ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 372

“ไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือใคร จิตใจชั่วร้ายจริงๆ”

หนานหว่านเยียนคิดว่าอาจจะเป็นหยุนอี่ร์โหรว แต่ตอนนี้นางถูกขังอยู่ ข้างกายก็ไม่มีข้ารับใช้ดูแล ยังมีคนจับตาดูนางอีก นางจะมีโอกาสทำอะไรได้ล่ะ

ถ้าไม่ใช่หยุนอี่ร์โหรว แต่เป็นคนที่คิดฆ่าเด็กสองคนครั้งก่อน แต่ก็ไม่น่าใช้ เพราะยังไงก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ปิดบังมาตลอด ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของลูกๆออกไป วันนี้กลับปล่อยข่าวออกมา ทำไปเพื่ออะไรกัน?

กู้โม่หานเม้มริมฝีปากแน่น นัยน์ตามืดมน เขาสงสัยว่ามีคนร่วมมือกันทั้งในและนอกวัง คนที่สามารถหลอกเขาไปที่ค่ายทหาร และใช้เวลาสั้นๆในการในการจัดการทุกอย่าง ไม่มีอำนาจ ไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่นอน

และในจวนคนที่จะปล่อยข่าวเด็กออกมามีแค่คนเดียว แต่อำนาจของนางไม่ได้เยอะขนาดนั้น ดังนั้นยังต้องสืบต่อไป

“ก่อนข้าเข้าวัง เสิ่นอี่ร์บอกว่าในเมืองมีข่าวแพร่กระจายไปหมด ตอนนั้นข้าให้เขาไปสืบมา เชื่อว่าเดี๋ยวก็มีข่าวแล้วล่ะ”

“ตอนนี้ตัวตนของเด็กสองคนถูกเปิดเผยแล้ว อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร อย่างน้อยก็มีคนปกป้องพวกนางมากขึ้น”

“อืม ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ” หนานหว่านเยียนไม่อยากคิดมาก ตอนนี้พวกเราอยู่ในวัง นอกจากรักษาบาดแผลแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้ ยื่นมือไปเอาผงยาห้ามเลือด

แต่หยิบเร็วเกิน แต่นิ้วก้อยไปโดนยาอีกขวดเข้า ยาขวดอื่นก็ล้มลงไปเหมือนโดมิโนทันที เห็นว่าใกล้จะตกลงพื้นแล้ว

“ยาของข้า” หนานหว่านเยียนรีบวิ่งอ้อมหลังกู้โม่หานไปเก็บยา ยาเก็บได้แล้ว แต่กระโปรงยาวลากพื้น นางเกือบสะดุดล้ม ตัวโน้มลงไปข้างหน้าแล้ว

ทันใดนั้นก็ถูกโอบเอวไว้แน่น หนานหว่านเยียนถูกกู้โม่หานกอดไว้แน่น เขายื่นมือไปโอบเอวบางของหนานหว่านเยียนไว้โดยไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วลากนางกลับเข้ามาในอ้อมกอด

เขาเคลื่อนไหวเร็วเกินไป สูดหายใจเข้าลึกๆ หนานหว่านเยียนรีบเงยหน้ามองเขา “ไม่เป็นไรนะ?”

กู้โม่หานก้มหน้ามองหนานหว่านเยียนที่อยู่ในอ้อมกอด พวกเขาสบตากันและใกล้กันมากจนได้ยินเสียงหัวใจของกัน

เอวบางของหญิงสาว กลิ่นหอมอ่อนๆลอยมา และนัยน์ตาดำขลับที่เต็มไปด้วยความกังวลของนาง

กู้โม่หานสายตามืดมนลง สายตามองไปยังใบหน้าของนาง ปลายจมูกจิ้มลิ้ม ริมฝีปากแดงระเรื่อ

“กู้โม่หาน?” หนานหว่านเยียนเห็นเขาเข้าใกล้มากขึ้น เลยหลบไปด้านหลังอย่างลนลาน สองมือกลับจับขวดยาในอ้อมกอดไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

ทำไมเขาถึงเข้าใกล้นางมากขึ้นล่ะ?

หรือเขาอยากจูบนาง?

กู้โม่หานเหมือนไม่ได้ยิน ก้มหน้าลงไปขยับเข้าไปใกล้ริมฝีปากนางเรื่อยๆ ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกผลักออก เสียงของไทเฮาดังขึ้น

“เจ้าหก เยียนเอ๋อร์ ข้า——”

ไทเฮายังพูดไม่ทันจบ ก็ต้องชะงักอยู่กับที่ นางเห็นกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนกอดกันอย่างหวานแหวว ก็เบิกตาโพลงอย่างตกตะลึง ต่อมาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส

“ตายแล้ว ข้าคงมาผิดเวลา ข้าไม่เห็นอะไรเลยนะ พวกเจ้าต่อเลย ทำต่อเลย.…..”

