ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 396

หยุนเหิงรับรู้ถึงความกดดันของกู้โม่หาน เขารีบส่ายหน้าทันที

“ไม่ ไม่ได้ให้ข้าเสียหน่อย พระชายาอย่าพูดเล่นไปเลย”

ถ้าเขากินจริง กู้โม่หานคงจะบีบคอเขาตายทันที!

หนานหว่านเยียนกลับไม่พูดอะไร แต่ของที่กู้โม่หานให้ นางรู้สึกรังเกียจ

ก็ถึงไม่อยากแตะต้อง

สีหน้าของหยุนอี่ร์โหรวก็ชะงักค้างเหมือนกัน ในใจรู้สึกเกลียดชังหนานหว่านเยียนมากขึ้นกว่าเดิม

การได้รับการดูแลใส่ใจจากกู้โม่หานนั้นยากมาก หนานหว่านเยียนกลับไม่แยแสงั้นเรอะ?!

น่าโมโห ช่างน่าโมโหยิ่งนัก!

หลังจากนั้น บรรยากาศในเรือนซีเฟิงก็เริ่มแปลกๆ

กู้โม่หานคีบอาหารให้หนานหว่านเยียน แต่หนานหว่านเยียนก็คีบให้หยุนเหิงทั้งหมด หยุนเหิงหิวแต่ก็ไม่กล้าแตะ สายตาของกู้โม่หาน ถ้าฆ่าคนได้ เขาคงตายไปหลายพันครั้งแล้ว

เหงื่อแตกพลั่กเต็มแผ่นหลังของเขา

ยาแก้ปวดของหยุนอี่ร์โหรวหมดฤทธิ์ไปแล้ว บาดแผลก็เริ่มมีเลือดซึมออกมา เจ็บจนนางเหงื่อแตก ดูทรงจะล้มลงไปแล้ว กลับได้ยินหนานหว่านเยียนพูดขึ้นช้าๆว่า

“พระยาชารองหยุน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า”

หนานหว่านเยียนกินอย่างเชื่องช้า มองหยุนอี่ร์โหรวด้วยสายตาเย็นชา

“วันที่พระชายารองหยุนถูกลอบทำร้าย โชคดีมากเลยนะ องครักษ์เสิ่นเกือบตายเพราะต้องช่วยเจ้า เจ้ากลับไม่เป็นอะไรเลย บนมือมีแค่บาดแผลเล็กๆเหรอ?”

อาหารมื้อนี้ เหยียดหยามหยุนอี่ร์โหรว ให้หยุนอี่ร์โหรวเจ็บไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่สำคัญคือ อยากรู้เรื่องของการลอบสังหาร

กู้โม่หานขมวดคิ้ว มองไปยังหยุนอี่ร์โหรว

หยุนอี่ร์โหรวสะดุ้งและตกใจ

แต่นึกถึงเรื่องที่พ่อบ้านเกาบอก นางก็พยายามแกล้งทำเป็นใจเย็น กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “พระชายาพูดอะไรกัน ท่านกำลังสงสัยโหรวเอ๋อร์เหรอ?”

หนานหว่านเยียนแสยะยิ้มเย็นชา สายตาเฉียบคม

“ข้ายังไม่ได้พูดอะไร แค่อยากรู้ว่า ทำไมเสิ่นอี่ร์ถึงไปอยู่ในเรือนจู๋หลาน ถ้าเจอคนร้ายจริง ทำไมเขาถึงบาดเจ็บใกล้ตาย แต่เจ้ากลับไม่เป็นอะไรเลยล่ะ? อธิบายมาหน่อยสิ”

กู้โม่หานจ้องเขม็งหยุนอี่ร์โหรว นางสะอื้นและน้ำตาไหลพรากทันที

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นทำไมองครักษ์เสิ่นถึงอยู่ในเรือนจู๋หลาน ตอนนั้น ข้าถูกคนร้ายบีบคอ ตะโกนออกมาไม่ได้ ทำได้แค่ทำแจกันดอกไม้แตก เพื่อให้องครักษ์เสิ่นเข้ามาช่วย”

“แต่ตอนที่องครักษ์เสิ่นมาถึง ข้าก็ใกล้หมดสติแล้ว เห็นแค่เขาต่อสู้กับคนร้าย จากนั้น คนร้ายอีกคนก็อยากฆ่าข้า องครักษ์เสิ่นแย่งดาบของคนผู้นั้นเพื่อปกป้องข้า แต่กลับโดนคนร้ายลอบทำร้าย จากด้านหลัง จากนั้น……”

ว่าแล้ว หยุนอี่ร์โหรวก็รีบหันไปมองกู้โม่หาน “ท่านอ๋อง ท่านไม่เชื่อโหรวเอ๋อร์ด้วยเหรอ? พระชายาถามแบบนี้ น่ากลัวมากจริงๆนะเจ้าคะ แต่โหรวเอ๋อร์เป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง จะทำร้ายองครักษ์เสิ่นได้ยังไง? อีกอย่าง……ตอนนั้นเรื่องที่องครักษ์เสิ่นถูกลอบทำร้าย พ่อบ้านเกากับพวกข้ารับใช้ก็เห็นกัน ท่านลองไปถามได้เจ้าค่ะ!”

