ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 481

กู้โม่หานลุกขึ้นเดินตรงไปหาหนานหว่านเยียน นางปรายตามองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดกับฮ่องเต้ว่า "เสด็จพ่อ ลูกจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คนก็ช่วยกลับมาได้แล้วเพคะ"

กู้จิ่งซานได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง "ดี! สมแล้วที่เป็นพระชายาอี้"

แม้ว่าหนานหว่านเยียนจะไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา แต่ว่ากันตามจริงก็ต้องยอมรับว่านางเป็นคนที่มีความสามารถมาก ๆ

ทุกคนต่างถกเถียงกันจนเสียงดังเซ็งแซ่ แม้ว่าอาเหมียวที่อยู่บนไม้กระดานจะยังอ่อนแอมาก สีหน้าขาวซีด แต่ก็ฝืนยืนหยัดพูดขึ้นว่า "ไท่จื่อเฟยช่างร้ายกาจเหลือเกินแล้ว ไม่ทราบว่านางใช้วิธีไหน ถึงกับเชื่อมต่อขาของข้าน้อยได้จริง ๆ อีกทั้ง.... อีกทั้งตอนนี้ข้าน้อยก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดมากมายเท่าไหร่แล้วด้วยเพคะ.....”

ฉินอี้หรานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองหนานหว่านเยียนอย่างพินิจ

ส่วนฉินมู่ไป๋ที่เมื่อครู่เพิ่งได้เห็นว่าสาวใช้คนนี้ยังมีชีวิตอยู่ สีหน้าก็น่าเกลียดจนดูไม่ได้มากพอแล้ว ยิ่งพอได้ยินสาวใช้พูดว่าหนานหว่านเยียนไม่เพียงช่วยชีวิตนางไว้เท่านั้น แต่ยังเชื่อมต่อขาของนางได้ด้วย ทั้งยังถึงกับบอกว่าจุดที่เกิดบาดแผลไม่รู้สึกเจ็บปวดแล้ว สีหน้าของฉินมู่ไป๋เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำดำทะมึนสุดขีด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ " นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?!"

นางก้าวขึ้นไปข้างหน้าแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน แล้วฉีกผ้าพันแผลที่พันขาของอาเหมียวออกตรง ๆ “ต่อกระดูกขาที่หักไปมันทำได้ง่าย ๆ แบบนั้นเสียที่ไหน? ทั้งยังไม่ทำให้เจ็บอีกด้วย นี่เจ้าคงไม่ได้พูดโกหกอยู่หรอกนะ?!”

เดิมทีฉินมู่ไป๋ยังคิดอยู่ว่า หนานหว่านเยียนคงซื้ออาเหมียวเพื่อให้นางจงใจพูดแบบนี้ จึงคิดจะเปิดโปงคำโกหกของหนานหว่านเยียนต่อหน้าสาธารณชน แต่เมื่อนางเปิดผ้าพันแผลออก ตัวนางเองยังถึงกับต้องตกใจจนตาค้าง

เห็นแค่ขาที่เดิมทีหักไปแล้วของอาเหมียว หลงเหลือเพียงร่องรอยของผิวหนังที่เชื่อมต่อกับผิวเนื้อเท่านั้น ไม่เพียงเชื่อมต่อกันอย่างเรียบเนียนสนิท แต่ยังเย็บปิดแผลได้อย่างประณีตและพิถีพิถัน ถึงขั้นที่ว่าถ้าไม่พินิจดูให้ละเอียด ก็จะไม่เห็นร่องรอยฝีเข็มใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

มีคนที่รู้เรื่องการแพทย์สี่ห้าอดใจไม่ไหว พลอยชะเง้อคอมองดูอย่างละเอียดด้วย

หนึ่งในนั้นถึงกับอ้าปากสูดเอาลมเย็น ๆ เข้าปอดไปเฮือกใหญ่ "นี่...นี่... นี่มัน... แม้แต่ช่างเย็บผ้าระดับปรมาจารย์ก็ยังเย็บได้ไม่เรียบร้อยขนาดนี้เลยนะ ไท่จื่อเฟยช่างเป็นเทพเซียนโดยแท้!"

