ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 485

ยัยหนูทั้งสองพูดคุยเจื้อยแจ้วไม่หยุดปาก สองพี่น้องแย่งกันเล่าว่าคืนนี้ตอนที่อยู่ในห้องบรรทมของไทเฮา พวกนางทำอะไรไปบ้าง

เกี๊ยวน้อยเล่าอย่างกระตือรือร้นเต็มที่ เมื่อรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ก็จะถึงกับพับแขนเสื้อขึ้นพลางวาดแขนวาดขาทำท่าประกอบ ในขณะที่ซาลาเปาน้อยก็จะคอยหัวเราะอยู่ข้าง ๆขฌ พลางช่วยแก้ไขคำผิดพลาดในสำนวนที่เกี๊ยวน้อยพูดผิดเป็นครั้งคราว

หนานหว่านเยียนมองดูยัยหนูทั้งสอง ยิ้มแย้มหัวเราะอย่างอ่อนโยน

กู้โม่หานชมดูภาพฉากนี้ คิ้วคมได้รูปผ่อนคลายลงจนดูอ่อนโยนอย่างไม่รู้ตัว

เสียงหัวเราะแว่วหวานดังกังวานอยู่ในหูของเขา ชั่วเวลานี้ เขาเหมือนได้หลุดเข้าไปในสรวงสวรรค์

เวลาที่ได้อยู่กับหนานหว่านเยียนสามแม่ลูก มักทำให้เขารู้สึกสบายใจเสมอ

เพียงไม่นาน พวกเขาก็มาถึงจวนอ๋องอี้

กู้โม่หานลงจากรถก่อน แล้วอุ้มยัยหนูทั้งสองลงมาอย่างราบรื่น แม้ว่าสีหน้าจะเย็นชา แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนมาก

“คืนนี้พวกเจ้าเล่นสนุกเกินเลยกันมากพอแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนให้มาก ๆ ”

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยมองเขาตาแป๋ว ก่อนจะพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หนานหว่านเยียนลงจากรถม้า ชำเลืองมองกู้โม่หานแวบหนึ่ง "รู้แล้ว พวกเรากลับก่อนนะ"

พูดจบ นางก็จูงมือลูกสาวข้างละคน เดินช้า ๆ ตรงไปยังเรือนเซียงหลิน

จู่ ๆ ซาลาเปาน้อยที่อยู่ข้าง ๆ หนานหว่านเยียนก็หันหน้ากลับมา จ้องไปที่กู้โม่หานแล้วพูดด้วยท่าปากที่ดูใหญ่โตเกินจริงไปมาก ว่า "ขอบคุณ"

มุมปากของกู้โม่หานปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมารอยหนึ่ง รู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อย

ระหว่างทางเดินกลับ รอยยิ้มนั้นพลันหยุดชะงักลงทันที

ทันใดนั้น ที่หน้าอกก็รู้สึกปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง ที่ท้องส่วนล่างคล้ายกับมีเปลวไฟลุกโชติช่วงขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความรุ่มร้อนแล่นปราดไปทั่วร่าง รู้สึกปั่นป่วนราวกับอวัยวะภายในทั้งหมดถูกแผดเผาด้วยไฟบรรลัยกัลป์ก็ไม่ปาน

ชั่วขณะนั้น ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ เขาฝืนต่อต้านความรู้สึกไม่สบายในร่าง รีบกลับไปที่เรือนซีเฟิงของตัวเองทันที

วันนี้หนานหว่านเยียนเองก็เหนื่อยมากแล้ว เขาไม่ต้องการรบกวนนาง ด้วยเหตุนี้เขาจึงแอบไปเรียกหมอให้มาช่วยดูอาการ

ในห้อง สองตาของกู้โม่หานปิดสนิท ใบหน้าหล่อเหลาได้รูปมีหยาดเหงื่อเย็น ๆจฌ ไหลอาบ คิ้วคมดั่งกระบี่ขมวดแน่นเป็นปม ดูราวกับว่ากำลังเจ็บปวดอย่างยิ่ง

หมอจวนที่กำลังตรวจชีพจรให้เขาสีหน้าเปลี่ยนอย่างกะทันหัน ถึงกับลอบสูดหายใจเอาลมเย็น ๆ เข้าปอดไปเฮือกใหญ่ "นี่....."

“อะไร?” กู้โม่หานลืมตา น้ำเสียงฟังดูอ่อนแอไปบ้างเล็กน้อย แต่รัศมีอันดุร้ายที่แผ่อยู่รอบตัวนั้น ยังทำให้หมอจวนพาลตกใจกลัวจนอกสั่นขวัญหาย

หมอจวนรีบคุกเข่าลงทันที น้ำเสียงถึงกับสั่นสะท้าน

“เรียนท่านอ๋อง นี่ไม่ใช่ยาธรรมดา ข้าน้อยคิดว่ามันอาจผสมกับกู่พิษ เกรงว่าคงไม่มีใครแก้ได้”

ความรู้สึกเป็นปรปักษ์พลันระเบิดจ้าราวอยู่กลางตาพายุ แล่นพล่านไปมาในดวงตาเรียวยาวดังหงส์ของกู้โม่หาน เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "กู่ชนิดนี้ไม่มีวิธีแก้รึ?"

หมอจวนพยักหน้าด้วยอาการตัวสั่นงันงก จากนั้นก็ส่ายหน้าระรัวราวกลองป๋องแป๋ง "ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ขอรับ"

“ยานี้เป็นยาเสน่ห์ธรรมดา แต่เพราะผสมกู่ร่วมภิรมย์ ถ้าร่วมภิรมย์กับผู้หญิงก็จะไม่เกิดเรื่องร้ายใด ๆ แต่ถ้าไม่ร่วมภิรมย์กับผู้หญิง ....ก็เกรงว่าอาจจะ...อาจจะ...."

ความอดทนของกู้โม่หานใกล้จะหมดลงเต็มทีแล้ว "พูดมา!"

หมอจวนรีบพูดว่า "ท่านอาจร้อนจนร่างระเบิดตายได้เลยนะขอรับท่านอ๋อง!"

มันร้ายกาจขนาดนี้เชียวรึ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้