“หยุดเดี๋ยวนี้เลย” ลู่เยี่ยนอันขมวดคิ้ว เขาเหลือบมองลู่เจียวเจียวอย่างอิดหนาระอาใจอย่างยิ่งคราหนึ่ง สีหน้ายังมีความเบื่อหน่ายและขุ่นข้องรำคาญใจอยู่ไม่น้อย “หงเหมิง เจ้าสมควรทราบว่ามีการจัดลำดับของผู้อาวุโสกับผู้เยาว์ และความแตกต่างของผู้มีศักดิ์ฐานะสูงส่งกับผู้น้อย เจ้าก็เป็นเพียงเด็กสาวที่เสด็จแม่อุ้มกลับมาเลี้ยงเท่านั้น ในลำดับรุ่นของอาวุโส ตามเหตุผลสมควรเรียกข้าด้วยความเคารพว่า ‘เสด็จพี่’ สักคำ”
“คำเรียกอย่างใกล้ชิดสนิทสนมมากเหมือนอย่าง พี่สี่ พี่ห้าและพี่หก เช่นนี้ เพียงเยียนเอ๋อร์เท่านั้นที่สามารถเรียกได้ เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่?”
พลันลู่เจียวเจียวถูกคำพูดโจมตีอัดใส่จนเหมือนกับก้างปลาติดคอทันใด นางทั้งโกรธเคืองและไม่ยินยอม แต่กลับไม่กล้าโต้แย้งคัดค้านกับลู่เยี่ยนอัน กัดฟันพูดว่า “ข้าทราบแล้ว เสด็จพี่สี่……”
“แต่ ทว่าวันนี้พวกเขาเป็นผู้มาตอแยหาเรื่องข้าก่อนนะ ข้าหาได้กระทำผิดอันใดไม่!”
ลู่เยี่ยนอันแค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่ง พูดจาอัดใส่เข้าให้โดยตรง “ลู่เจียวเจียว ข้ามิเข้าใจจริงๆ ว่าตอนที่ท่านแม่เจ้าให้กำเนิดเจ้านั้น ใช่ลืมมอบสติปัญญาใส่ในศีรษะเจ้าแล้วด้วยหรือไม่”
“ไฉนเจ้ามาถึงสถานที่นี้แล้ว ไม่เพียงแค่ดวงตาใช้ไม่ได้แล้วเท่านั้น ยังกล่าววาจาโป้ปดมดเท็จ และปั้นน้ำเป็นตัวสร้างเรื่องราวเป็นตุเป็นตะขึ้นมาอีก?”
โยวเอ่อเองก็ยังถูกสภาวะพลังของลู่เยี่ยนอันผู้นี้ทำให้ตกใจจนตะลึงงันแล้ว มิกล้าพูดมากแต่อย่างไร และก็ปรารถนาอย่างยิ่งเช่นกันที่จะขยิบตาส่งสัญญาณให้ลู่เจียวเจียว มิต้องการให้นางโต้เถียงอีกต่อไปแล้ว
ดวงตาของลู่เจียวเจียวแดงก่ำไปหมดแล้ว “มิใช่เช่นนั้น ข้า……”
ลู่เยี่ยนอันยื่นมือบอกให้หยุด เขามิต้องการจะฟังเรื่องไร้สาระของนาง
“หงเหมิง ถ้าหากเจ้าลืมหน้าที่ของเจ้าไปแล้ว เช่นนั้นวันนี้ข้าก็จะสั่งสอนเจ้าแทนเสด็จแม่อีกรอบหนึ่งก็แล้วกัน”
“เยียนเอ๋อร์นั้น คือเสด็จน้องหญิงของข้า ซึ่งคู่ควรกับตำแหน่งทายาทของประมุขเจ้าครองแคว้นของแคว้นต้าเซี่ย ศักดิ์ฐานะของนางสูงส่งและมีเกียรติมากแค่ไหนนั้น ข้าก็มิต้องการพูดกับเจ้าให้เปลืองน้ำลายเช่นกัน”
“เจ้าก็ไม่จำเป็นพยายามอธิบายแก้ต่างให้ตนเองเช่นกัน เจ้าข่มเหงรังแกเยียนเอ๋อร์ของพวกข้าอย่างใด ข้าล้วนได้เห็นกระจ่างชัดเจนจนทะลุปรุโปร่งแล้ว”
เขาเหลือบมองลู่เจียวเจียวแล้วคราหนึ่ง พลันน้ำเสียงเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเคร่งขรึมจริงจังจนน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งกะทันหัน
“ลู่เจียวเจียว เจ้าช่างมีความสามารถในการพูดจาเก่งกาจฉาดฉานจริงๆ ข้ากลับต้องการลองถามเจ้าดูว่า เยียนเอ๋อร์ชีพจรสายโลหิตแท้จริงก็ยังไร้ประโยชน์ และก็ยังเป็นขยะ ถ้าอย่างนั้นเจ้าซึ่งเป็น ‘องค์หญิงในนาม’ ที่อุ้มมาเลี้ยงคนนี้ นับเป็นตัวอะไรอีกล่ะ? นับเป็นของปลอมเลียนแบบหรือ? ของเทียมเลียนแบบ ข้าเห็นว่าเจ้านั่นแหละจึงเป็นขยะ!”
