ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 856

“หยุดเดี๋ยวนี้เลย”  ลู่เยี่ยนอันขมวดคิ้ว  เขาเหลือบมองลู่เจียวเจียวอย่างอิดหนาระอาใจอย่างยิ่งคราหนึ่ง  สีหน้ายังมีความเบื่อหน่ายและขุ่นข้องรำคาญใจอยู่ไม่น้อย  “หงเหมิง  เจ้าสมควรทราบว่ามีการจัดลำดับของผู้อาวุโสกับผู้เยาว์  และความแตกต่างของผู้มีศักดิ์ฐานะสูงส่งกับผู้น้อย  เจ้าก็เป็นเพียงเด็กสาวที่เสด็จแม่อุ้มกลับมาเลี้ยงเท่านั้น  ในลำดับรุ่นของอาวุโส  ตามเหตุผลสมควรเรียกข้าด้วยความเคารพว่า ‘เสด็จพี่’ สักคำ”

“คำเรียกอย่างใกล้ชิดสนิทสนมมากเหมือนอย่าง พี่สี่ พี่ห้าและพี่หก เช่นนี้  เพียงเยียนเอ๋อร์เท่านั้นที่สามารถเรียกได้  เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่?”

พลันลู่เจียวเจียวถูกคำพูดโจมตีอัดใส่จนเหมือนกับก้างปลาติดคอทันใด  นางทั้งโกรธเคืองและไม่ยินยอม  แต่กลับไม่กล้าโต้แย้งคัดค้านกับลู่เยี่ยนอัน  กัดฟันพูดว่า  “ข้าทราบแล้ว  เสด็จพี่สี่……”

“แต่  ทว่าวันนี้พวกเขาเป็นผู้มาตอแยหาเรื่องข้าก่อนนะ  ข้าหาได้กระทำผิดอันใดไม่!”

ลู่เยี่ยนอันแค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่ง  พูดจาอัดใส่เข้าให้โดยตรง  “ลู่เจียวเจียว  ข้ามิเข้าใจจริงๆ ว่าตอนที่ท่านแม่เจ้าให้กำเนิดเจ้านั้น   ใช่ลืมมอบสติปัญญาใส่ในศีรษะเจ้าแล้วด้วยหรือไม่”

“ไฉนเจ้ามาถึงสถานที่นี้แล้ว  ไม่เพียงแค่ดวงตาใช้ไม่ได้แล้วเท่านั้น  ยังกล่าววาจาโป้ปดมดเท็จ  และปั้นน้ำเป็นตัวสร้างเรื่องราวเป็นตุเป็นตะขึ้นมาอีก?”

โยวเอ่อเองก็ยังถูกสภาวะพลังของลู่เยี่ยนอันผู้นี้ทำให้ตกใจจนตะลึงงันแล้ว  มิกล้าพูดมากแต่อย่างไร  และก็ปรารถนาอย่างยิ่งเช่นกันที่จะขยิบตาส่งสัญญาณให้ลู่เจียวเจียว  มิต้องการให้นางโต้เถียงอีกต่อไปแล้ว

ดวงตาของลู่เจียวเจียวแดงก่ำไปหมดแล้ว  “มิใช่เช่นนั้น  ข้า……”

ลู่เยี่ยนอันยื่นมือบอกให้หยุด  เขามิต้องการจะฟังเรื่องไร้สาระของนาง

“หงเหมิง  ถ้าหากเจ้าลืมหน้าที่ของเจ้าไปแล้ว  เช่นนั้นวันนี้ข้าก็จะสั่งสอนเจ้าแทนเสด็จแม่อีกรอบหนึ่งก็แล้วกัน”

“เยียนเอ๋อร์นั้น  คือเสด็จน้องหญิงของข้า  ซึ่งคู่ควรกับตำแหน่งทายาทของประมุขเจ้าครองแคว้นของแคว้นต้าเซี่ย  ศักดิ์ฐานะของนางสูงส่งและมีเกียรติมากแค่ไหนนั้น  ข้าก็มิต้องการพูดกับเจ้าให้เปลืองน้ำลายเช่นกัน”

“เจ้าก็ไม่จำเป็นพยายามอธิบายแก้ต่างให้ตนเองเช่นกัน  เจ้าข่มเหงรังแกเยียนเอ๋อร์ของพวกข้าอย่างใด  ข้าล้วนได้เห็นกระจ่างชัดเจนจนทะลุปรุโปร่งแล้ว”

เขาเหลือบมองลู่เจียวเจียวแล้วคราหนึ่ง  พลันน้ำเสียงเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเคร่งขรึมจริงจังจนน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งกะทันหัน

“ลู่เจียวเจียว  เจ้าช่างมีความสามารถในการพูดจาเก่งกาจฉาดฉานจริงๆ  ข้ากลับต้องการลองถามเจ้าดูว่า  เยียนเอ๋อร์ชีพจรสายโลหิตแท้จริงก็ยังไร้ประโยชน์  และก็ยังเป็นขยะ  ถ้าอย่างนั้นเจ้าซึ่งเป็น ‘องค์หญิงในนาม’ ที่อุ้มมาเลี้ยงคนนี้  นับเป็นตัวอะไรอีกล่ะ?  นับเป็นของปลอมเลียนแบบหรือ?  ของเทียมเลียนแบบ  ข้าเห็นว่าเจ้านั่นแหละจึงเป็นขยะ!”