หยุนอี่ร์โหรวอ่อนแอจริง ไม่มีทางเก็บซ่อนวิทยายุทธอะไรไว้แน่ นางทำอะไรเสิ่นอี่ร์ต่อหน้าไม่ได้แน่นอน

หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานเชื่อเรื่องนี้

แต่หนานหว่านเยียนยังสงสัยว่าเรื่องนี้ขัดแย้งกันเกินไป เรื่องที่เสิ่นอี่ร์โดนลอบทำร้ายในเรือนจู๋หลาน ก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลเกินไป

ถึงแม้พ่อบ้านเกาจะเป็นพยาน หยุนอี่ร์โหรวก็ยังน่าสงสัยอยู่ดี

หยุนเหิงเป็นผู้ชม ทันใดนั้นก็แสยะยิ้มเย็นชา “พระชายารองฆ่าคนไม่ได้ก็จริง แต่ท่านมีความสามารถด้านการยืมดาบฆ่าคน ไม่เคยแผ่วเลยนะ”

เขาก็โดนนางหลอกใช้ เป็นหนึ่งในดาบพวกนั้นนี่?

หยุนเหิงประชดหยุนอี่ร์โหรว สีหน้าของนางซีดเซียว มองเขาด้วยความเกลียดชังในใจ อยากจะฆ่าเขาให้ตายเสียเดี๋ยวนี้

หยุนเหิงบ้าไปแล้วหรือไง กล้าบอกว่านางยืมดาบฆ่าคน?!

แต่ใบหน้าของนางกลับมีเพียงความน้อยใจและหดหู่

“ท่านพี่พูดอะไรกัน? โหรวเอ๋อร์ไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? อย่ามาใส่ร้ายข้านะ!”

“ข้าใส่ร้ายเจ้า?” หยุนเหิงแสยะยิ้มเย็นชา “ข้าโกหกหรือไม่ เจ้าก็รู้ดีแก่ใจ ยืมดาบฆ่าคนเยอะขนาดนั้น เจ้าไม่กลัวจะฝันร้าย เห็นผีพวกนั้นมาเอาชีวิตเจ้าไปหรือไง!”

“เจ้า——” หยุนอี่ร์โหรวโกรธจนเริ่มเจ็บแผล กู้โม่หานหน้าบึ้งตึง สายตาเริ่มสงสัย ดวงตาเฉียบคมนั้นกวาดตามองหยุนอี่ร์โหรวตั้งแต่บนจรดเท้า

หนานหว่านเยียนไม่คิดว่า หยุนเหิงจะด่าคนเก่งแบบนี้

โดยเฉพาะหยุนอี่ร์โหรวที่ชอบแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ดัดจริต

นางรีบชูนิ้วโป้งให้หยุนเหิงทันที เอ่ยชมด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่คิดว่าแม่ทัพน้อยหยุนจะเข้าใจถึงกงกรรมกงเกวียนลึกซึ้งขนาดนี้ เมื่อก่อนทำไมข้าถึงไม่รู้ว่าเจ้าเก่งขนาดนี้กันนะ”

พี่นางฟ้าชมเขาแล้ว!

หยุนเหิงดีใจจนตัวแทบลอย “แน่นอนอยู่แล้ว ข้ารู้สึกว่าทำเรื่องชั่วก็ต้องโดนเวรกรรม เรื่องเลวๆทำยิ่งเยอะ ก็ต้องโดนกรรมแรงๆ”

หนานหว่านเยียนพูดกับเขาถูกคอ “ใช่แล้ว ใช่ว่าไม่โดนเวรกรรม แต่ยังไม่ถึงเวลาต่างหาก”

หยุนอี่ร์โหรวโกรธจนแทบสลบ ได้ยินพวกเขาพูดจนตัวสั่นเทา ใจสั่นจนทนไม่ไหว กู้โม่หานกลับทำหน้าบึ้ง ตบโต๊ะอย่างแรง จนโต๊ะหินร้าวเป็นเส้นยาว

“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”

หนานหว่านเยียนกลับทำหน้าบึ้ง มองค้อนกู้โม่หานอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องทำอะไรกัน?”

ทำอะไร?

