ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 369

แต่งตั้งรัชทายาท? !

พระชายาเฉิงกลับตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ไปเลย สองตาแดงก่ำ ฝืนระงับความโกรธเกรี้ยวระคนริษยาในใจลงไป นิ้วแทบจะจิกฝังลงในฝ่ามือให้ได้แล้ว

นี่มันอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าควรลงโทษกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนสถานหนักหรอกรึ? !

ทำไมถึงยังต้องแต่งตั้งกู้โม่หานขึ้นเป็นรัชทายาทอีกล่ะ? !

ชีกุ้ยเฟยกึ่งหรี่กึ่งลืมตา กวาดหางตาปรายมองไปทางกู้โม่หลิง หว่างคิ้วของกู้โม่หลิงพลันกดต่ำ แต่บนใบหน้าสง่าทรงภูมิก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ปรากฏออกมาให้เห็น

หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานหันไปมองหน้าประสานสายตากันแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน

ไทเฮายกพระราชโองการของอดีตฮ่องเต้ขึ้นมาว่าเป็นฉาก ๆ แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครกล้าพูดอะไร มีแต่คนที่นึกอิจฉาตำแหน่งรัชทายาท อิจฉาจนแทบอดรนทนไม่ไหวกันทั้งนั้น

หวังเพียงว่าฮ่องเต้จะไม่แต่งตั้งรัชทายาท

แต่เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจู่ ๆ ไทเฮาจะงัดไม้ตายนี้ขึ้นมาใช้ ไทเฮาจ้องมองทุกสีหน้าทุกการกระทำของเขาอย่างละเอียด แม้ฮ่องเต้จะรู้สึกไม่พอใจ แต่นั่นคือพระดำรัสของอดีตฮ่องเต้ เขาไม่สามารถขัดพระประสงค์ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่มีเชื้อพระวงศ์อยู่กันตั้งมากมายขนาดนี้

เขาเหลือบมองไปที่กู้โม่หานที่หน้าซีดเผือด พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: "ตามพระราชโองการของอดีตฮ่องเต้ อ๋องท่านใดที่ชายาเอกให้กำเนิดหลานสาวคนแรกให้กับราชวงศ์ แต่งตั้งขึ้นเป็นรัชทายาททันที อ๋องอี้มีลูกสาวสองคน ไม่ต้องรีรอเวลา จงประกาศให้พสกนิกรรู้กันทั่วหล้า! ให้แต่งตั้งพระราชนัดดาขึ้นเป็นจวิ้นจู่ ลำดับชั้นยศขั้นหนึ่ง จงเลือกฤกษ์งามยามดี จารึกนามของราชนัดดาทั้งสองเข้าสู่ผังราชวงศ์!”

ในที่สุดไทเฮาก็รู้สึกพอใจเสียที "ฝ่าบาทพูดได้ดีทีเดียว!"

ในที่สุดก็แต่งตั้งรัชทายาทแล้ว!

แม้สีหน้าของทุกคนจะแตกต่างกันไป แต่พวกเขาก็ไม่อาจไม่ยืนขึ้นแสดงความยินดี "ขอแสดงความยินดีกับพระราชนัดดาองค์โต ขอแสดงความยินดีกับไท่จื่อ ขอแสดงความยินดีกับไท่จื่อเฟย"

ในตำหนักใหญ่ เสียงแสดงความยินดีดังขึ้นอย่างไม่รู้จบ

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยจับชายเสื้อคลุมของหนานหว่านเยียนแน่น แววตางงงัน

แววตาของกู้โม่หานเข้มขึ้นเล็กน้อย ลึก ๆ ในดวงตามืดดำทะมึน แต่หัวใจของหนานหว่านเยียนกลับเต้นผิดจังหวะ หน้านิ่วคิ้วขมวดคิ้วด้วยความเคร่งเครียด

จารึกนามเข้าสู่ผังราชวงศ์?

นี่ไม่เท่ากับว่าเด็ก ๆ ต้องยอมรับบรรพบุรุษ กลับคืนสู่ราชวงศ์หรอกเหรอ?

แล้วแบบนี้ นางจะพาลูก ๆ ทั้งสองไปจากที่นี่ได้ยังไงล่ะ?

....................

