ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 382

หยุนอี่ว์โหรวยังคงอยู่ในสภาพขวัญหนีดีฝ่อ มองใบหน้าเย็นชาของพ่อบ้านกาวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและใจดี

นางหวาดกลัวมากจนขนลุกชันไปทั้งตัว

นางยื่นเท้าออกไปเขี่ยร่างของเสิ่นอี่ว์เบาๆ พอเห็นว่าเขาไม่ขยับเขยื้อน หยุนอี่ว์โหรวจึงลุกขึ้นจากพื้น แล้วมองไปที่พ่อบ้านกาวด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว

“ท่านอา…กาว ท่าน ท่านฆ่าเขาเหรอ?”

ใช่แล้ว นางกับพ่อบ้านกาวเป็นญาติห่างๆ กัน

ที่นางตั้งตัวเป็นผู้มีพระคุณของกู้โม่หานได้ ทั้งหมดเป็นเพราะการแนะนำของพ่อบ้านกาว

แต่พ่อบ้านกาวนั้นลึกซึ้งคาดเดาได้ยาก ปกติไม่อนุญาตให้นางเข้าใกล้เขาทุกกรณี แต่นางรู้ว่า เขาแอบช่วยนางมามาก

พ่อบ้านกาวเช็ดกริชที่เปื้อนเลือดอย่างไม่รีบร้อน น้ำเสียงราบเรียบ เหมือนเมื่อครู่เขาไม่ได้แทงคนมีชีวิต แต่เป็นสำลีก้อนหนึ่งแทน

“พระชายารองหยุนไม่ต้องกังวล บ่าวเลี่ยงจุดสำคัญ องครักษ์เสิ่นไม่ถึงตายหรอก”

“แต่ต่อจากนี้ไป จะมีมนุษย์ผักในจวนอ๋องอี้เพิ่งขึ้นอีกหนึ่งคนแล้ว”

หากเสิ่นอี่ว์ตาย กู้โม่หานต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตรวจสอบหาสาเหตุการตาย มันจะได้ไม่คุ้มเสีย

แค่ทำให้เสิ่นอี่ว์เป็นเหมือนหยีเฟย ไม่อาจตื่นขึ้นมาได้ตลอดกาลก็พอ

พ่อบ้านกาวยังคงเรียกตัวเองว่า “บ่าว” หยุนอี่ว์โหรวก็รู้ว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงตัวตนของเขา

นางมองไปทางเสิ่นอี่ว์ “เรื่องนี้เสิ่นอี่ว์รู้ได้ยังไง จดหมายที่เขาให้ท่าน ท่านทำลายทิ้งแล้วหรือ?”

พ่อบ้านกาวมองหยุนอี่ว์โหรวด้วยสายตาลึกซึ้งไม่อาจคาดเดาได้ “บนโลกนี้ไม่มีความลับใดๆ ครั้งนี้บ่าวช่วยท่านปกปิด แต่หากมีคนสืบได้คนหนึ่ง ก็อาจมีคนอื่นสืบได้เช่นกัน”

“บ่าวแนะนำให้ท่านตัดสินใจอย่างรวดเร็วเด็ดขาด ขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก”

อันที่จริงจดหมายที่เสิ่นอี่ว์ตรวจสอบคราวก่อนได้พบความจริงแล้ว แต่เขาค้นพบและทำการสับเปลี่ยนอย่างลับๆ

หยุนอี่ว์โหรวยังตั้งสติไม่ได้ นางมองร่างกายที่เย็นยะเยือกของเสิ่นอี่ว์ แล้วกลืนน้ำลาย

“ใช่แล้ว ท่านพูดถูก ข้าจำเป็นต้องตอบโต้กลับแล้ว”

“ท่านช่วยข้าปลอมลายมือของเสิ่นอี่ว์ เขียนจดหมายขึ้นมาใหม่หนึ่งฉบับ บอกว่า หนานหว่านเยียนไม่เคยช่วยใครเลย ตอนนั้นข้าเองที่ช่วยชีวิตท่านอ๋อง ตอนเด็กหนานหว่านเยียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา นางถึงขั้นมั่วโลกีย์กับคนอื่นในวันพิธีปักปิ่น!”

ตราบใดที่จดหมายยังไม่ถูกส่งออกไป กู้โม่หานยังไม่รู้ความจริง นางก็มีโอกาสที่จะกอบกู้คืนได้!

“เดี๋ยวบ่าวจะไปจัดการ” พ่อบ้านกาวโค้งคำนับด้วยความเคารพ จากนั้นมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวด้วยรอยยิ้ม “แต่ที่บ่าวมาที่นี่ ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะบอกพระชายารองหยุน”

“หนึ่งเดือนหลังจากนี้ ท่านอ๋องจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไท่จื่ออย่างเป็นทางการ”

กู้โม่หานได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไท่จื่อแล้วเหรอ?!

หยุนอี่ว์โหรวมีความสุขมากในทันใด แต่พอคิดอีกทีแววตาของนางก็มืดมนลงรู้สึกไม่สบายใจ “ท่านอ๋องเป็นผู้มีบุญ มีเล่ห์เหลี่ยมและทักษะในศิลปะการต่อสู้เหนือใคร การได้ขึ้นเป็นไท่จื่อนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้...”

“แต่หากเป็นเช่นนี้ หนานหว่านเยียนจะได้เป็นพระชายาไท่จื่อ ลูกนอกสมรสทั้งสองของนางจะได้เป็นจวิ้นจู่ ข้าก็จะไม่มีตำแหน่งในจวนอ๋องแล้ว”

แม้ว่านางจะคาดหวังผลเช่นนี้ แต่ตอนนี้ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว มองพ่อบ้านกาวด้วยดวงตาเป็นประกาย “พ่อบ้านกาว ท่านช่วยหาวิธีให้ข้าพลิกสถานะได้ไหม?”

