ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 901

ทันใดนั้นหนานหว่านเยียนก็นึกถึงสิ่งใดขึ้นมาได้แล้ว  นางหัวเราะเย้ยหยันคราหนึ่งอย่างกะทันหัน  รินสุราจนเต็มถ้วยให้ตนเองอีกถ้วยหนึ่ง  แหงนหน้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดถ้วย

ผู้คนในโลกหล้านี้มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน  ในเมื่อมีผู้มากน้ำใจเห็นคุณค่าของความรักมากถึงปานนี้อย่างโม่เหยียนที่รู้จักสำนึกผิดแล้วปรับปรุงแก้ไข  และก็มีที่เหมือนเช่นเดียวกับคนผู้นั้นเช่นกัน  ทั้งๆ ที่ทราบแต่แรกแล้วว่ากระทำผิดพลาดไปแล้วมากมายอย่างยิ่ง  กลับยังคงกระทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ประเภทดื้อรั้นดันทุรังยึดถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่

นึกถึงท่านน้าที่เสียชีวิตอย่างอนาถภายใต้ธนูของคนผู้นั้น  นึกถึงหยุนอี่ว์โหรผู้มีจิตใจชั่วร้ายที่สมควรตายแต่แรกเนิ่นนานแล้ว  แต่กลับยังคงลอยนวลกระหืดกระหอบยืดเวลาก่อนตายออกไปชั่วคราวก่อน  หนานหว่านเยียนก็กำถ้วยสุราจนแน่นแล้ว  ริมฝีปากแดงยิ้มยกขึ้นอย่างขบขันและส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมา  “โชคชะตาช่างล้อเล่นกับผู้คนจริงๆ”

ไม่ทราบว่านางกำลังคิดสิ่งใดบ้าง  ยกถ้วยสุราขึ้นมาแล้วโดยตรง  ครั้งนี้กลับมิใช่รินสุราให้ตนเองเพียงถ้วยเดียวเท่านั้น  ยังเงยหน้าขึ้นมองไปทางโม่เหยียน  สีหน้าเปี่ยมความเห็นอกเห็นใจคนหัวอกเดียวกัน  “เจ้าก็เป็นคนชะตาชีวิตอาภัพคนหนึ่งเช่นกัน  มาร่ำดื่มสุราด้วยกันเถอะ”

โม่เหยียนมองดูหนานหว่านเยียนดื่มสุราถ้วยแล้วถ้วยเล่าลงไปอย่างแปลกใจ  เขาอดที่จะเอ่ยปากถามขึ้นไม่ได้ว่า  “องค์หญิงชื่นชอบดื่มสุราอย่างยิ่งหรือ?”

ควรทราบว่า  ในอดีตความสามารถในเชิงสุราของนางย่ำแย่ยิ่งนัก  ดื่มเสร็จแล้วก็จะเมามายด้วยฤทธิ์สุราจนอาละวาดอย่างมิสามารถควบคุมได้……

กรอกสุราเข้าไปแล้วอย่างต่อเนื่องมากมายหลายถ้วย  ในห้วงคำนึงหนานหว่านเยียนรู้สึกวิงเวียนขึ้นมาบ้างแล้ว  นางกุมศีรษะไว้ด้วยมือข้างเดียว  ดื่มเข้าไปอย่างไม่ครั่นคร้ามอีกถ้วยหนึ่ง

“ข้าชื่นชอบดื่มสุรายิ่งนัก  แต่ในอดีตความสามารถในเชิงสุราของข้าย่ำแย่อย่างยิ่ง  ดื่มเพียงเล็กน้อยก็เมามายจนอาละวาดแล้ว  ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วมิกล้าแตะต้องสุรา  แต่ตอนนี้หลังจากให้กำเนิดอันอันและน่าวน่าวแล้วก็ดีขึ้นอย่างมากมายแล้ว”

