ตอนที่หนานหว่านเยียนกลับมาที่ตำหนักข้างเคียงนั้น กู้โม่หานก็ได้นอนหลับไปแล้ว
ชายหนุ่มนอนตะแคงอยู่ริมเตียง ใบหน้านอนหลับที่สงบนิ่ง ทำให้หนานหว่านเยียนอดไม่ได้ที่จะมองดูหลายที
นางกำลังจะปูพื้นนอน แต่พอลองนึกดูแล้วก็รู้สึกว่าเสียเปรียบ ก็เลยเบ้ปากเล็กน้อย แล้วพยายามไม่ให้แตะโดนตัวกู้โม่หาน ย่องข้ามชายหนุ่มเข้าไปนอนบนเตียงอีกด้าน
นางเพิ่งนอนลงไป กู้โม่หานก็พลิกตัวมา
หนานหว่านเยียนหยุดหายใจไปทันที กะพริบตาและจ้องเขม็งไปที่กู้โม่หาน
ชายหนุ่มยังคงนอนสงบนิ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คิ้วเรียวราวดาบที่สง่างามกลับขมวดขึ้นมาเบา ๆ
หนานหว่านเยียนตบหน้าอกที่ตกใจของตัวเองไป แล้วหันหลังให้กับกู้โม่หาน และถอนหายใจออกยาว ๆ คำหนึ่ง แล้วหลับตาลง
วันนี้เหนื่อยมากจริง ๆ นางยังไม่มีได้รู้สึกตัว ก็จมลงสู่ความฝันไปแล้ว……
เกือบเที่ยงของอีกวัน หนานหว่านเยียนก็ถูกความเคลื่อนไหวระลอกขึ้นปลุกให้ตื่นขึ้นมา
เพราะว่าเมื่อคืนได้นอนมากพอแล้ว ร่างกายของนางก็ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยขนาดนั้นแล้ว
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแล้วลืมตาตื่นขึ้นมา กลับพบว่าข้างกายว่างเปล่า ไม่รู้ว่ากู้โม่หานหายไปไหนแล้ว
นางเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก บิดขี้เกียจไปทีหนึ่ง แล้วก็เดินไปที่ประตูแล้วผลักประตูเปิดออก ก็พบว่าด้านนอกมีนางกำนัลเฝ้ารออยู่สองคน
“ไท่จื่อเฟย ท่านตื่นแล้วหรือ” พอนางกำนัลทั้งสองคนเห็นหนานหว่านเยียน ก็รีบคำนับอย่างนอบน้อม
บนใบหน้าหนานหว่านเยียนไม่มีปฏิกิริยาอะไร เพียงแต่มองไปพวกคนรับใช้รอบตัวที่หายใจระมัดระวังและดูรีบร้อน แล้วก็ถามขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”
สีหน้าของนางกำนัลทั้งสองนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วพูดแบบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ขึ้นว่า “เรื่องนี้……บ่าวไม่กล้านินทาไปเรื่อยเจ้าค่ะ”
หนานหว่านเยียนยักคิ้วเล็กน้อย นางเองก็ไม่ได้ทำให้นางกำนัลทั้งสองลำบากใจ แต่เปลี่ยนหัวข้อเรื่องไปว่า “ก็ได้ งั้นพวกเจ้าเคยเห็นท่านอ๋องไหม?”
พวกนางกำนัลยิ่งโน้มตัวลงจนเอวต่ำกว่าเดิม “พอไท่จื่อตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ไปดูไทเฮาเหนียงเหนียงที่ตำหนักกลางแล้ว ตอนนี้น่าจะยังอยู่ที่นั่นเจ้าค่ะ”
“อืม” หนานหว่านเยียนตอบรับไปคำหนึ่ง แล้วก็ก้าวเดินไปทางตำหนักกลางเลย
ถึงคนรับใช้พวกนี้จะไม่กล้าพูด แต่ไทเฮากับกู้โม่หานจะต้องรู้แน่นอนว่าตอนนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา
หนานหว่านเยียนยังเดินไม่ถึงตำหนักกลาง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่สดใสของไทเฮา นางก็รู้สึกวางใจไปไม่น้อยทันที และเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ในตำหนักกลาง สีหน้าของไทเฮาแดงระเรื่อขึ้นมาไม่น้อยแล้ว ถึงแม้ความกระปรี้กระเปร่าจะดีสู้เมื่อก่อนไม่ได้ แต่เทียบกับเมื่อวานแล้ว ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
ตรงด้านข้างนาง กู้โม่หานกำลังนั่งอยู่อย่างเรียบร้อย คอยเติมชาให้นางอยู่เรื่อย ๆ
ตอนที่หนานหว่านเยียนเข้ามานั้น ไทเฮากำลังรับชาแล้วดื่มเข้าไปคำหนึ่ง พอเห็นหนานหว่านเยียน ก็ยื่นมือไปทักทายขึ้นว่า “เยียนเอ๋อร์มาแล้ว มานั่งตรงนี้เร็ว”
สายตาของกู้โม่หานกวาดตามองหนานหว่านเยียนทีหนึ่งอย่างเรียบเฉย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...