เขาทนมาทั้งวันแล้ว คิดว่าหนานหว่านเยียนน่าจะหายโกรธได้แล้ว ไม่คิดว่านางกับหยุนเหิงจะสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ แถมยังพูดจาถูกคอกันอีก

ถ้าให้เวลาพวกเขาอีก หนานหว่านเยียนคงได้ชอบหยุนเหิงพอดี

นัยน์ตาดำขลับของกู้โม่หานประกายไปด้วยความโกรธ จ้องเขม็งหนานหว่านเยียน

“พวกเจ้า! ส่งพระชายารองหยุนกลับเรือน แล้วพาแม่ทัพน้อยของพวกเจ้ากลับไปด้วย ถ้าช้ากว่านี้ ข้ากลัวว่าจะได้ส่งศพกลับจวนแม่ทัพแทน!”

ทันใดนั้น พวกข้ารับใช้ก็เดินเข้ามาในเรือน รีบพาหยุนอี่ร์โหรวที่กำลังจะสลบพยุงออกไปอย่างรวดเร็ว

ทหารสองคนของหยุนเหิงก็ไม่กล้ารอช้า รีบลากหยุนเหิงออกไปด้านนอก

“แม่ทัพน้อย รีบไปกันเถอะ!”

หยุนเหิงยังอยากพูดกับหนานหว่านเยียน แต่พอรับรู้ได้ถึงแรงพิฆาตที่กู้โม่หานแผ่ซ่านออกมา ก็ต้องหุบปากไว้ รีบวิ่งหนีออกไปพร้อมกับพวกทหาร

หนานหว่านเยียนมองดูเรือนที่กลับมาเงียบสงบ ลุกขึ้นปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า “น่าเบื่อ”

กู้โม่หานน่ารำคาญจริงๆ

เสียดายจัง ไม่ได้ข่าวอะไรจากปากหยุนอี่ร์โหรวเลย แถมไม่ได้ทำให้หยุนอี่ร์โหรวโกรธจนเผยธาตุแท้ด้วย

หนานหว่านเยียนจะไปแล้ว ข้อมือเล็กนั้นก็ถูกคนคว้าหมับไว้ เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหู “หนานหว่านเยียน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”

เขาไม่ได้ควบคุมแรง บีบข้อมือนางจนกระดูกแทบแตก

หนานหว่านเยียนเจ็บจนขมวดคิ้ว นางกลับดิ้นรนและอยากชักมือกลับ ไม่ได้ร้องเจ็บ แล้วมองค้อนเขา “เจ้ามีอะไรก็พูดตรงๆสิ มาจับมือข้าทำไม? ปล่อยนะ!”

กู้โม่หานไม่ปล่อยมือ แล้วยังขยับเข้าใกล้นาง น้ำเสียงเย็นชา

“วันนี้เจ้าพูดคุยกับหยุนเหิงอย่างถูกคอ ตั้งใจทำให้ข้าไม่มีความสุขหรือไง?”

หนานหว่านเยียนก็โกรธไม่แพ้เขาเหมือนกัน นางแสยะยิ้มเย็นชา

“เจ้านี่มันน่าขำจริงๆ ข้าพูดคุยถูกคอกับเขา ไปทำให้เจ้าอารมณ์เสียเหรอ? เจ้าชอบข้า หรือเป็นห่วงข้ากันแน่?”

ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็แค่ร่วมมือกัน จะมายุ่งเรื่องส่วนตัวของนางทำไม?

กู้โม่หานถูกเขาพูดแทงใจดำ ใบหน้าหล่อเหลานั้นก็บิดเบี้ยว สายตามืดมน “ยังไงข้าก็ไม่อนุญาตให้เจ้าไปใกล้เขา ไม่อนุญาตให้เจ้าพูดคุยกับเขา!”

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า?” หนานหว่านเยียนมองค้อนเขาอย่างโมโห “ไม่อนุญาตให้ข้ากับท่านน้าสนิทกันเกินไป ไม่อนุญาตให้ข้าคุยกับหยุนเหิง ขอแค่เป็นผู้ชายที่ข้าเข้าใกล้ เจ้าต้องคิดไม่ซื่อตลอด เจ้าไม่ได้ชอบข้าไม่ได้ปกป้องข้า ยังกล้ามาควบคุมข้าอีก ทำไมข้าต้องเชื่อฟังที่เจ้าพูดด้วย?”

“กู้โม่หาน ข้าจะบอกเจ้าไว้ให้นะ ข้าพูดกับใครก็ได้ทั้งหมด ไม่ว่าชายหญิง แต่พอพูดกับผู้ชายที่ตาบอดจิตใจต่ำทราม ข้ารู้สึกรังเกียจเข้าไส้ ข้า อื้ม……”

นางยังพูดไม่ทันจบ กู้โม่หานก็ดึงนางเข้ามาแล้วโอบเอวบางของนางไว้ โน้มตัวลงไปบกริมฝีปากของนางอย่างบ้าคลั่ง……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้