ฮ่องเต้สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ หลังจากสั่งให้หนานหว่านเยียนช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กู้โม่หานแล้ว ก็สะบัดชายเสื้อจากไปทันที

ทุกคนต่างก็เริ่มทยอยจากไปทีละคน ๆ

อ๋องเฉิง พวกเราไปกันเถอะ? "หนานชิงชิงขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารไปอีกกำ* ฝืนระงับความโกรธในใจ ดึงแขนเสื้อเขาชวนเดินจากไป (*เป็นสำนวนจีน หมายถึงฉวยโอกาสไม่สำเร็จ แต่ตัวเองยังต้องขาดทุนอีกด้วย)

แต่กู้โม่เฟิงกลับจ้องไปที่สี่คนพ่อแม่ลูกด้วยสายตาลึกล้ำ แข็งทื่อประดุจพระพุทธรูปยักษ์ ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

“อ๋องเฉิง?” หนานชิงชิงกัดฟันกรอด สองมือกำเป็นหมัดแน่น สุดท้ายก็พูดเสียงเบาอย่างเหลืออดว่า “หากท่านอ๋องยังไม่กลับ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวกลับไปดูแลหลินเอ๋อร์ก่อนแล้ว”

พูดจบ ก็หันหลังเดินออกจากตำหนักไปชนิดไม่หันกลับมามองอีกเลย

สองตาของนางร้อนผ่าว ๆ จนแสบไปหมด แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับความอิจฉาริษยาในใจนาง

เห็น ๆ อยู่ว่าตอนแรกนางสามารถแต่งให้กู้โม่หานได้ แต่นางกลับเลือกแต่งให้คนขี้ขลาดตาขาวอย่างกู้โม่เฟิง ส่วนคนที่นางเคยหัวเราะเยาะใส่มาตลอดว่าเป็นแค่ไก่ป่าที่ไม่มีปัญญาออกไข่อย่างหนานหว่านเยียน มาตอนนี้กลับสยายปีกโผบินขึ้นสู่กิ่งสูงกลายเป็นพญาหงส์ ในขณะที่ตัวนางตกต่ำลงไปเป็นไก่ป่าที่ไม่มีปัญญาออกไข่แทน!

น่าโมโหแทบตายแล้ว! นี่มันน่าโมโหแทบตายแล้วจริง ๆ!

หลังจากที่หนานชิงชิงกลับไป ฮองเฮาก็ถอนหายใจดังเฮือก นางมีความรู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นความจริงที่ลูกชายของนางไม่มีลูกสาวคนโตให้กับราชวงศ์ นางเดินไปข้าง ๆ กู้โม่เฟิงก่อนจะตบไหล่เขาเบา ๆ

"เฟิงเอ๋อร์ ไปกันเถอะ"

"พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่" กู้โม่เฟิงถอนสายตาจากร่างของกู้โม่หาน แล้วเดินตามฮองเฮาออกไป

วันนี้กู้โม่หานขึ้นเป็นรัชทายาท เรื่องแรกที่เขานึกถึงกลับไม่ใช่ความรู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่เป็นคำพูดที่หนานหว่านเยียนเคยพูดไว้

ครั้งก่อนตอนที่กู้โม่หานถูกลอบสังหาร หนานหว่านเยียนเคยบอกเขาว่า คนที่คิดลอบสังหารเขายังมีคนอื่นอีก

เขาตรวจสอบมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เคยพบเงื่อนงำใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของกู้โม่หานได้เป็นพิเศษเลย แต่——

เขาเคยเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า กู้โม่หานส่งคนมาลอบสังหารเขา เพราะหมายจะยึดตำแหน่งรัชทายาท แต่เขาเพิ่งรู้วันนี้เองว่ากู้โม่หานมีลูกสาว ทั้งยังมีถึงสองคนเลยด้วย!

ถ้าคิดจะยึดตำแหน่งรัชทายาทจริง ๆ ทำไมไม่เปิดเผยตัวตนของลูกสาวไปเลยตรง ๆ ล่ะ ? มันจะไม่เร็วกว่าการส่งคนมาลอบสังหารเขาหรอกรึ?

สีหน้าของกู้โม่เฟิงตึงเครียดอย่างหนัก ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกไป

เขาต้องสืบหาให้กระจ่างให้ได้ ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนหว่านความขัดแย้งระหว่างเขากับกู้โม่หาน!