“ไทเฮาเสด็จย่าอย่าเพิ่งไปสิ!” หนานหว่านเยียนใบหน้าแดงระเรื่อ นางรีบผละตัวออกจากกู้โม่หาน กระโดดลงจากเตียงไม่กล้ามองตาเขา “หว่านเยียนเกือบล้ม ท่านอ๋องเลยช่วยประคองไว้ ไม่ได้เป็นอย่างที่เสด็จย่าคิดเลยนะเพคะ”

“ข้าไปเปลี่ยนน้ำก่อน ท่านคุยกับท่านอ๋องก่อนเลย”

ว่าแล้ว หนานหว่านเยียนก็รู้สึกเขิน นางยกกะละมังที่เย็นแล้วออกไป แก้มทั้งร้อนผ่าวและแดง ไม่รอไทเฮาพูดอะไร นางก็รีบวิ่งหนีออกไปทันที

กู้โม่หานมองดูแผ่นหลังที่รีบหนีออกไปของหนานหว่านเยียน ถึงแม้จะรู้สึกเสียดายที่ถูกไทเฮาขัดจังหวะ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกสะใจและดีใจกันนะ

เขาหยิบเสื้อที่สกปรกแล้วขึ้นมาคลุมตัว มองไทเฮาแล้วพูดอย่างเคารพว่า: “ดึกขนาดนี้แล้ว เสด็จย่ามาทำไมเหรอ?”

ไทเฮาหัวเราะแล้วเดินไปนั่ง “เด็กสองคนหลับแล้ว ข้าอยากมาดูว่าเจ้าเป็นยังไงแล้วบ้าง”

“พวกนางหลับแล้วก็ดี” เรื่องวันนี้เยอะเกินไป เขาเป็นห่วงว่าเด็กสองคนจะนอนไม่หลับ “พระชายาล้างแผลให้หลานเสร็จแล้ว เดี๋ยวก็คงมาทายาให้ เด็กสองคนก็ฝากเสด็จย่าด้วยนะขอรับ”

“ข้าชอบเด็กสองคนมาก น่ารัก น่าเอ็นดูมาก”

พอพูดจบ ไทเฮาก็มองกู้โม่หานด้วยสายตาเข้มงวด น้ำเสียงจริงจัง

“แต่จะว่าไป ทำไมพวกเจ้าต้องปิดบังตัวตนของเด็กสองคนด้วย? ถึงแม้ข้าจะพยายามปกป้องเจ้ากับเยียนเอ๋อร์ แต่เรื่องนี้ พวกเจ้าก็ต้องอธิบายกับข้านะ”

“และ เวลาก็บังเอิญมากด้วย เยียนเอ๋อร์ไม่ได้เข้าวังมาห้าปี ตัวตนของเด็กสองคนก็ถูกปิดบังไปห้าปี สองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันไหม?”

กู้โม่หานกะพริบตา เม้มริมฝีปากแน่น

ไทเฮาสงสัยจริงด้วย แต่เขาจะพูดยังไงดี?

บอกว่าเขาขังหนานหว่านเยียนไว้ในเรือนเย็นห้าปี ไม่รู้เรื่องที่หนานหว่านเยียนคลอดเด็กสองคนเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเจอเด็กสองคนโดยบังเอิญ หนานหว่านเยียนอาจจะพาพวกนางหนีไปไกลแล้วก็ได้…...

กู้โม่หานคิดแล้ว ก็ตอบด้วยน้ำเสียงเคารพว่า “ตอบเสด็จย่า ตั้งแต่ที่พระชายาคลอดเด็กสองคนมา ก็ไม่สบายอยู่ตลอด และความสัมพันธ์ของหลานกับพระชายาก็ไม่ค่อยดีด้วย จึงไม่อยากพูด”

“ต่อมาอยากเปิดเผยตัวตนของเด็ก แต่ก็บังเอิญเจอนักฆ่า ดังนั้นก็เลยไม่ได้บอกสักที จนวันนี้ก็มีคนเปิดเผย.…..”

ไทเฮาฟังเงียบๆ ขมวดคิ้วเป็นปม “เจ้านี่มัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ตอนนั้นก็ควรบอกข้าเร็วๆสิ เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้”

กู้โม่หานรู้ตัวว่าผิด จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก

“หลานทราบแล้วขอรับ”

ไทเฮาไม่ได้จะด่าเขา เห็นเขารู้สึกผิดจริงๆ เรื่องนี้ก็จบไปแล้วด้วย ก็ให้มันผ่านไปแล้วกัน

นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนัก ไทเฮาก็ดวงตาเป็นประกาย “เจ้าหก วันนี้ฝ่าบาทลงโทษเจ้ากับเยียนเอ๋อร์ แต่เจ้ากลับปกป้องนางเช่นนี้ เจ้าบอกข้ามาตามตรงนะ เจ้า.…..ชอบเยียนเอ๋อร์หรือเปล่า?”

ด้านนอก มือที่กำลังจะเปิดประตูของหนานหว่านเยียนก็ชะงักค้างทันที…...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้