สีหน้าลู่เจียวเจียวซีดเผือดแล้วอย่างฉับพลัน ภายในดวงตาน้ำตาคลอหน่วยจวนเจียนร่วงหล่น ช่างเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนักแล้ว “เสด็จพี่สี่!”
เสด็จพี่สี่กลับด่านางเป็นของปลอมเลียนแบบ!
ลู่เยี่ยนอันไม่ต้องการฟัง “อย่าได้หนวกหู เจ้านั้นสติปัญญาไม่ค่อยดีนัก ไปคัดลอกกฎระเบียบในพระราชวังสักหนึ่งร้อยเที่ยว พัฒนาความจำให้ดีจำให้มั่นยาวนานมากขึ้น และรู้จักศักดิ์ฐานะของตัวเองให้กระจ่างชัดเจนด้วย!”
ลู่ซูและลู่หย่วนก็มองจากตำแหน่งสูงลงมายังลู่เจียวเจียวเช่นกัน หนานหว่านเยียนเท้าแขนสองมือกอดอก กลับหาได้พูดอันใดไม่
ลู่เจียวเจียวชื่นชอบพลิกลิ้นกลับขาวเป็นดำจนเป็นนิสัยความเคยชินแล้ว ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ให้บทเรียนแก่นางสักเล็กน้อยก็สมควรอยู่เช่นกัน
ดวงตาโม่เหยียนลึกซึ้งเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดสิ่งใดอยู่
แต่ลู่เจียวเจียวโกรธเคืองจนเต้นผางแล้ว
นางจ้องมองหนานหว่านเยียนเขม็งด้วยความเคียดแค้นชิงชังและอิจฉาริษยา แล้วก็มองลู่เยี่ยนอันอีกอย่างลึกซึ้งยิ่งนักคราหนึ่ง ความคับแค้นใจมิยินยอมชนิดนั้นแทบจะล้นปรี่ออกมาแล้ว “ข้าไม่ต้องการ!”
“เสด็จพี่สี่ไฉนท่านจึงมักปกป้องนางตลอดเวลา โดยไม่แม้แต่จะมองข้าบ้าง? นางอาศัยอะไรมาข่มเหงรังแกข้า แล้วข้ายังต้องถูกลงโทษอีก?!”
นางโกรธจนลำคอหวานวูบแทบกระอัก กล้ำกลืนอารมณ์โกรธนี้ลงไปแล้วลากตัวสาวใช้ได้ก็ต้องการจากไป “โยวเอ่อ พวกข้าไป!”
วันนี้นางไม่โต้เถียงกับหนานหว่านเยียนแล้ว รอให้นางมีโอกาสเถอะ จะต้องจัดการลงโทษหนานหว่านเยียนผู้นี้ให้สาสมใจอย่างแน่นอน!
โยวเอ่อรีบเร่งฝีเท้าติดตามไป แต่พวกเขาทั้งสองคนยังมิทันได้ขยับออกแม้แต่ครึ่งก้าวด้วยซ้ำ ลู่ซูและลู่หย่วนก็ขยับท่าร่างวูบขึ้นหน้าราวกับภูตผีปีศาจก็มิปาน สกัดกั้นขวางทางไปของนายกับบ่าวสองคนไว้แล้วโดยตรง
พลันลู่เจียวเจียวร่างสั่นสะท้าน แหงนหน้าขึ้นมองสองพี่น้องอย่างเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง “เสด็จพี่ห้า เสด็จพี่หก พวกท่าน พวกท่านนี้ต้องการทำอะไร?”
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของสองพี่น้องช่างเย็นชา กลิ่นอายเย็นเยียบน่าหวาดหวั่นครั่นคร้ามแผ่ออกมาจากตลอดทั่วทั้งร่างกาย กำแพงมนุษย์ทั้งสองสกัดกั้นอยู่ในสถานที่นี้ เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่อนุญาตให้นางไป
คราวนี้ทำให้ลู่เจียวเจียวโกรธเคืองจนร่ำไห้โฮแล้ว
นางนั่งยองลงอยู่บนพื้น หยดน้ำตาขนาดเท่าเม็ดถั่วทะลักออกมาจากหางตามิขาดสาย ร่ำไห้จนหายใจกระหืดกระหอบ “พวก พวกท่านล้วนพากันข่มเหงรังแกข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...