ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 384

กู้โม่หานสังเกตเห็นเช่นกัน แต่เวลากระชั้นชิด เขาไม่มีเวลาถามอะไรมาก ความดุร้ายอันหนาวเหน็บแผ่ไปทั่วร่างกาย “กลับจวน!”

ครู่ต่อมา รถม้าก็แล่นออกไป

เหล่าองครักษ์ผู้ติดตามเตรียมพร้อมรับมือ เดินตามรถม้าไปข้างหน้า

ในรถม้า เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยนั่งถัดจากหนานหว่านเยียน เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมและเย็นชาของกู้โม่หาน ก็อดเม้มปากไม่ได้

พี่เสิ่นอี่ว์ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ลุงกู้ต้องเสียใจมากแน่

หนานหว่านเยียนหลุบตาลง เอานิ้วแตะริมฝีปาก พลางครุ่นคิดด้วยสีหน้าหม่นหมอง

เกิดเรื่องขึ้นในจวนอ๋อง ไทเฮาไม่บังคับให้ใครอยู่ แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ นางและกู้โม่หาน พร้อมด้วยเด็กหญิงทั้งสองก็เข้ามาในวังแล้ว เหตุใดจวนอ๋องถึงมีมือสังหารปรากฏตัวขึ้น?

จุดประสงค์ของมือสังหารพวกนั้นคืออะไร?

หนานหว่านเยียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

เส้นทางเงียบสงบรกร้างให้ความรู้สึกอ้างว้าง บรรยากาศภายในรถม้ากดดันน่าอึดอัด และในเวลานี้เอง รถม้าก็หยุดอย่างกะทันหัน องครักษ์ที่ขับรถม้าตะโกนเสียงลั่น “ท่านอ๋องระวัง มีมือสังหาร!”

ในชั่วพริบตา แรงอาฆาตอันเย็นเยียบเคล้าสายลมยามราตรีก็แหวกม่านรถออกมา

กู้โม่หานและหนานหว่านเยียนมองตรงออกไปด้านนอก เห็นเพียงมือสังหารชุดดำประมาณยี่สิบคนปรี่เข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับมีดแหลมคมในมือ

เหล่าองครักษ์ห้อมล้อมรถม้าอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมรับศึก แต่รวมกันแล้วยังมีจำนวนไม่มากเท่ามือสังหารเหล่านี้

“เจ้ารออยู่บนรถ ดูแลเด็กน้อยทั้งสองให้ดี อย่าลงจากรถ” กู้โม่หานสายตาจริงจัง รีบลงจากรถม้าโดยไม่สนอาการบาดเจ็บ

เดิมทีกู้โม่หานพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ใช้กำลัง แต่บัดนี้มีการลอบสังหารเกิดขึ้น หนานหว่านเยียนหน้านิ่วคิ้วขมวด ปกป้องเด็กหญิงทั้งสองให้อยู่ข้างหลัง

“ท่านก็ระวังตัวด้วย”

จวนอ๋องเพิ่งเกิดเรื่อง ก็มีคนลอบสังหารพวกเขาระหว่างทาง การยึดอำนาจไม่ง่ายดายตามคาด เพิ่งเข้ารับตำแหน่งไท่จื่อ ก็ตกเป็นเป้าโจมตีจากทุกฝ่ายแล้ว

ด้านนอกรถม้า เสียงคมดาบปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหว

ดวงตาขององครักษ์อ้วนแดงฉาน แต่พละกำลังสู้คนชุดดำไม่ได้ กู้โม่หานกระโจนขึ้นไป แทงหัวใจของมือสังหารทั้งสองด้วยดาบเดียว เขาถีบมือสังหารออกไปอย่างดุดัน ดึงองครักษ์อ้วนมาอยู่ข้างหลัง แล้วถีบมือสังหารอีกคน

ชิ้งๆๆ เขาจัดการมือสังหารไปแล้วสามคน

แววตาของมือสังหารมีเพียงความตกตะลึง ส่วนในสายตาของเหล่าองครักษ์เต็มไปด้วยความเลื่อมใส เทพสงครามก็คือเทพสงคราม แม้ว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ผู้คนธรรมดาสามัญก็ไม่อาจเทียบได้!

องครักษ์อ้วนกล่าวอย่างร้อนใจ “ท่านอ๋อง คนพวกนี้คือมือสังหารที่ลอบสังหารเสี่ยวจวิ้นจู่ทั้งสองในจวนอ๋องเมื่อคราวก่อน! กระบวนท่าและตราสัญลักษณ์เป็นแบบเดียวกัน!”

มือสังหารคราวก่อนหรือ?