“ดื่มสุราสามารถระงับความเจ็บปวด  และก็สามารถทำให้จิตใจข้าสงบลงได้ชั่วคราว  ลืมเลือนปัญหาขุ่นข้องกวนใจได้อย่างมากมาย  ทุกครั้งที่ร่ำดื่มจนเมามายแล้ว  ข้ายังสามารถนอนหลับอย่างสนิทอีกด้วย”

ได้ยินหนานหว่านเยียนเสแสร้งพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาอย่างสบายๆ  โม่เหยียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกระบี่แนบแน่นมากยิ่งขึ้น  ใบหน้าที่ขาวผ่องหล่อเหลาคมคายและเย็นชาเต็มเปี่ยมด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวระทมใจ

ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเส้นหนึ่ง  เขากำลังคิดจะเอ่ยปาก  ทันใดนั้นก็ได้ยินหนานหว่านเยียนถามว่า  “ใช่แล้ว  สองเรื่องที่ข้ามอบหมายให้เจ้านั้น  ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?”

ดวงตาของโม่เหยียนดูลึกซึ้งวูบ  พูดตอบตามความจริงว่า  “กราบเรียนองค์หญิง  ตำแหน่งที่อยู่เฉพาะของกาวม่านหย่วน  ข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้ว  แต่เวลานี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก”

“สำหรับหยุนอี่ว์โหรวที่ท่านกังวลใจผู้นั้น  ข้าน้อยก็ได้ใช้คนไปเสาะแสวงหาข่าวคราวของนางแล้วเช่นกัน  แม้ว่ายามกะทันหันยังไม่มีคำตอบกลับมา  แต่ผ่านไปอีกช่วงเวลาหนึ่งก็สมควรจะทราบข่าวแล้ว”

หนานหว่านเยียนดื่มสุราเข้าไปอีกคำหนึ่ง  ยิ่งวิงเวียนศีรษะมากขึ้นแล้ว  กล่าวอย่างไม่เร่งรีบมิเชื่องช้าว่า  “ก้าวหน้าเร็วกว่าที่ข้าจินตนาการคาดคิดไว้เสียอีก”

“แต่ว่าในเมื่อเจ้ามีความสามารถมากเช่นนี้  ยังมีผู้ใดที่แม้แต่เจ้าเองก็ยังไม่สามารถค้นหาพบ……”

ความหมายนอกเหนือคำพูดนั้น  ก็คือกำลังพูดถึงคนผู้นั้นที่โม่เหยียนบอกว่าเขาต้องการค้นหานั่นเอง

การค้นหาข่าวสารข้ามแว่นแคว้นเกี่ยวกับหยุนอี่ว์โหรวนั้นมิต้องสงสัยว่าคือการงมเข็มในมหาสมุทร  เป็นความยากลำบากมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณเหนือความยากลำบาก  และเขาก็หาได้อาศัยการช่วยเหลือจากพลังอำนาจของนางไม่  แต่ใช้ความสัมพันธ์ของเส้นสายติดต่อส่วนตัวไปเสาะแสวงหา  แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือธรรมดา

ถ้าอย่างนั้นแล้วคนที่เขาต้องการค้นหา  ไฉนจึงค้นหาไม่พบอีกเล่า……

โม่เหยียนพูดไม่ออกเหมือนก้างปลาติดอยู่ในลำคอ  การเคลื่อนไหวมือบีบนวดขาของนางก็ยังผนึกค้างหยุดชะงักลงแล้ว  ยามกะทันหันไม่ทราบจะตอบอย่างใด

“ข้าน้อย……”

เขาเงยหน้ามองไปทางหนานหว่านเยียน  กลับพบว่านางกำลังฟุบอยู่บนโต๊ะ  และผล็อยหลับสนิทไปแล้ว

จิตใจของโม่เหยียนได้ผ่อนคลายลงโดยสิ้นเชิง  เขาหยุดสองมือที่บีบนวดลงแล้ว  ปัดเส้นผมที่กระจายอยู่บริเวณข้างหูของหนานหว่านเยียนอย่างระมัดระวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้