“ท่านน้า!” หนานหว่านเยียนมองดูแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยเลือดของโม่หวิ่นหมิง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ
นางไม่มีกระทะแล้ว ก็เลยหยิบเอาหน้าไม้ที่โม่หวิ่นหมิงเคยมอบให้นาง สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจริงจัง “ท่านน้า ข้าจะไม่ปล่อยให้ท่านปกป้องข้าอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป ข้าเองก็สามารถปกป้องท่านได้ ท่านบาดเจ็บอยู่ ถอยมันหลบอยู่หลังข้าก่อน”
“มีคนออกไปเรียกคนมาเราช่วยแล้ว อดทนต่ออีกสักหน่อย!”
“สตรีที่ไหนปกป้องผู้ชายกัน” โม่หวิ่นหมิงดึงนางกลับไปอยู่ด้านหลังเหมือนเดิม “ช่วยได้ แต่ห้ามออกไปสู้อยู่ด้านหน้าเป็นอันขาด!”
ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ ทว่าโม่หวิ่นหมิงเองก็รู้ดี ว่าเขาเป็นเพียงแค่ขุนนางในราชสำนักเท่านั้น แม้ว่าฝีมือจะเก่งกาจแค่ไหน แต่เวลานี้ก็ไม่มีแผนอะไรในหัวเลย และก็ไม่มีกับดักที่วางไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ อีกด้วย
อีกอย่างนักฆ่าเหล่านี้โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ฝีมือการต่อสู้ก็ไม่ธรรมดา อาศัยแค่ดาบและขาที่อาจจะอดทนยืนได้ไม่นานของเขา มาเผชิญหน้ากับการโจมตีที่โหดเหี้ยมเหล่านี้ เขาคงจะต้านทานได้ไม่นานเท่าไหร่นัก
ทว่า ก็ไม่ใช่คราวของนางที่ต้องมาปกป้องเขา นางคือคนที่จะต้องปกป้องแม้ตัวตายก็ตาม
หนานหว่านเยียนไม่ไปแข็งขืนกับโม่หวิ่นหมิง เพียงแต่คอยยิงหน้าไม้อยู่ข้างๆ เขาเท่านั้น นางและโม่หวิ่นหมิงร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี คนหนึ่งถือหน้าไม้ อีกคนถือดาบยาวที่แหลมคม กลุ่มชายชุดดำจึงไม่สามารถเข้าใกล้ได้
แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พวกเขามีกันแค่สองคน คนหนึ่งตั้งครรภ์ ส่วนอีกคนคือคนพิการที่เพิ่งจะกลับมายืนได้ไม่นาน ในใจของหนานหว่านเยียนร้อนรนราวกับถูกเพลิงไฟเผาผลาญ แต่ยังต้องแบ่งสมาธิคอยมองสังเกตการณ์ว่ามีกองกำลังเสริมมาช่วยหรือไม่ ต้านทานเพียงหนึ่งนาทีราวกับผ่านวันเหมือนผ่านปี
หนานหว่านเยียนหายใจหอบเล็กน้อย นางถอยไปประชิดหลังชนหลังกับโม่หวิ่นหมิง พลางพูดขึ้นเสียงเบา “ท่านน้า คนพวกนี้พุ่งเป้ามาที่ข้า ท่านไปตามหากองกำลังช่วยเหลือ แล้วค่อยกลับมาช่วยข้า!”
หากเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าทั้งสองคงจะเกิดเรื่องเป็นแน่
แต่โม่หวิ่นหมิงยังคงปกป้องนางไม่ห่าง ตาดอกท้อปะทุไปด้วยความดุร้ายและความเกรี้ยวกราดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ไม่ได้!”
“ข้าเคยบอกแล้วว่าจะปกป้องเจ้า สิบปีที่แล้วข้าปกป้องดูแลเจ้าได้ ตอนนี้ ก็ทำได้เช่นกัน!”
เขาแค่รู้สึกเกลียด เกลียดที่ฝีมือวรยุทธ์ของเขาสู้กู้โม่หานไม่ได้ เกลียดที่เขาพิการนานขนาดนี้ ในเวลาที่วิกฤตเช่นนี้ กลับยังต้องลำบากให้หว่านหว่านมาต่อสู้ร่วมกับเขา
“ท่านน้า...” หนานหว่านเยียนหัวใจสั่นเทา ความอบอุ่นที่ไม่สามารถอธิบายได้แผ่ซ่านไปยังก้นบึ้งหัวใจของนาง
นางติดค้างท่านน้ามากจริงๆ รอให้กลับไปที่ต้าเซี่ยแล้ว นางจะต้องปฏิบัติต่อท่านน้าของนางเป็นอย่างดี ชดเชยในสิ่งที่นางติดค้างเขาตลอดสิบปีที่ผ่านมา!
เมื่อเห็นหนานหว่านเยียนและโม่หวิ่นหมิงยังคงสู้ไม่ถอย ชายชุดดำที่สวมหน้ากากก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้าย “ชายคนนี้ช่างเป็นอุปสรรคเสียจริง ฆ่าเพิ่มอีกคนก็ไม่เสียหายอะไร ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...