เสิ่นอี่ว์เคยบอกว่า มือสังหารคราวก่อนดูเหมือนจะมาจากกลุ่มมือสังหารในยุทธจักร ลงมือโหดเหี้ยม เกือบทุกกระบวนการหมายเอาชีวิต

วันนี้ได้เห็นแล้ว เก่งกาจมากจริงๆ

จุดประสงค์ของพวกเขาน่าจะเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจ ขณะที่กู้โม่หานกับมือสังหารประมือกัน บาดแผลบนแผ่นหลังก็ฉีกขาดเล็กน้อย เขาเจ็บปวดไปทั้งตัวแต่สายตากลับเยือกเย็น ไม่มีร่องรอยความอ่อนแอบนใบหน้าแม้แต่น้อย เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า

“พวกเจ้าล้อมรถม้าไว้ ห้ามห่างแม้แต่ก้าวเดียว คอยปกป้องพระชายาและเสี่ยวจวิ้นจู่อย่างเต็มกำลัง!”

เหล่าองครักษ์ทำตามคำสั่ง เข้ารายล้อมอยู่หน้ารถม้า เตรียมพร้อมรับมือ “พ่ะย่ะค่ะ!”

สองพี่น้องมองเงาร่างองอาจกล้าหาญเชี่ยวชาญการรบของกู้โม่หาน รู้สึกเศร้าใจ

ท่านลุงกู้รู้อยู่ว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้กลับพยายามปกป้องพวกนางและท่านแม่โดยไม่สนสิ่งใด…

หนานหว่านเยียนยืนปกป้องอยู่หน้าเด็กหญิงทั้งสอง “อย่ามอง เกี๊ยวน้อย หันหลังให้ข้า พาน้องนับเลข”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่” เกี๊ยวน้อยจูงมือซาลาเปาน้อย หันหลังให้หนานหว่านเยียนแล้วนับหนึ่งสองสามอย่างเชื่อฟัง

หนานหว่านเยียนสีหน้าเคร่งขรึม นางรู้ดีว่าคนกลุ่มนี้ไม่เหมือนอันธพาลที่มาฆ่านางคราวก่อน มีทักษะในการต่อสู้สูงมาก นางดึงหน้าไม้ที่โม่หวิ่นหมิงมอบให้นางออกมาจากห้วงเวลา เล็งไปที่มือสังหาร หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง เตรียมพร้อมรับมือ

คนชุดดำปรี่เข้ามาพร้อมมีดพร้า เหล่าองครักษ์สู้ไม่ได้ สายตาของหนานหว่านเยียนเย็นยะเยือก ยิงศรเงินเพื่อช่วยองครักษ์ แต่น่าเสียดายที่มือสังหารมีทักษะการต่อสู้ดีเกินไป ตอบสนองฉับไว ศรเงินแค่เฉียดใบหน้าของมือสังหารไป เกิดเป็นรอยเลือดบางเฉียบ ไม่ทำร้ายจุดสำคัญ

มือสังหารจ้องเขม็งใส่คนที่โจมตีเขา แววตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง แต่พอเห็นหนานหว่านเยียนก็สงบลงโดยพลัน ห้ำหั่นกับองครักษ์ต่อไป

“เอ๊ะ...” หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นมือสังหารหวนกลับมาอีกครั้ง นางจึงยิงธนูต่อไป

ทันใดนั้น กลุ่มคนชุดดำสวมหน้ากากก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้านาง ชักดาบขึ้นมาอย่างคล่องแคล่วฟันใส่มือสังหาร ทักษะของคนสวมหน้ากากดีมาก ไม่ด้อยไปกว่ามือสังหารเลย

สถานการณ์น้ำน้อยแพ้ไฟที่เป็นอยู่ประจักษ์ขึ้นในชั่วพริบตา เหล่ามือสังหารทยอยล่าถอยไป

แววตาของหนานหว่านเยียนเป็นประกาย มีคนคอยแอบคุ้มครองพวกเขาอยู่หรือ?

พวกเขาเป็นใคร?

กู้โม่หานสายตาเย็นชาลุ่มลึก ปรายตามองคนสวมหน้ากาก

พวกเขาน่าจะเป็นคนสวมหน้ากากที่ออกมือช่วยเหลือที่เสิ่นอี่ว์พูดถึงคราวก่อน

“ยังไม่ยอมมอบตัวอีก!” กู้โม่หานประสานตากับมือสังหาร แววตาเยือกเย็น แววตาของมือสังหารเย็นเยียบไปถึงกระดูก ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

บัดซบ! ทำไมทุกครั้งกู้โม่หานถึงมีตัวช่วยมากมายแบบนี้!

ดูท่าทางภารกิจไม่อาจสำเร็จได้โดยง่าย ต้องถอย!

