หลังจากนั้นนาน ณ ตำหนักหย่างซิน
กู้โม่หานกำลังหลุบตาลงจัดการเรื่องกิจในวังอย่างจริงจัง ใบหน้าที่หล่อเหลามีความเหนื่อยล้าอย่างชัดเจน แต่การแววตาที่จดจ่อของเขากลับเพิ่มเสน่ห์ความเป็นผู้ใหญ่ได้มาก
เหล่าสาวใช้ในวังกวาดสายตามองดูเขาจากระยะไกล รู้สึกหน้าแดงใจเต้น วิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
ตอนที่ฮ่องเต้เป็นท่านอ๋องเขาหล่อมาก แต่หลังจากขึ้นเป็นฮ่องเต้ ก็ยิ่งเผด็จการมากขึ้น
วังหลังมีเพียงเหนียงเหนียงสองคน คอยอยู่ปรนนิบัติฮ่องเต้เช่นนี้ก็มีความสุขมากเหลือเกินแล้ว…
ในเวลานี้ เมื่อเสิ่นอี่ว์ได้รับข้อความก็รีบเข้าไปในตำหนัก ไล่สาวใช้ที่ทำความสะอาดอยู่ในวังออกไป โค้งคำนับต่อกู้โม่หานด้วยความเคารพ
“ฝ่าบาท ข้าน้อยได้รับข่าวว่า หลังจากฮองเฮาเหนียงเหนียงกลับมาจากตำหนักหลวนเฟิ่งของไทเฮามาถึงตำหนักหยูซิน ก็เอาแต่ปิดประตูไม่ยอมออกมา แต่องค์หญิงน้อยทั้งสองไปพบท่านน้าหลวง แต่องค์หญิงน้อยทั้งสองรีบกลับไปที่ตำหนักหยูซิน ไม่ได้อยู่กับท่านน้าหลวงนาน
ได้ยินดังนั้นนี้ คิ้วรูปดาบของกู้โม่หานก็ขมวดขึ้น มือที่อ่านสาส์นกราบทูลอยู่ก็ชะงักงัน
ริมฝีปากบางของเขาเม้มสนิทเป็นเส้นตรง ดวงตาสีเข้มแสดงความไม่พอใจ “สองสาวน้อยไปพบโม่หวิ่นหมิงมาหรือ?”
เสิ่นอี่ว์พยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ”
นางไม่ยอมนั่งรอความตายเฉยๆ แน่นอน
คิ้วของกู้โม่หานขมวดแน่นขึ้น
เขารู้ว่า ที่เด็กหญิงตัวน้อยไปพบโม่หวิ่นหมิง ต้องเป็นการไหว้วานของหนานหว่านเยียนแน่
บางทีอาจจะขอให้เด็กหญิงทั้งสองไปส่งของให้อะไรบางอย่าง หรือพูดอะไรสักอย่าง
เขาวางพู่กันขนหมาป่าในมือลง แล้วจ้องมองเสิ่นอี่ว์อย่างเย็นชา “จากนี้ไปจงเสริมกำลังป้องกันตำหนักหยูซินทุกกระเบียดนิ้ว แต่อย่าให้ฮองเฮาสังเกตเห็น ข้าต้องการให้พิธีมอบบรรดาศักดิ์ดำเนินไปตามกำหนดการอย่างราบรื่น อย่าให้เกิดเหตุอันใดขึ้นเด็ดขาด”
ท่าทางของเสิ่นอี่ว์จริงจังขึ้นมา “พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”
แต่เรื่องการป้องกันจะไม่ให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงรับรู้ได้อย่างไร เหนียงเหนียงฉลาดเป็นกรด อย่างไรก็สังเกตเห็นได้ง่ายอยู่แล้ว…
ยิ่งกว่านั้น ฮ่องเต้ยังบังคับฮองเฮาเหนียงเหนียงถึงเพียงนี้ ไม่กลัวหรือว่าสิ่งต่างๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อถึงที่สุด?
สุดท้ายเสิ่นอี่ว์ก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรมาก ไปดำเนินการตามความประสงค์ของกู้โม่หาน
ตกกลางคืน
หนานหว่านเยียนนั่งอยู่ข้างเตียงตามลำพัง จับจ้องไปที่ฝ่ามือ จมอยู่ในห้วงความคิดกับข้อความที่เด็กหญิงทั้งสองนำกลับมาจากโม่หวิ่นหมิง
ข้อความนั้นมีเพียงประโยคเดียว ต้องช่วยหว่านให้สมหวัง
หนานหว่านเยียนค่อยๆ บิดข้อความให้เป็นก้อนกลม แล้วโยนเข้าไปในเปลวเทียนข้างๆ
นางเฝ้าดูข้อความค่อยๆ สลายกลายเป็นควันสีเทา แสงไฟสะท้อนที่ลุกโชนอยู่ท่ามกลางดวงตาที่ชัดเจนและน่าเกรงขาม ดูแปลกและน่าขนลุกเป็นพิเศษ
ประโยคนี้ค่อนข้างตื้นเขิน แต่ความหมายก็ลึกซึ้งเช่นกัน นางต้องการจากไป คำพูดของโม่หวิ่นหมิงก็ยืนยันว่านางจะสมหวัง น่าจะต้องมีแผนการอยู่
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้พบหน้ากัน นางไม่รู้แผนการของเขา แต่เด็กหญิงทั้งสองกล่าวว่า โม่หวิ่นหมิงได้พาโม่หลีเข้ามาในวังด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...