หนานหว่านเยียนสะดุ้งตกใจ ยกมือคิดอยากต่อต้าน แต่นางมีแรงน้อยมาก ไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้เลย
หนานหว่านเยียนรู้ข้อนี้ดี จึงไม่ทำการต่อสู้ที่ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป อีกอย่าง นางก็อยากรู้ว่า คนพวกนี้ต้องการวางแผนทำอะไร
เห็นหนานหว่านเยียนไม่ขัดขืนแล้ว ยังนึกว่านางยอมจำนน เขาจึงคว้าดึงหนานหว่านเยียนไปยังด้านหลังภูเขาเทียม อาศัยภูเขาเทียมบดบัง เอาผ้ายัดปากของนางไว้ก่อน ตอนที่มัดมือทั้งคู่ของนาง จู่ๆฝ่ามือของเขาก็เจ็บปวดขึ้นมา
คนคนนั้นรีบมองดูหนานหว่านเยียน เห็นนางถลึงตาใส่เขา จึงส่งเสียงเมิน มัดมือมัดเท้าของนางเสร็จแล้วก็เอาผ้าดำคลุมไว้ แล้วแบกตัวนางขึ้นมาเดินมุ่งหน้าไปทางใต้
หนานหว่านเยียนถูกคลุมหัวไว้ รอบๆมืดมิดไปหมด แต่นางรู้สึกว่า ตอนนี้ตนเองไม่ได้ออกไปจากเรือนเซิง
สักพัก นางก็ได้ยินเสียงเปิดประตู จากนั้น นางก็ถูกคนคนนั้นโยนวางลงพื้น ประตูห้องด้านหลังถูกปิดแล้วก็ลงกลอนล็อกไว้
หนานหว่านเยียนฟังอยู่สักพัก ภายในห้องเงียบสงัดจนน่ากลัว เหมือนไม่มีคน นางจึงใช้หัวพิงด้านข้างไว้ พยายามดันเอาผ้าที่คลุมหัวหลุดออกมา
รอเมื่อมองเห็นชัดเจน หลังจากนางมองดูสถานการณ์รอบๆ ก็แทบหยุดหายใจ
เห็นตรงหน้านางมีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลานอนอยู่ ตอนนี้กำลังหลับตาสนิท ท่าทีเหมือนทรมานอย่างมาก สีหน้าขาวซีดจนเกินเหตุ ใบหูกลับแดงไปจนถึงใบหน้า ดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก
คนคนนี้ก็คือ อ๋องเจ็ดกู้โม่หลิง
สายตาหนานหว่านเยียนสั่นไหว ผลที่ลักพาตัวนางมา คิดอยากให้นางกับกู้โม่หลิงมีอะไรกัน?
นางขยับตัวห่างไกลจากกู้โม่หลิงมาหน่อย พบว่าเขาหายใจค่อนข้างรุนแรง เหมือนถูกคนวางยาในปริมาณมาก
ทันใดนั้น ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา
ในขณะเดียวกันนางก็เข้าใจแล้วว่า องค์หญิงฮั่นเฉิงหมดสตินั้นเป็นเรื่องโกหก เหตุผลก็คือเพื่อหลอกล่อนาง การวางแผนของคนที่อยู่เบื้องหลังนั้น ต้องเป็นการวางแผนใหญ่ยิ่งกว่าที่นางคิดไว้
แต่ว่าตอนนี้ นางไม่รู้ว่าเมื่อกู้โม่หลิงตื่นขึ้นมาแล้วจะทำอะไรต่อนางหรือเปล่า แต่จากที่เคยหยั่งเชิงกู้โม่หลิงมาแล้วหลายครั้ง นางรู้ว่าคนคนนี้รอบคอบอย่างมาก มีความทะเยอทะยาน ต่อให้คิดลงมือทำอะไรนาง ก็น่าจะไม่ใช่ตอนนี้
ไม่ว่ายังไง ต่อให้รู้ว่าไม่มีความหวังแต่ก็ต้องลองเสี่ยงดูสักครั้ง
เมื่อคิดแบบนี้ หนานหว่านเยียนยื่นเท้าทั้งคู่ออกไป เตะไหล่กู้โม่หลิงเบาๆ ปากส่งเสียงร้อง “อู้อี้”
เห็นชายหนุ่มไม่ขยับเขยื้อน หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว เห็นมีแจกันดอกไม้บนโต๊ะด้านข้าง จึงขยับตัวไป ใช้หลังกระแทกชนขาโต๊ะอย่างแรง
ในที่สุด แจกันสั่นคลอนและตกลงสู่พื้นภายใต้แรงกระแทก เสียงดังจนแสบหู หนานหว่านเยียน พยายามดันร่างกาย ไปหยิบเอาเศษกระเบื้องมาหนึ่งอัน แล้วไปกรีดให้กู้โม่หลิงเลือดไหล
แล้วในตอนนี้ ด้านหลังก็มีเสียงแหบอย่างเจ็บปวดพูดขึ้นมาว่า “พี่.....สะใภ้หก?”
หนานหว่านเยียนหันกลับไปมองอย่างกะทันหัน เห็นกู้โม่หลิงไม่รู้ว่าลุกขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยืนอยู่ข้างหลังนาง จ้องมองดูนางจากที่สูง
สายตาของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความกระหายเลือดและพร่ามัว ยังค่อนข้างไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้หกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ข้า ข้ารู้สึกร้อนไปทั้งตัว.... รู้สึกอยาก อยาก....”
“วู้ วู้” หนานหว่านเยียนถลึงตาโต อยากจะพูดแต่ถูกเอาผ้ายัดปากไว้ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
เห็นกู้โม่หลิงเดินเข้ามาใกล้นาง พร้อมสีหน้าเจ็บปวด สายตาพร่ามัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...