สีหน้าลู่เจียวเจียวซีดเผือดแล้วอย่างฉับพลัน  ภายในดวงตาน้ำตาคลอหน่วยจวนเจียนร่วงหล่น  ช่างเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนักแล้ว  “เสด็จพี่สี่!”

เสด็จพี่สี่กลับด่านางเป็นของปลอมเลียนแบบ!

ลู่เยี่ยนอันไม่ต้องการฟัง  “อย่าได้หนวกหู  เจ้านั้นสติปัญญาไม่ค่อยดีนัก  ไปคัดลอกกฎระเบียบในพระราชวังสักหนึ่งร้อยเที่ยว  พัฒนาความจำให้ดีจำให้มั่นยาวนานมากขึ้น  และรู้จักศักดิ์ฐานะของตัวเองให้กระจ่างชัดเจนด้วย!”

ลู่ซูและลู่หย่วนก็มองจากตำแหน่งสูงลงมายังลู่เจียวเจียวเช่นกัน  หนานหว่านเยียนเท้าแขนสองมือกอดอก  กลับหาได้พูดอันใดไม่

ลู่เจียวเจียวชื่นชอบพลิกลิ้นกลับขาวเป็นดำจนเป็นนิสัยความเคยชินแล้ว  ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา  ให้บทเรียนแก่นางสักเล็กน้อยก็สมควรอยู่เช่นกัน

ดวงตาโม่เหยียนลึกซึ้งเล็กน้อย  ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดสิ่งใดอยู่

แต่ลู่เจียวเจียวโกรธเคืองจนเต้นผางแล้ว

นางจ้องมองหนานหว่านเยียนเขม็งด้วยความเคียดแค้นชิงชังและอิจฉาริษยา  แล้วก็มองลู่เยี่ยนอันอีกอย่างลึกซึ้งยิ่งนักคราหนึ่ง  ความคับแค้นใจมิยินยอมชนิดนั้นแทบจะล้นปรี่ออกมาแล้ว  “ข้าไม่ต้องการ!”

“เสด็จพี่สี่ไฉนท่านจึงมักปกป้องนางตลอดเวลา  โดยไม่แม้แต่จะมองข้าบ้าง?  นางอาศัยอะไรมาข่มเหงรังแกข้า  แล้วข้ายังต้องถูกลงโทษอีก?!”

นางโกรธจนลำคอหวานวูบแทบกระอัก  กล้ำกลืนอารมณ์โกรธนี้ลงไปแล้วลากตัวสาวใช้ได้ก็ต้องการจากไป  “โยวเอ่อ  พวกข้าไป!”

วันนี้นางไม่โต้เถียงกับหนานหว่านเยียนแล้ว  รอให้นางมีโอกาสเถอะ  จะต้องจัดการลงโทษหนานหว่านเยียนผู้นี้ให้สาสมใจอย่างแน่นอน!

โยวเอ่อรีบเร่งฝีเท้าติดตามไป  แต่พวกเขาทั้งสองคนยังมิทันได้ขยับออกแม้แต่ครึ่งก้าวด้วยซ้ำ  ลู่ซูและลู่หย่วนก็ขยับท่าร่างวูบขึ้นหน้าราวกับภูตผีปีศาจก็มิปาน  สกัดกั้นขวางทางไปของนายกับบ่าวสองคนไว้แล้วโดยตรง

พลันลู่เจียวเจียวร่างสั่นสะท้าน  แหงนหน้าขึ้นมองสองพี่น้องอย่างเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง  “เสด็จพี่ห้า  เสด็จพี่หก  พวกท่าน  พวกท่านนี้ต้องการทำอะไร?”

ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของสองพี่น้องช่างเย็นชา  กลิ่นอายเย็นเยียบน่าหวาดหวั่นครั่นคร้ามแผ่ออกมาจากตลอดทั่วทั้งร่างกาย  กำแพงมนุษย์ทั้งสองสกัดกั้นอยู่ในสถานที่นี้  เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่อนุญาตให้นางไป

คราวนี้ทำให้ลู่เจียวเจียวโกรธเคืองจนร่ำไห้โฮแล้ว

นางนั่งยองลงอยู่บนพื้น  หยดน้ำตาขนาดเท่าเม็ดถั่วทะลักออกมาจากหางตามิขาดสาย  ร่ำไห้จนหายใจกระหืดกระหอบ  “พวก  พวกท่านล้วนพากันข่มเหงรังแกข้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้