พ่อบ้านกาวหรี่ตาลง “พระชายารองหยุนโปรดวางใจ บ่าวจะช่วยท่านอย่างสุดกำลัง”

พูดจบ พ่อบ้านกาวก็ชำเลืองมองเสิ่นอี่ว์อีกครั้ง แววตามีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ใช้มีดกรีดเป็นแผลลึกบนข้อมือของตนโดยไม่ลังเล

ต่อมา เขาก็คุกเข่าลงอย่างรู้การรู้งานดี แสร้งทำเป็นว่าถูกผลักลงกับพื้น ทรุดลงแทบเท้าเสิ่นอี่ว์ ดูกระสับกระส่าย “มีมือสังหาร! ทหาร มีมือสังหาร!”

หยุนอี่ว์โหรวเข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร นางรีบเตะเก้าอี้คว่ำ เอาตัวพิงผนังกุมศีรษะไว้ มองเสิ่นอี่ว์ด้วยใบหน้าซีดเซียว น้ำตารินไหล

เหล่าองครักษ์และสาวใช้ที่ถูกพ่อบ้านกาวไล่ออกไปก่อนหน้านี้ปรี่เข้ามาตามเสียง เห็นภายในห้องยุ่งเหยิง เสิ่นอี่ว์นอนจมกองเลือด

พ่อบ้านกาวร้องคร่ำครวญนั่งลงกับพื้น กุมบาดแผลที่มีเลือดไหลโชกบนท่อนแขน

หยุนอี่ว์โหรวขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา

“พ่อบ้านกาว? องครักษ์เสิ่น!”

“องครักษ์เสิ่นต้องการช่วยพระชายารองหยุน จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากมือสังหาร พวกเจ้ารีบตามไล่ล่าไป…” พ่อบ้านกาวชี้ไปทางฝั่งตะวันตกอย่างโกรธแค้นสุดขีด แววตามีความโศกเศร้ากังวล แสดงความรู้สึกออกมาทั้งหมดได้ในคำเดียว

ตั้งแต่หยุนอี่ว์โหรวถูกท่านอ๋องกักบริเวณอย่างสิ้นเชิง เวรยามของเรือนนี้จึงอ่อนแอมาก ไม่คาดคิดว่าจะมีมือสังหารลอบเข้ามา!

แล้วยังทำร้ายองครักษ์เสิ่นบาดเจ็บสาหัสอีก!

องครักษ์หลายคนวิ่งไล่ล่ามือสังหารไปทางฝั่งตะวันด้วยสีหน้าจริงจัง มีสองคนอยู่เฝ้าที่นี่ เข้าไปประคองพ่อบ้านกาวขึ้นมา “พ่อบ้านกาว…”

พ่อบ้านกาวกลับส่ายหน้า “รีบตามหมอประจำจวนมาช่วยองครักษ์เสิ่น อีกอย่าง พวกเจ้าไปแจ้งท่านอ๋องและพระชายาให้กลับจวนทันที!”

“ครับท่าน!” องครักษ์ไม่มีเวลาสนใจอะไรมาก ทิ้งพ่อบ้านกาวและหยุนอี่ว์โหรวไว้ในห้อง แล้วปรี่ออกไป

ในจวนอ๋องเต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำอันเชี่ยวกราก แต่กู้โม่หานและหนานหว่านเยียนที่อยู่วังในกลับไม่รู้อะไรเลย

ซาลาเปาน้อยจูงมือหนานหว่านเยียนอย่างมีลับลมคมใน มุ่งหน้าไปที่ศาลากลางทะเลสาบ

“เกี๊ยวน้อยอยู่ในศาลากลางทะเลสาบจริงหรือ?” หนานหว่านเยียนเห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจของลูกสาวตัวน้อย ก็อดนึกสงสัยไม่ได้

หลังรับประทานอาหารเย็น เกี๊ยวน้อยและกู้โม่หานหายตัวไป

นางหาทั่วตำหนักหลวนเฟิ่งก็ยังไม่พบ ซาลาเปาน้อยลากนางไปทางอุทยานหลวง บอกว่าพี่สาวกำลังรอนางอยู่ที่ศาลากลางทะเลสาบ

เจ้าหนูน้อยมารอนางที่นี่ทำไม?

“จริงๆ เจ้าค่ะ! ท่านพี่บอกว่าเห็นอะไรสวยๆ แวววับจับตา อยากให้ท่านแม่ไปดู ยังบอกอีกว่าถ้าไปช้าจะไม่เห็นแล้ว!” ซาลาเปาน้อยร่างกายอ่อนแอ เดินไม่กี่ก้าวหน้าก็แดงระเรื่อ

หนานหว่านเยียนเดินมุ่งหน้าตามนางไป พอมาถึงศาลากลางทะเลสาบ

ทันใดนั้น แสงสีเขียวใสก็สาดส่องทุกสรรพสิ่ง

จู่ๆ จุดแสงเล็กๆ นับไม่ถ้วนก็โผล่ออกมาจากพงหญ้าทุกทิศทาง บินรายล้อมหนานหว่านเยียนและซาลาเปาน้อย

“ว้าว…” ซาลาเปาน้อยเบิกตากว้างด้วยความอยากรู้อยากเห็น มองหิ่งห้อยที่บินไปบินมารอบตัวด้วยความตื่นเต้นเกินกว่าจะพูดอะไรได้

ช่างหวานชื่นเหลือเกิน!

ดีมากท่านพ่อ…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้