ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 858

“คุณชายโม่เหยียน พวกข้าน่าจะสนทนากันหน่อยนะ?”

โม่เหยียนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง เมื่อได้ยินน้ำเสียงวอนหาเรื่องชวนทุบตีนี้แล้วก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เขาเงยหน้าขึ้นมองเฉิงซูหย่วนเบื้องหน้าที่ดูเหมือนยิ้มแต่มิเชิงยิ้มอย่างเย็นชา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชวนตกใจว่า “มีปัญหาเรอะ?”

เฉิงซูหย่วนเก็บด้ามจิ้วกลับคืน เดินออกมาอย่างเรื่อยๆ ไม่รวดเร็วและมิเชื่องช้า ยืนขวางทางอยู่เบื้องหน้าของโม่เหยียน

เขาหยีตาลงครึ่งหนึ่งพิจารณามองคนตรงหน้าผู้นี้ ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง กล่าวเตือนขึ้นว่า

“แม้ว่าเจ้าจะเพียบพร้อมทั้งความรู้ด้านอักษรศาตร์และวิทยายุทร์เก่งทั้งบู๊และบุ๋น รูปลักษณ์ก็ถือว่าไม่เลวอยู่ แต่ข้าก็ยังคงต้องขอเตือนเจ้าสักเล็กน้อยว่า องค์หญิงนั้นก็เพียงแค่ถูกตาต้องใจเจ้าโดยบังเอิญเท่านั้นเอง เจ้าอย่าได้หลงตัวเองทะนงตนลำพองใจมากเกินไป”

“องค์หญิงนั้นเนื่องเพราะเห็นใจเจ้าจึงรับเจ้าเอาไว้ แต่ข้านั้นแตกต่างกับเจ้า ข้าคอยเป็นเพื่อนอยู่เคียงข้างองค์หญิงตลอดมา ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับองค์หญิงสนิทสนมใกล้ชิดจนมิอาจทำลายได้”

“ข้ารักองค์หญิงอย่างลึกซึ้งดุจทะเลดั่งห้วงมหาสมุทร องค์หญิงจะเป็นของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น เจ้ามิได้เห็นหรือวันนี้ข้าพูดว่าค่ำคืนนี้จะบรรเลงพิณให้นางฟัง นางก็มิได้แสดงท่าทีปฏิเสธแต่อย่างไร? หากเจ้าฉลาดมากเพียงพอแล้วละก็ จะต้องไม่คิดหักหาญปะทะชนกับข้าแล้ว”

เขาช่างภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ยกหางยืนยอชมตัวเองจนสูงลิ่วแทบเทียมฟ้าแล้ว การแสดงออกที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงเช่นนั้น แทบทำให้ผู้อื่นละอายใจที่ตนมิอาจจะสู้ได้

แต่โม่เหยียนไม่มีท่าทีหวั่นไหวแม้แต่น้อยนิด เขาเพียงแค่จ้องมองดูเฉิงซูหย่วนเท่านั้น สำนึกการฆ่าฟันและรังสีอันเหี้ยมโหดดุดันพลุ่งพล่านที่แผ่ออกมาจากในดวงตาสีดำสนิท กลับทำให้สายลมก็ยังหนาวเหน็บเยือกเย็นลงมากขึ้นแล้วหลายส่วน

“ถ้าดวงตามืดบอด อย่างน้อยก็ยังรักษาให้หายได้ แต่หากไร้ซึ่งสติปัญญาแล้วละก็ เช่นนั้นก็ไร้โอสถสามารถรักษาได้แล้ว”

“ถ้าข้าจำได้ไม่ผิดละก็ วันนี้เจ้านั้นได้ถูกองค์หญิงปฏิเสธไปโดยตรงแล้ว”

เอ่ยปากว่าสนิทสนมใกล้ชิดอย่างยิ่งกับหนานหว่านเยียนต่อหน้าเขา คือการรนหาที่ตายชัดๆ

เฉิงซูหย่วนยังคิดต้องการพูดจาขู่เข็ญคุกคามอีกสักหลายคำ แต่หลังจากสบตากับดวงตาสีดำสนิทเย็นเฉียบทั้งคู่ของโม่เหยียนแล้ว พลันต้องรู้สึกตกใจจนกลืนน้ำลายลงคอแล้วดังเอื๊อก

มิอาจตอแย!

สามคำนี้ผุดขึ้นมาภายในห้วงคำนึงของเขาในทันใด

เจ้าหมอนี่ ไฉนรังสีสังหารช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก?!

เขายิ้มพลางกระแอมไอเสียงแห้งสองคราทันที เห็นได้ชัดเกิดความขี้ขลาดตาขาวขึ้นมาแล้ว ไม่ทำตัวหยิ่งยโสโอหังอีกต่อไปแล้ว แต่โน้มเข้าไปใกล้โม่เหยียนและวางมือพาดบนไหล่ของเขาอย่างสุดแสนสนิทสนมคุ้นเคย พูดอย่างสัตย์ซื่อจริงใจมีความปรารถนาดีอย่างยิ่งขึ้นว่า “ท่านพี่โม่เหยียน อย่าได้ทำเช่นนี้ มีคำพูดใดสามารถตกลงกันได้”

โม่เหยียนสลัดมือเขาออกอย่างเย็นชา “ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า เจ้าอย่าได้มางอแขนโอบไหล่อย่างใกล้ชิดกับข้าประเสริฐกว่า จะได้มิต้องให้ผู้อื่นเห็นแล้ว เข้าใจผิดคิดว่าเจ้ารสนิยมชื่นชอบอันใดที่ผิดปกติมิอาจพบหน้าผู้คนเสียอีก”

“เจ้า——” พลันสีหน้าเฉิงซูหย่วนผนึกแข็งค้างไปทันใด แต่แล้วก็ระงับอารมณ์โมโหความโกรธเอาไว้แล้ว “เจ้ามิจำเป็นต้องไม่เป็นมิตรกับข้ามากถึงขนาดนั้น เจ้าควรทราบว่าสำหรับข้าแล้ว เจ้าหาใช่ภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุดไม่ สำหรับเจ้าเองก็เช่นเดียวกัน พวกข้าสองคนในเวลานี้ ต่างล้วนมีศัตรูร่วมกันอยู่คนหนึ่งซึ่งก็คือ——เย่เชียนเฟิง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้