ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 385

เห็นเพียงในอ้อมแขนของกู้โม่หาน มีหยุนอี่ว์โหรวร่างโชกเลือดนอนอยู่

ร่างกายของนางอ่อนแออยู่แล้ว ในเวลานี้ใบหน้าขาวใสเต็มไปด้วยเลือดแดงฉานสะดุดตา เสื้อผ้าที่หน้าอกขวาถูกแทงทะลุ เผยให้เห็นบาดแผลชัดเจน

แววตาของหนานหว่านเยียนมืดลงทันใด เด็กหญิงทั้งสองก็ตกตะลึงเช่นกัน

ในอ้อมแขนของกู้โม่หาน หยุนอี่ว์โหรวฝืนยิ้มออกมา อยากจะยกมือสัมผัสใบหน้าของกู้โม่หาน แต่ก็ไม่มีแรงเลย

“ท่านอ๋อง ท่าน ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว…ไม่ว่าในใจท่านจะคิดกับโหรวเอ๋อร์ยังไง แต่โหรวเอ๋อร์จะ…จะ…รักท่าน ปกป้องท่านเสมอ...”

ที่นางออกมาเล่นละครเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตในวันนี้ ก็ถือว่านางเทหมดหน้าตักแล้ว

นางไม่เชื่อว่า ขนาดนี้แล้วเขาจะยังผลักไสนางอีก…

กู้โม่หานขมวดคิ้ว “เจ้าอย่าพูดอีกเลย”

เมื่อครู่หมอกควันยังไม่จาง เขามองเห็นไม่ชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าหยุนอี่ว์โหรวจะเข้ามากันดาบให้เขา

เขาไม่มีเวลาสนใจว่าพ่อบ้านกาวและหยุนอี่ว์โหรวมาได้อย่างไร เขาอุ้มนางขึ้นมา แล้วเดินไปที่รถม้า

“ท่านอ๋อง...” พ่อบ้านกาวสีหน้าไม่ดี มือถูกมัดด้วยเศษผ้า เปิดผ้าม่านอย่างเร่งรีบ

กู้โม่หานอุ้มหยุนอี่ว์โหรวขึ้นรถ ก่อนขึ้นรถเขามองไปทางรถม้าของหนานหว่านเยียน เห็นพวกนางสามแม่ลูกปลอดภัยดี แววตาจึงอ่อนลงมาก จากนั้นก็นึกอะไรออก แววตาเยือกเย็นลงมาก ก่อนจะขึ้นรถม้าไป

“เหลือบางคนให้คอยสืบเรื่องมือสังหาร ที่เหลือกลับจวนกับข้าและพระชายา”

“พ่ะย่ะค่ะ!” พ่อบ้านกาวตามติดอย่างใกล้ชิด

รถม้าแล่นตรงไป เหล่าองครักษ์ที่ต้องไปก็ไป ที่ต้องอยู่ก็อยู่

องครักษ์อ้วนมองไปทางหนานหว่านเยียน “พระชายา...”

“ไปกันเถอะ” หนานหว่านเยียนหลุบตาลงพลางปล่อยม่านรถ อารมณ์ที่ซับซ้อนปรากฏขึ้นในดวงตาแสนเย็นชา

เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยจับแขนเสื้อของหนานหว่านเยียนไว้แน่น ในใจของสองพี่น้องมีความรู้สึกผสมปนเป

ท่านลุงกู้ไม่ขึ้นรถม้าคันเดียวกับพวกนางหรือ?

หนานหว่านเยียนมองสองพี่น้องที่ดูเบื่อๆ เซ็งๆ พลาบปลอบโยนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้เราปลอดภัยแล้ว ต้องรีบกลับไปช่วยพี่เสิ่นอี่ว์”

ข้อพิพาทระหว่างกู้โม่หานกับหยุนอี่ว์โหรวไม่เกี่ยวอะไรกับนาง เรื่องเร่งด่วนคือการรีบกลับไปดูอาการบาดเจ็บของเสิ่นอี่ว์ หวังว่ามันจะไม่สายเกินไป…

แต่นางคิดไม่ถึงจริงๆ ช่วงเวลาที่หยุนอี่ว์โหรวปรากฏตัวนั้นช่างบังเอิญเหลือเกิน เหมือนวางแผนไว้นานแล้ว…

อีกด้านหนึ่ง ในรถม้าของกู้โม่หาน

หัวใจและเส้นเลือดของหยุนอี่ว์โหรวถูกกู้โม่หานกดไว้ เพื่อห้ามเลือดชั่วคราว แต่ก็ยังสลบไปอยู่ดี

กู้โม่หานนั่งตรงข้ามกับหยุนอี่ว์โหรว เขาเพิ่งผ่านการต่อสู้มา บาดแผลบนหลังเจ็บปวดดั่งไฟแผดเผา ใบหน้าซีดเผือด

ข้างกาย พ่อบ้านกาวคุกเข่าอยู่ในรถม้า น้ำตาไหลอาบแก้ม ชิงเอ่ยปากสารภาพผิด

“ท่านอ๋อง! ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเอง! ได้โปรดอย่าทรงกริ้ว”

กู้โม่หานมองอย่างเย็นชา “พ่อบ้านกาว ข้าสั่งให้กักบริเวณพระชายารอง แต่ท่านกลับพานางออกมาโดยพลการ ในฐานะคนเก่าคนแก่ของจวนอ๋อง ท่านทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?”