ห่างออกไปไม่ไกล เสียงรถม้าดังไม่หยุด พ่อบ้านกาวพากลุ่มทหารชั้นยอดในจวนมาต้อนรับ “ท่านอ๋อง! เร็วเข้า มีมือสังหาร รีบไปช่วยท่านอ๋องและพระชายา!”

หยุนอี่ว์โหรวถูกพ่อบ้านกาวพาออกมา เห็นจากระยะไกลว่ากู้โม่หานถูกลอบสังหาร สีหน้าดูแย่มากอย่างถึงที่สุด “นี่คือมือสังหารที่ท่านจัดมาหรือ?”

พ่อบ้านกาวบอกว่าจะทำให้นางได้พลิกสถานะ อาจจะเป็นการเล่นละคร แต่มือสังหารกลุ่มนี้ดูอย่างไรก็เป็นเรื่องจริง

“ข้าไม่ได้จัดการ” พ่อบ้านกาวดึงนางลงจากรถ สายตาเย็นชา “แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เจ้าได้พลิกสถานะ”

หยุนอี่ว์โหรวเกือบล้มลงกับพื้น แต่ก็ตระหนักทุกอย่างดี นางวิ่งเข้าไปหากู้โม่หานทันที “ท่านอ๋อง!”

เสียงร้องเรียกของหยุนอี่ว์โหรวดังลั่น แม้แต่หนานหว่านเยียนที่นั่งอยู่ในรถม้ายังได้ยิน

สีหน้าของนางเปลี่ยนไป “ทำไมหยุนอี่ว์โหรวถึงมาอยู่ที่นี่!”

ใครอนุญาตให้นางออกมา!

เมื่อเห็นหยุนอี่ว์โหรวยังปรี่เข้าไปหากู้โม่หาน หนานหว่านเยียนก็หน้านิ่วคิ้วขมวด กลัวว่าหยุนอี่ว์โหรวจะทำให้กู้โม่หานเสียสมาธิ

กู้โม่หานหรี่ตาลง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “อี่ว์โหรว?”

มีความช่วยเหลือมาจากคนอีกกลุ่มหนึ่ง มือสังหารตายเกือบหมดแล้ว หัวหน้ามือสังหารจำเป็นต้องล่าถอย เขาตะโกนลั่น “ปล่อยระเบิดควัน!”

ทันใดนั้น หมอกควันก็ตลบอบอวล ไม่มีใครมองเห็นสถานการณ์ท่ามกลางหมอกควันได้ชัดเจน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่บนรถม้า หัวใจของหนานหว่านเยียนแทบขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ กำลังแยกแยะอย่างระมัดระวัง

ท่ามกลางหมอกควันในเวลานี้ หยุนอี่ว์โหรวเห็นมือสังหารกำลังจะหนีไป นางตัดสินใจกระโจนเข้าไป พลางตะโกนลั่น “ท่านอ๋องระวัง!”

“อ๊อก…ท่าน อ๋อง…” นางกระอักเลือดออกมาเต็มปาก มือสังหารผู้นั้นขมวดคิ้ว รีบชักดาบกลับ แล้วเผ่นแนบไป

หญิงผู้นี้ตั้งใจเข้ามาชนดาบ แถมยังจับดาบของเขาให้แทงตัวเองลึกเข้าไปอีก

นางบ้าไปแล้วแน่ๆ!

กู้โม่หานเพิ่งจัดการกับมือสังหารเสร็จไปหนึ่งราย พอหันกลับมาก็เห็นหยุนอี่ว์โหรวถูกดาบแทงหน้าอก เสื้อผ้าของนางเปื้อนเลือดแดงฉาน

รูม่านตาของกู้โม่หานหดลง รีบเข้าไปรับตัวนาง “อี่ว์โหรว!”

มือสังหารสองสามคนอาศัยช่วงที่ควันยังไม่จาง เผ่นหนีออกจากสถานที่ทันที

คนสวมหน้ากากก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่เมื่อเห็นหนานหว่านเยียนไม่เป็นอะไร จึงอาศัยหมอกควันซ่อนตัว

เสียงมีดดาบหยุดลง หนานหว่านเยียนตื่นตระหนก มองไม่เห็นสถานการณ์ในหมอกควัน ได้ยินเพียงเสียงของหยุนอี่ว์โหรว

หยุนอี่ว์โหรวตะโกนเรียกอะไร หรือว่ากู้โม่หานได้รับบาดเจ็บ?!

เด็กหญิงทั้งสองไม่อยากนับเลขอีกต่อไปจึงโผล่หน้าออกมาดู พลางจับแขนเสื้อของหนานหว่านเยียนไว้แน่น “ท่านแม่...”

จนกระทั่งควันที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆ สลายไป สายตาของสามแม่ลูกก็ตกตะลึงอย่างรุนแรง…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้