“ไม่เพียงเท่านั้นนะ เกรงว่าไท่จื่อเฟยคงจะใช้เวทมนต์ห้ามเลือดแน่นอนแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หมอทั่ว ๆ ไปหลังการเย็บปิดแผลจะอย่างไรก็ต้องทิ้งคราบเลือดไว้บ้าง แต่บาดแผลที่ไท่จื่อเฟยทำการรักษาให้ กลับดูสะอาดสะอ้านไม่ทิ้งรอยคราบเลือดไว้เลย”

ชั่วเวลานี้ฉินมู่ไป๋โทสะพลันพวยพุ่งขึ้นมาจนเกินระงับแล้ว ในดวงตาเต็มไปด้วยแววไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และความเป็นศัตรู จ้องมองหนานหว่านเยียนตาเขม็ง "นี่มันเป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นท่านอาจารย์ของข้า ก็ยังทำได้ไม่ถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ!"

นางร่ำเรียนศาสตร์วิชาการแพทย์มาตั้งแต่ยังเด็ก การรักษาคนมือเท้าหักนับว่าง่ายอยู่ แต่คนมือเท้าหักจะหายดีได้ยากมาก แม้แต่อาจารย์ก็ยังรับประกันไม่ได้ว่าท่านจะทำได้ถึงระดับนี้ หรือถึงขั้นจัดการบาดแผลได้ดีขนาดนี้ แต่หนานหว่านเยียนกลับทำได้!

นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? หนานหว่านเยียนเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง?! ก็อายุไล่เลี่ยกับนางไม่ใช่หรือ? อาศัยอะไรถึงทำให้นางฝีมือร้ายกาจได้ขนาดนี้? !

ทันใดนั้น เงาร่างสีดำสูงใหญ่ร่างหนึ่งก็เข้ามาบดบังสายตาของนางจนมิด

กู้โม่หานมายืนขวางอยู่ข้างหน้าหนานหว่านเยียน ใช้สายตาแบบคนที่อยู่สูงกว่ามองลงไปที่ฉินมู่ไป๋ รัศมีที่พวยพุ่งอยู่รอบตัวเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเยือกจนอดสั่นสะท้านไม่ได้

“องค์หญิงฮั่นเฉิง เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า เจ้าเป็นคนที่สนับสนุนให้มีการแข่งขันเอง ตอนนี้พระชายาของข้าก็ได้นำทักษะที่มีออกมาแสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังจะดึงดันคัดค้านอยู่อีก?”

ฉินมู่ไป๋ถึงกับลมหายใจจุกอก หายใจเข้าก็ไม่ได้ หายใจออกก็ไม่ได้ ใบหน้าร้อนผ่าว ๆ ไปหมด

ในชีวิตนี้ นางไม่เคยได้รับความอับอายถึงขนาดนี้มาก่อนเลย!

แต่วันนี้ นางกลับต้องพ่ายแพ้ภายใต้เงื้อมมือของกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนครั้งแล้วครั้งเล่า! ได้รับความอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า!

หนานหว่านเยียนสั่งให้คนอื่นช่วยหามสาวใช้คนนั้นลงไป แล้วรีบทำความสะอาดบาดแผลอีกครั้งทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ

จากนั้นนางก็หันไปมองฉินมู่ไป๋ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "องค์หญิงฮั่นเฉิง เดิมทีเจ้าอยากเห็นข้าต่อกระดูก ก็สามารถหาพวกขาเทียม หรือไม่ก็วัสดุอย่างอื่นมาแทนก็ได้ แต่เพื่อการแข่งขันฉากเดียว เจ้าถึงกับทำร้ายคนโดยไม่มีเหตุผล ถ้าข้าเกิดพลาดพลั้งไป สาวใช้คนนี้ก็คงต้องพิการไปตลอดชีวิตแน่แล้ว องค์หญิงไม่รู้สึกว่าทำแบบนี้มันไม่เหมาะสมบ้างเลยรึ?”

คำพูดของหนานหว่านเยียนค่อนข้างขวานผ่าซาก จงใจชี้ให้เห็นความผิดของฉินมู่ไป๋ตรง ๆ

นางกำลังบอกว่าฉินมู่ไป๋ทำอะไรไม่มีขอบเขต ไม่สนใจไยดีชีวิตมนุษย์ ไม่มีความเมตตาและคุณธรรมอันดีที่คนเป็นหมอคนหนึ่งสมควรจะมี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้