ท่าทีบีบคั้นของไท่จื่อหนุ่มทำให้พ่อบ้านกาวหวาดผวา เขารีบเช็ดน้ำตาทันที บาดแผลที่หลังมือมีรอยเลือดซึมออกมาเช่นกัน

“บ่าวละเลยหน้าที่ ท่านอ๋อง ตอนที่ท่านไม่อยู่ในจวน มีคนสอดแนมจวนอ๋อง องครักษ์เสิ่นต้องการช่วยพระชายารองหยุนจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส พระชายารองหยุนเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญ บอกว่าหากจวนอ๋องถูกลอบสังหาร ท่านก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน ยืนกรานที่จะออกนอกจวน…”

“บ่าวร้อนใจไปชั่วขณะ เห็นพระชายารองหยุนคุกเข่าขอร้องให้บ่าวปล่อยนางออกมา จึงยอมตกลง จากนั้น...ท่านอ๋องได้โปรดลงโทษด้วย!”

นัยน์ตาของกู้โม่หานลุกโชนอยู่ลึกๆ ไม่ได้บอกให้เขาลุกขึ้น

“ตอนนี้เสิ่นอี่ว์เป็นยังไงบ้าง?”

“หมอประจำจวนพยายามยื้อชีวิตเขาไว้อย่างเต็มที่ อาการไม่สู้ดีนัก”

สีหน้าของกู้โม่หานแย่มาก “เหตุใดมือสังหารกลุ่มนั้นและเสิ่นอี่ว์ถึงมาปรากฏตัวในเรือนจู๋หลาน? เสด็จแม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่?”

คนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่เสิ่นอี่ว์ไม่มีทางปรากฏตัวในเรือนของหยุนอี่ว์โหรวโดยไม่มีเหตุผล

พ่อบ้านกาวสายตาหลุกหลิก กล่าวว่า “ก่อนที่ท่านจะไป บ่าวได้จัดการให้ทหารทั้งหมดของจวนอ๋องอยู่ในเรือนจิ้งฉาน ไม่มีใครกล้าแตะต้องหยีเฟยเหนียงเหนียง ในเรือนก็เงียบสงบอยู่ตลอด บ่าวเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมมือสังหารกลุ่มนั้นถึงพุ่งเป้าไปที่พระชายารองหยุน ส่วนองครักษ์เสิ่นเวลานั้นเพิ่งกลับถึงจวน ร้อนใจให้บ่าวมอบจดหมายฉบับนี้ให้ท่าน”

“ตอนนั้นบ่าวกำลังถือจดหมายออกจากจวน ไม่ได้สนใจองครักษ์เสิ่น คิดว่ายังไม่ได้บอกข่าวที่ท่านขึ้นเป็นไท่จื่อแก่พระชายารอง จึงอยากบอกพระชายารองก่อน แล้วค่อยไปส่งจดหมายให้ท่าน คงไม่เสียเวลาเท่าใดนัก ใครจะรู้พอเข้าไปในเรือนจู๋หลาน ก็เห็นองครักษ์เสิ่นถูกมือสังหารทำร้าย จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ...”

เขาพูดพลางหยิบจดหมายที่ยับยู่ยี่ออกมาจากอกอย่างงกๆ เงิ่นๆ แล้วส่งให้กู้โม่หาน

“ท่านอ๋อง นี่คือจดหมายที่องครักษ์เสิ่นให้บ่าวนำมามอบให้ท่าน ท่านลองอ่านดู”

จดหมาย?

เสิ่นอี่ว์ยังขอให้พ่อบ้านกาวส่งจดหมายให้เขาด้วยหรือ?

เรื่องก่อนหน้านี้สืบได้แล้วหรือ

หัวใจของกู้โม่หานเต้นระส่ำ ยื่นมือไปรับจดหมาย

“ข้ารู้แล้ว”

เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังเปิดจดหมายออก หลังจากอ่านจดหมายแล้ว สีหน้าของชายหนุ่มก็ยังเป็นปกติ นัยน์ตาอันเย็นชาลุ่มลึกไม่หวั่นไหวต่อคลื่นลูกใหญ่ แต่จดหมายกลับถูกเขาขยำทิ้ง

ความมืดมนฉายผ่านดวงตาของพ่อบ้านกาวแวบหนึ่ง “ท่านอ๋อง จดหมายขององครักษ์เสิ่นเขียนว่าอะไรบ้าง?”

“ไม่มีอะไร” กู้โม่หานสูดหายใจเข้าลึกๆ ความเย็นเยียบเข้ากระดูกพรั่งพรูเข้าสู่เส้นลมปราณของเขา แต่ก็สู้ความเย็นยะเยือกที่ทำให้เขาทรมานในหัวใจของเขาไม่ได้

จดหมายนี้เป็นลายมือของเสิ่นอี่ว์แน่นอน

ในจดหมายกล่าวว่า คนที่ช่วยชีวิตเขาในอดีต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนานหว่านเยียน

เรื่องนี้ได้สืบสวนหลายครั้งแล้ว ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เขาไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนัก แต่ที่นึกไม่ถึงก็คือ เมื่อถึงวัยปักปิ่น หนานหว่านเยียนได้สูญเสียแต้มพรหมจรรย์ไปแล้ว

คิ้วรูปดาบของชายหนุ่มขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ มือที่เห็นข้อต่อชัดเจนกำจดหมายไว้แน่น พอออกแรง จดหมายก็แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ห้าปีต่อมาเขาไม่กล้าพูด หนานหว่านเยียนเมื่อห้าปีก่อนพร่ำบอกว่ารักเขามิใช่หรือ?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดถึงได้แอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่นก่อนที่จะแต่งงานกับเขา หรือแม้แต่ก่อนที่นางจะแน่ใจว่าจะแต่งงานกับเขา…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้