่นั้น ดูจริงจังขึ้นมาหลายส่วน

"เจ้าหก เจ้าก็อย่าได้ยอมรับผิดตามอำเภอใจอีกเลย เด็ก ๆ กับหว่านเยียนต่างก็ยังอยู่ที่นี่นะ ให้พวกนางมาได้ยินเจ้าพูดอะไรแบบนี้ สีหน้าแต่ละคนแทบจะดูไม่ได้อยู่แล้ว"

หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานต่างหันไปมองไทเฮาทันที ในดวงตาแฝงแววประหลาดใจ แต่ก็พลันเข้าใจขึ้นมาได้ว่าไทเฮากำลังช่วยพวกเขาอยู่

ชั่วขณะนั้นจึงพากันเงียบเสียงลงทันที

ทุกคนกลับตกใจจนผงะ ทำไมเรื่องนี้ถึงไปเกี่ยวข้องกับไทเฮาด้วยแล้วล่ะ?

ท่านอ๋องเจ็ดกู้โม่หลิงหรี่ตา ถู ๆ ปลายนิ้วด้วยท่าทางครุ่นคิด ดวงตาเจ้าเล่ห์ราวสุนัขจิ้งจอกซ่อนความเฉียบคมล้ำลึก

แต่พระชายาเฉิงกลับไม่พอใจอย่างมาก สองมือกำแน่น

ไทเฮาช่างน่ารำคาญจริง ๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เอาแต่ปกป้องหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานทุกครั้ง!

กู้จิ่งซานขมวดคิ้วมุ่น เอียงหน้ามองไปทางไทเฮา

“เสด็จแม่ เรื่องแบบนี้ท่านไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องปกป้องอ๋องอี้เลย พวกเขาไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ควรรู้แก่ใจดีว่าเมื่อทำความผิดก็ต้องยอมรับต่อผลที่จะตามมา”

ฮองเฮาซึ่งนั่งอยู่บนที่สูงไม่ได้รู้สึกตกใจเท่าในตอนแรกแล้ว นางขมวดแน่น ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

เมื่อเห็นว่ากู้จิ่งซานไม่เชื่อนาง ก็พูดยาวเหยียดโดยไม่กระพริบตา

"ข้าไม่ได้ปกป้องพวกเขา แต่เป็นเพราะข้าเองที่เป็นคนสั่งให้พวกเขาปิดบังเรื่องนี้ไว้ ตอนแรกที่เยียนเอ๋อร์ตั้งครรภ์ ก็ส่งคนมาบอกข้าเป็นคนแรกแล้ว"

"ต่อมาเยียนเอ๋อร์คลอดลูกสาวออกมาสองคน ข้าก็เคยไปเยี่ยมนางอยู่ หากเจ้าไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของเจ้า แต่เรื่องนี้เป็นข้าเองที่สั่งให้พวกเขาเก็บเป็นความลับ"

ทุกคนต่างก็ไม่ค่อยเชื่อคำพูดที่ฟังดูเกินจริงของไทเฮาสักเท่าไหร่

แต่สีหน้าของไทเฮาดูเฉียบคมมาก ไม่ว่าใครต่างก็ไม่กล้าโต้แย้ง

กู้จิ่งซานมองไทเฮาด้วยสีหน้าเย็นชาแข็งทื่อ "ในเมื่อเสด็จแม่รู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว เช่นนั้นเพราะอะไรในงานเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้เมื่อหลายวันก่อน ท่านถึงกระตุ้นให้ทั้งสองคนมีลูกสักทีล่ะ?"

ไทเฮาช่างสมกับเป็นคนเก่าคนแก่ในวัง พูดด้วยน้ำเสียงเครือๆ ชนิดไม่เปลี่ยนสีหน้าว่า: "แน่นอนว่าเป็นเพราะข้าแกล้งเล่นละครตบตาน่ะสิ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะปิดบังได้นานขึ้นอีกหน่อยรึ?"

เมื่อได้ยินดังนั้น จู่ ๆ ชีกุ้ยเฟยซึ่งนั่งอย่างสงบเสงี่ยมมาตลอดก็ส่งเสียงขึ้นเบา ๆ แต่คำพูดกลับคมกริบเป็นที่สุด

“แต่วันนั้นท่านบอกว่าได้ยินเสียงเด็กในจวนอ๋องอี้ เป็นการบอกพวกเราชัด ๆ ว่าอ๋องอี้กับพระชายาอี้มีลูกแล้ว หรือว่านั่นก็เป็นการแสดงละครตบตาด้วยเพคะ?”

ไทเฮาชำเลืองมองชีกุ้ยเฟยอย่างเย็นชา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ

"แน่นอนล่ะสิ"

ท่าทางของชีกุ้ยเฟยดูเหมือนเคารพให้เกียรติ แต่คำพูดกลับคมกริบขึ้นกว่าเดิม

“เช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่เข้าใจแล้วล่ะเพคะ ทางหนึ่งท่านต้องการช่วยอ๋องอี้กับพระชายาอี้ปิดบังเรื่องทายาทเชื้อพระวงศ์ แต่อีกทางหนึ่งกลับพูดเรื่องพวกนี้ ผลักดันพวกเขาให้ไปอยู่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน เรื่องที่ขัดแย้งกันขนาดนี้ พูดอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้นเลยนะเพคะ?"

เมื่อยอดฝีมือแสดงลวดลาย คำพูดคำจาล้วนแฝงกลอุบาย

หนานหว่านเยียนฟังจนอกสั่นขวัญแขวนไปหมด แต่ติดที่ตอนนี้นางกับกู้โม่หานไม่เหมาะที่จะพูดอะไรทั้งนั้น

ไทเฮาหรี่ตามอง จู่ ๆ ก็ขว้างถ้วยชาลงไปกระแทกพื้นอย่างแรงจนแตกละเอียด

“ถ้าข้าไม่แสดงละครให้สมจริงสักหน่อย วันนี้เจ้ายังจะมีโอกาสได้เห็นหนูน้อยที่แสนน่ารักว่าง่ายสองคนนี้อยู่อีกหรือ?”

“ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าต่างก็ไล่จี้เอาผิดหลานชาย หลานสะใภ้ กับเหลนสาวของข้าอยู่หรอกหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้