กระทั่งฮองเฮาก็ยังกลับไปแล้ว แน่นอนว่าชีกุ้ยเฟยก็ไม่มีทางอยู่ต่อ องค์ชายสิบอยากไปแสดงความยินดีกับกู้โม่หานด้วยสีหน้าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้พบกู้โม่หลิงที่ปกติจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตากันนัก ชั่วขณะที่กำลังจะเข้าไปทักทายพี่เจ็ด เขาก็ถูกชีกุ้ยเฟยลากตัวออกไปก่อนแล้ว

หนานหว่านเยียนมองไปที่ฝูงชนที่ค่อย ๆ แยกย้ายกันไป รีบยับยั้งความคิดของตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วหันไปมองกู้โม่หาน เสื้อส่วนด้านหลังของเขาฉีกขาดยับเยินไปหมดแล้ว มีบางส่วนถึงขั้นแนบติดไปกับผิวเนื้อและคราบเลือดอีกด้วย

หนานหว่านเยียนแค่มองก็ยังรู้สึกเจ็บแล้ว นางยื่นมือเข้าไปหยิบยาออกมาเม็ดหนึ่ง ก่อนจะยื่นไปที่ริมฝีปากของเขา "รีบกินก่อนเถอะ มันช่วยให้เลือดแข็งตัว แล้วก็บรรเทาความเจ็บปวดได้"

กู้โม่หานมองไปที่หนานหว่านเยียนแวบหนึ่ง อ้าปากกินเม็ดยาในมือของนาง ยาเม็ดนั้นมีรสชาติหวานเล็กน้อย "ได้"

เมื่อเกี๊ยวน้อยเห็นว่าสีหน้าของกู้โม่หานซีดเผือด ขอบตาก็พลันแดงเรื่อ พูดขึ้นว่า "อีก... อีกครู่หนึ่งพอกลับไปแล้วข้าจะเป่าพ่วง ๆ ให้เจ้า เป่าพ่วง ๆ ก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ"

ซาลาเปาน้อยก็มองกู้โม่หานด้วย สองตาแดงเรื่อราวกับกระต่ายน้อย พูดขึ้นว่า "รอให้กลับไปแล้ว ข้าจะเอาขนมหวาน ๆ ให้เจ้ากินนะ กินแล้วเจ้าต้องดีขึ้นทันทีแน่ ๆ เลย"

คำพูดและการกระทำของหนูน้อยทั้งสองทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ กู้โม่หานอดรู้สึกใจอ่อนยวบไม่ได้

แม้ว่าทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว ผิวเนื้อบริเวณแผ่นหลังจะเจ็บปวดแสบร้อนผ่าว ๆ ราวถูกไฟนาบ แต่เขาก็ยังยกมือขึ้น ลูบหัวของซาลาเปาน้อยกับเกี๊ยวน้อยอย่างอ่อนโยน

“ได้ พวกเรากลับไปกินขนมหวาน ๆ กันเถอะ”

หนูน้อยทั้งสองเอาแต่นึกโทษตัวเอง ขอบตาเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง

ชั่วขณะนั้นเอง น้ำเสียงอ่อนโยนใสกระจ่างเสียงหนึ่งพลันดังแว่วขึ้นมา

“วันนี้พี่หกได้รับบาดเจ็บรุนแรงขนาดนี้ หลังกลับจวนไปแล้ว ท่านต้องพักผ่อนให้มาก ๆ สักระยะก่อน ถึงจะช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วที่สุด”

หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานมองตามเสียงไป

จากนั้นก็เห็นท่านอ๋องเจ็ดกู้โม่หลิงเดินมาจากอีกฟาก สวมชุดสีเขียวหม่น ในมือถือพัดพลางโค้งคำนับอย่างสง่างามมาทางพวกเขาสองคน สีหน้าคิ้วตาเต็มไปด้วยความกังวลฉายชัด

กู้โม่หานหันไปมองน้องชายที่ไม่คุ้นหน้า ใบหน้าซีดเผือดไม่ปรากฏแววประหลาดใจอะไรนัก คิ้วตาหล่อเหลาได้รูปเลิกขึ้นเล็กน้อย

"มีพระชายาอยู่ ไม่ใช่ปัญหา...."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้